เริ่มพรุ่งนี้! บังคับใช้ กม. เข้ม ‘มาตรฐานควันดำรถยนต์’ สูงขึ้น 15% แจ้งประชาชน ให้ดูแลบำรุงรักษาเครื่องยนต์อย่างสม่ำเสมอ ป้องกันฝุ่น PM2.5

วันที่ 12 เม.ย.65 นายอรรถพล เจริญชันษา อธิบดีกรมควบคุมมลพิษ (คพ.) เปิดเผยว่า ศูนย์แก้ไขปัญหามลพิษทางอากาศ (ศกพ.) คาดการณ์สถานการณ์ฝุ่นละออง PM2.5 ในพื้นที่กรุงเทพฯและปริมณฑล ช่วงวันที่ 13 – 19 เม.ย. ภาพรวมจะมีแนวโน้มอยู่ในเกณฑ์มาตรฐาน เนื่องจากสภาพอากาศที่เปิด และไม่มีสภาพอากาศนิ่งในพื้นที่

สำหรับพื้นที่ 17 จังหวัดภาคเหนือ ควรเฝ้าระวังสถานการณ์ในช่วงวันที่ 18 – 19 เม.ย. 65 หากมีจุดความร้อนจำนวนมาก สถานการณ์ฝุ่นละอองอาจมีแนวโน้มสูงขึ้นโดยเฉพาะพื้นที่ภาคเหนือตอนบนและล่างฝั่งตะวันออก เนื่องจากมีแนวโน้มที่จะเกิดสภาพอากาศนิ่ง และการยกตัวของอากาศที่ไม่ดี ในช่วงเวลาดังกล่าว

นายอรรถพล กล่าวว่า จากปัญหาฝุ่นละออง PM2.5 ส่งผลกระทบโดยตรงต่อสิ่งแวดล้อม เศรษฐกิจและสุขภาพของประชาชนมีสาเหตุแตกต่างกันในแต่ละพื้นที่ สำหรับในเขตเมืองดัง เช่น กรุงเทพฯ มีแหล่งกำเนิดหลักมาจากการขนส่งทางถนน ซึ่งรัฐบาลได้ให้ความสำคัญในการแก้ไขปัญหามลพิษ และได้เพิ่มความเข้มงวดมาตรฐานและวิธีการตรวจวัดการระบายมลพิษจากรถยนต์เป็นแนวทางหนึ่งในการแก้ไขปัญหา

ซึ่งเป็นไปตามแผนปฏิบัติการขับเคลื่อนวาระแห่งชาติ “การแก้ไขปัญหามลพิษด้านฝุ่นละออง” โดยตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค. 64 – 11 เม.ย. 65 ได้มีการตรวจควันดำทั่วประเทศ โดยในพื้นที่กรุงเทพฯ ตรวจสอบ 164,560 คัน เกินมาตรฐาน 46,176 คัน ห้ามใช้ 682 คัน สำหรับพื้นที่ต่างจังหวัด ตรวจสอบ 82,096 คัน เกินมาตรฐาน 1,165 คัน และห้ามใช้ 1,165 คัน

อธิบดีคพ. ระบุว่า ทั้งนี้กระทรวงทรัพยากรฯ ได้ปรับปรุงค่ามาตรฐานควันดำ เพื่อเพิ่มความเข้มงวดและประสิทธิภาพการควบคุมมลพิษและแก้ปัญหา PM2.5 จากแหล่งกำเนิดมลพิษประเภทรถยนต์

โดยได้ออกประกาศเรื่องกำหนดมาตรฐานค่าควันดำของรถยนต์ที่ใช้เครื่องยนต์แบบจุดระเบิดด้วยการอัด พ.ศ. 2564 กำหนดค่าความทึบแสงไม่เกินร้อยละ 30 จากเดิมไม่เกินร้อยละ 45 และค่ากระดาษกรองไม่เกินร้อยละ 40 จากเดิมไม่เกินร้อยละ 50

ซึ่งจะมีผลบังคับใช้วันพรุ่งนี้ (13เม.ย.) จึงขอแจ้งผู้ประกอบการ พี่น้องประชาชน ให้ดูแลบำรุงรักษาเครื่องยนต์อย่างสม่ำเสมอ เพื่อเป็นการป้องกันการเกิดฝุ่น PM2.5 และเป็นการปฏิบัติตามที่กฎหมายกำหนด

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน