เต้ ตั้งโต๊ะแถลง เปิดข้อสงสัยคดีแตงโม ยื่นข้อมูลให้ DSI แล้ว ด้านทนายกฤษณะ จะไม่ยอมอีกต่อไป พร้อมโต้กลับทันที!

เมื่อเวลา 13.25 น. วันที่ 11 เม.ย. 65 ที่ห้องประชุมชั้น 1 โรงแรมอัณนา นาวา อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี นายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ หรือ ส.ส.เต้ หัวหน้าพรรคไทยศรีวิไลย์ พร้อมด้วย นายราชวัชร์ จีระตระกูล หัวหน้าชุดเฉพาะกิจสืบสวนคดีการเสียชีวิตของแตงโม , ทนายกฤษณะ ศรีบุญพิมพ์สวย หัวหน้าคณะทำงาน ติดตามคดีแตงโม และ ทนายบัญชา สุชญา รองหัวหน้าคณะทำงานด้านกฏหมายติดตามคดีแตงโม ได้แถลงข่าว เปิดคลิปภาพหลักฐานในคดี พร้อมตอบประเด็นข้อสงสัย

นายมงคลกิตติ์ กล่าวว่า ได้ติดตามคดีมาตลอด วันนี้จะแถลง 2 เรื่อง โดยเรื่องแรก แถลงเรื่องการตั้งข้อสังเกต ซึ่งข้อมูลนี้ได้มอบให้กับ กรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ ดีเอส และได้ขออนุญาตแล้ว ส่วนเรื่องที่ 2 จะแถลงเรื่องข้อสงสัยที่ประชาชนสงสัย ซึ่งคดีนี้เป็นคดีที่แตกต่างจากคดีอื่นๆ

นายราชวัชร์ กล่าวว่า คดีนี้มีความผิดปกติมากมาย ซึ่งตนนำข้อมูลจากสื่อมวลชน และข้อมูลจากโซเชียลมาตั้งข้อสงสัย 3 เรื่องใหญ่ๆ

เรื่องแรก รูปของกระติก ที่ถ่ายตรงบริเวณสะพานพระราม 8 เวลา 21.56 น. ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ปิดไฟตอน 21.00 น. แต่รูปที่กระติกถ่ายออกมานั้น 2 รูป จะเห็นไฟด้านขวาบนสะพาน ส่วนอีก 1 รูป ปรากฏว่าเห็นไฟทั้ง 2 ด้าน ตนตั้งข้อสันนิษฐานว่า “ทุกรูปตัดต่อขึ้นมาทั้งหมด โดยตัดต่อนำรูปกระติกกับแตงโมมารวมกัน เพื่อให้เชื่อว่าทุกคนมาที่สะพานพระราม 8 แต่จริงๆ แล้วไม่ได้มา” และเหตุผลที่ทำรูปปลอมขึ้นมา เพื่อให้มองว่าทุกคนบนเรือมีความสุข ไปถ่ายรูปสะพานพระราม 8 ไม่ได้ทะเลาะกัน

เรื่องที่ 2 ตนมั่นใจ เรือในวันเกิดเหตุ มี 2 ลำ สังเกตจากตอนที่ไปเติมน้ำมัน เรือมีกาบสีขาว และมีตรา Cobalt แต่เรืออีกลำไม่มี ภาพตอนเรือมาถึงฝั่งหลังเกิดเหตุ จะเห็นขอบเรือเป็นสีเงิน แต่เรือที่มาจอดที่อู่เรือในวันต่อมา ขอบเรือเป็นสีขาว และพอเวลาผ่านไป พอมีกระแสข่าวว่ามีเรือ 2 ลำ เรือที่จอดที่อู่ก็เปลี่ยนขอบเรือเป็นสีเงิน

ส่วนเรื่องที่ 3 ตั้งข้อสันนิษฐานว่า โรเบิร์ต มี 2 คน เมื่อเทียบความสูง ตอนบวชพราหมณ์ ‘ปอ’ มีความสูง 180 ซม. ส่วน ‘โรเบิร์ตตัวจริง’ สูงไม่เกิน 165 ซม. แต่จุดที่ตนสังเกตบริเวณ อู่ต่อเรือ NBC ปรากฏว่า ‘โรเบิร์ต’ สูงกว่า ‘ปอ’ ซึ่งพยานสำคัญ คือ โบว์ ทีเค และในวันเกิดเหตุตอนเรือมาเทียบท่า โรเบิร์ต ผมเป็นรองทรงสูง แต่ในวันที่โรเบิร์ต มาขอขมาแม่ ผมสีดำรองทรงต่ำ

นายราชวัชร์ กล่าวอีกว่า จากการนำหลักฐานต่างๆ มาวิเคราะห์ ทำให้ตนสามารถเชื่อมโยงและสันนิษฐาน ผสมกับจินตนาการของตัวเองขึ้นมาได้ว่า ในคืนนั้น มีกุนซือตัวจริง คอยสั่งการทุกอย่างตั้งแต่ก่อนเกิดเหตุ โดยตอนที่กระติกเดินจากท่าเรือไปขึ้นแกร็บ จะคุยโทรศัพท์รับคำสั่งตลอดเวลา ซึ่งการสลับเรือน่าจะเกิดขึ้นหลังคลิปร้องเพลง ตอนได้ยินเสียงเรียกว่า “เอาเพื่อนมานี่” และให้เรือลำเดิมขับไปตามทางสะพานพระราม 8 แต่คนบนเรือได้พาแตงโม ไปขึ้นเรืออีกล และขับไปที่อื่นตามแผน แต่การฆาตกรรมคงไม่ได้ตั้งใจ เป็นเพียงแผนสองเนื่องจากแตงโมไม่ยินยอม ซึ่งตนคาดว่า มีผู้ร่วมขบวนการนี้ทั้งหมด 8 คน

ทั้งนี้ นายราชวัชร์ ยันยืนยันด้วยว่า “ข้อสันนิษฐานทั้งหมด ตนมั่นใจ 100% เพราะข้อมูลที่ตนรวบรวมมากว่า 40 วัน ตนรับผิดชอบคำพูดของตัวเองทั้งหมด ยอมรับว่านำข้อมูลมาจากโซเชียล จากสื่อมวลชนที่ออกข่าวนำมา ปะติดปะต่อและจินตนาการบ้างบางประเด็น รวมถึงประเด็นฆาตกรรมด้วย แต่ถ้อยคำที่พูดออกไปวันนี้ ตนรับผิดชอบข้อความของตัวเองทั้งหมด หากไม่เป็นจริง สามารถฟ้องได้เลย

ด้านทนายกฤษณะ ศรีบุญพิมพ์สวย กล่าวว่า สิ่งที่นายราชวัชร์ได้เปิดเผยเป็นข้อสันนิษฐานที่ผสมกับความเชื่อส่วนบุคคล แต่ตนได้นำข้อมูลเหล่านี้มากลั่นกรองแล้ว และนำไปยื่นให้กับกรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ DSI เพื่อให้ช่วยตรวจสอบ ซึ่งหลังจากนี้ DSI ก็จะต้องเชิญผู้ให้ข้อมูลไปสอบสวนอีกครั้ง พร้อมกับเรียกผู้เชี่ยวชาญด้านต่างๆ มาสอบถามและนำข้อมูลมาเทียบเคียงกับหลักวิทยาศาสตร์ตามหลักความเป็นจริง

แต่การที่ต้องนำข้อมูลเหล่านี้ออกมาแถลงข่าวก่อนที่จะมีการตรวจสอบ เพราะจะได้ให้ประชาชนที่มีข้อสงสัยได้ช่วยกันวิเคราะห์ ซึ่งยืนยันว่าตนไม่ได้ฟันธงว่าเป็นเรื่องจริงหรือไม่จริง เช่นเดียวกับกรณีที่ตนได้แถลงข่าวเรื่องผ้าสีขาวของบังแจ็ค ตนก็ไม่ได้บอกว่าเชื่อหรือไม่เชื่อทั้งหมด

โดยตนได้นำข้อมูลเหล่านี้ไปยื่นให้ DSI ทำการสืบสวนว่าจะรับเป็นคดีพิเศษได้หรือไม่ เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา และก็ได้ขออนุญาตในการนำข้อมูลออกมาแถลงข่าว ซึ่ง DSI ก็ไม่ได้ห้ามเปิดเผย แต่บอกให้ใช้วิจารณญาณ โดยตนยืนยันว่ามีเจตนาบริสุทธิ์ใจ ไม่ได้หวังผลประโยชน์

และการออกมาพูดในวันนี้ ตนต้องขออนุญาตคุณแม่แตงโมกับทนายเดชาที่จะก้าวล่วงในส่วนนี้ แต่ขอให้อย่าลืมว่าตนเองก็เป็นคนที่ได้เห็นศพของแตงโมทุกอย่าง เพียงแต่พูดรายละเอียดออกมาไม่ได้ทั้งหมดเพราะจะกระทบต่อสำนวนคดี และยืนยันว่าแม้จะถูกต่อว่า แต่ก็พร้อมเดินหน้าสู้ต่อไปเพื่อแตงโม และแตงโมจะอยู่ในใจตนเสมอ

อย่างไรก็ตาม จากนี้ไปตนจะไม่ยอมอีกต่อไปแล้ว ใครจะต่อว่าตนอย่างไรก็ได้ แต่หากว่ามันกระทบตนมากเกินไป ตนก็จะโต้กลับทันที

ขณะที่นายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ กล่าวว่า ในมุมของตนจะหยิบยกคดีของแตงโม ไปอภิปรายไม่ไว้วางใจนายกรัฐมนตรี เพื่อให้เกิดการปฏิรูปกระบวนการสืบสวนสอบสวน ให้เป็นที่พึ่งของประชาชนและนำไปสู่การแก้ไขจุดบกพร่องของกฎหมาย เพื่ออำนวยความยุติธรรมให้กับประชาชนไทยทุกคน คำว่า คนจนติดคุก คนรวยรอดคุกต้องหมดไป

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน