ทนายดังแนะช่างภาพ ฟ้องเจ้าภาพงานแต่ง หมิ่นขโมยสินสอด1ล้าน ยังไร้คำขอโทษ ลั่นอาชีพนี้ก็มีศักดิ์ศรี เล็งรับคำขอโทษเป็นเงินสดเท่านั้น

จากกรณีช่างภาพไปถ่ายภาพบรรยากาศงานวิวาห์ของเจ้าบ่าว เจ้าสาวป้ายแดง ในพื้นที่ จ.กำแพงเพชร ต่อมาเกิดปัญหา เนื่องจากสินสอดจำนวน 1 ล้านบาท หายไป แล้วแม่ของเจ้าสาวหาว่าช่างภาพเป็นคนเอาไป จนฝ่ายช่างภาพถึงกับเสียหายเพราะถูกกล่าวหาว่าเป็นขโมย

วันที่ 31 มี.ค.65 ฝ่ายช่างภาพที่ถูกกล่าวหาเปิดใจกับรายการ “คุยทะลุดราม่า” ช่องเวิร์คพอยท์ 23 โดยมีคุณปอเปี๊ยะ กาลเวลา เสาเรือน เป็นพิธีกร ว่าคนที่อยู่กับเงินเป็นคนสุดท้ายคือแม่ของเจ้าสาว ซึ่งหลังจากเสร็จพิธีมอบเงินสินสอดให้ฝ่ายแม่เจ้าสาวแล้ว ด้านช่างภาพก็ไม่ได้ข้องเกี่ยว เพราะต้องไปเตรียมสถานที่เพื่อถ่ายภาพขั้นตอนต่อไปของพิธี ซึ่งหลังจากเสร็จสิ้นพิธีแล้วเมื่อกลับถึงบ้าน ออร์แกไนซ์ก็โทรมาบอกว่าเกิดปัญหาเนื่องจากสินสอดหายไป จึงรีบไปที่บ้านงานกลับถูกแม่เจ้าสาวกล่าวหาว่าเป็นคนขโมยสินสอดไป

แต่ล่าสุดความจริงได้กระจ่างแล้วว่า สินสอดดังกล่าวเป็นสินสอดเช่า ซึ่งระหว่างเข้ารายการ ฝ่ายเจ้าบ่าวก็ได้เดินทางไปให้ปากคำที่ สภ.ทรงธรรม จ.กำแพงเพชร โดยให้การว่า หลังเสร็จสิ้นการมอบสินสอด โดยแม่ของเจ้าสาวได้แบกเงินไปเก็บในห้องนอนที่ 1 จากนั้นล็อกกุญแจเสร็จเรียบร้อย เจ้าบ่าวก็ใช้ช่วงเวลาตอนบ่าย ที่ทุกคนกำลังชุลมุนกับงานเลี้ยงที่ชั้น 1 ขึ้นไปเอาเงินสินสอดนั้นออกมาโดยไม่ได้บอก เพื่อนำเอาไปคืนให้กับเจ้าของเงินที่ให้เช่ามา ในอัตราค่าเช่าล้านละสี่หมื่นบาท ซึ่งด้านคดีความเจ้าบ่าวถูกดำเนินคดีในข้อหาลักทรัพท์เป็นที่เรียบร้อย

ขณะที่ด้านช่างภาพรู้สึกโล่งใจ เหมือนได้ล้างมลทิน เพราะก่อนหน้านี้เวลาไปเดินตลาดก็มีสายตาจากชาวบ้านมองมาแบบไม่เป็นมิตร กลายเป็นจำเลยสังคมทั้งๆ ที่ไม่ใช่คนผิด รู้สึกสงสารลูก แต่ทั้งนี้หลังเกิดเรื่องก็ไม่เคยได้รับการขอโทษหรือติดต่ออะไรทั้งสิ้นจากทางเจ้าภาพเลย มีแค่เจ้าหน้าที่ตำรวจโทรมาสอบถามข้อมูลทางคดีความ นอกจากนี้ทางออร์แกไนซ์ก็มีสายปริศนา โทรมาบอกว่าไม่อยากให้พูดเรื่องนี้แล้ว

ทั้งนี้ด้านนายรณณรงค์ แก้วเพ็ชร์ ประธานเครือข่ายรณรงค์ทวงคืนความยุติธรรมในสังคม ก็ได้แนะให้ด้านช่างภาพไปแจ้งความดำเนินคดีกับทางเจ้าภาพในข้อหาหมิ่นประมาท เพราะเป็นผู้เสียหายถูกกล่าวหาให้เสียชื่อเสียง ตอนที่ถูกกล่าวหาว่าเป็นขโมยคนทั้งประเทศรู้ไปแล้ว แต่ในวันที่ความจริงกระจ่างบางส่วนก็ไม่ได้รู้ความจริง และทางเจ้าภาพก็ไม่ได้โทรมาขอโทษด้วย ต้องดำเนินคดีเท่านั้น ทำให้จากที่มีแต่สายตำรวจโทรมา ต่อไปจะมีแต่สายจากเจ้าภาพบ้าง พร้อมปิดท้ายด้วยว่าอาชีพนี้ก็มีศักดิ์ศรี เล็งรับคำขอโทษเป็นเงินสดเท่านั้น

ติดตามเต็มๆ ในรายการ “คุยทะลุดราม่า” ลิงก์

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน