หมอพรทิพย์ ชี้คดีแตงโมเป็นคดีแรก ตัวแทนคนตายไม่อยู่ข้างผู้ตาย ลั่นไม่รู้คดีจะจบยังไง ช่วยไขข้อสงสัย โดนทนายดังด่าเละ

วันที่ 19 พ.ค.65 พญ.คุณหญิงพรทิพย์ โรจนสุนันท์ เปิดใจคดีการเสียชีวิตของดาราสาวแตงโม พร้อมยืนยันจุดตกเรือมีหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ เผยเรื่องกระแสที่เข้ามาคนกล่าวหาหิวแสง ยันตนเองไม่รู้แนวโน้มคดีและไม่สามารถคาดการณ์ได้ แต่จะทำหน้าที่ของตนให้ดีที่สุด ทุกประเด็นในรายการคุยแซ่บ SHOW ออกอากาศทางช่องวัน 31 ที่มี หนิง ปณิตา ธัญญ่า ธัญญาเรศ และอาจารย์เป็นหนึ่ง เป็นพิธีกรดำเนินรายการ

ในเรื่องของบาดแผลก้างปลา คุณหญิงหมอเคยบอกว่าแผลก้างปลานำพาไปจุดเกิดเหตุ เพราะมันเป็นวิทยาศาสตร์?
หมอพรทิพย์ : ในคดีมันมีหลายประเด็นแต่ตัวเองได้เข้าไปเห็นในการผ่าครั้งที่ 2 กับบาดแผลที่มันไม่ถูกเปลี่ยนแปลงเลย ตอนนั้นที่เห็นคิดว่ามันเป็นก้างปลาด้านหลัง แผลถลอกตื้นเป็นริ้ว ตอนนั้นนึกยังไม่ออกไม่ใบพัดก็ท้องเรือประมาณนั้น ในระหว่างนั้นพูดไม่ได้ บอกได้แค่ว่ามีการจำลองหรือยังด้วยบทบาท ในระหว่างนั้นเลยไปคุยกับวิศวะมั่ง นั่งเรือมั่ง แล้วก็เห็นคลื่นน้ำท้ายเรือ บวกกับเราไม่เชื่อว่าคือการไปนั่งฉี่ท้ายเรือ เราเอาตรงนี้มาประกอบกัน แล้วทำให้เราเข้าใจได้ว่าจุดตกน่าจะเป็นหัวเรือ แต่ก็ยังไม่พูดจนกระทั่งได้เจอกับวิศวะกรมั่ง คนที่ขับเรือมั่ง คนที่เชี่ยวชาญเรือมั่ง คือนอกรอบเนี่ยยืนยันทุกคนว่าตกหัวเรือ จนกระทั่งมีรายการนึงที่เชิญเราไม่บอกว่าเราคิดถึงไหน เค้าบอกเค้าเล่นเรือเยอะ เค้าบอกเลยค่ะว่า 12 นาฬิกา และไม่ใช่ 1 และไม่ใช่ 11 เนี่ยทำให้เราได้ยินข้อมูลทางวิชาการ

ทำไมแผลก้างปลาถึงเป็นการบ่งบอกว่าตกจุดไหนของเรือ?
หมอพรทิพย์ : แผลก้างปลาเมื่อมันสม่ำเสมอ และเราตั้งสมมติฐานโดนใบพัด คือร่างต้องผ่านตรงๆกระแสน้ำต้องพาตรงๆ ถ้าโดนใบพัดบริเซณอื่นคลื่นมันจะไปมาๆ โอกาสที่จะนิ่งเลยยาก เราเลยตั้งสมมติฐานว่าเป็นกระแสน้ำตรง ตรงไหนบ้างล่ะที่จะตรง พอเค้าบอกว่าจุดหัวเรือเนี่ยคำอธิบายมันตามมาเลยว่าทำไมแผลมันจึงตื้น เพราะด้านหน้าใบพัดฟิน พอร่างไปมันจะกดร่างไว้ใบพัดก็จะเฉี่ยวเฉยๆ มันก็เป็นวิทยาศาสตร์ ในอันที่ 2 ที่สนับสนุนจุดตกเรือ จุดตกเรือเป็นวิทยาศาสตร์ที่น่าฟังมากกว่าพยานบุคคล

ทางเจ้าหน้าที่ยังคงยืนยันจุดตกเรือจากพยานบุคคล?
หมอพรทิพย์ : ถ้าจากวิทยาศาสตร์คงได้แค่อันเดียวก็คือภาพวงจรปิด

วิทยาศาสตร์ยืนยันการตกที่หัวเรือ?
หมอพรทิพย์ : 1 คือบาดแผล 2 มีคนที่รู้เรื่องคลื่นหรือกระแสน้ำยืนยัน ประมาณนั้นค่ะ

การตกหัวเรือกับท้ายเรือส่งผลในคดียังไงบ้าง?
หมอพรทิพย์ : ในคดีมันยังมีคำถามมากมาย เช่น เค้าไปฉี่ท้ายเรือจริงหรอ ตกท้ายเรือจริงหรอ บาดแผลใหญ่เกิดจากใบพัดเรือหรือเกิดจากอาวุธมีด ทั้งหมดนี่ตอบยากมาก เพราะว่ามันเป็นเรื่องที่คนแรกจะต้องเป็นคนตอบ แต่แผลก้างปลาช่วยในเรื่องการบอกจุดตกเรือ พอบอกจุดตกเรือในเรือลำเล็กๆที่หัวเรือ มีหรือที่เหลือจะไม่เห็น มันน่าจะเป็นจุดที่เอาไปไขปริศนาเพื่อตรวจสอบคำให้การณ์ เป็นปรกติที่ตำรวจต้องฟังเพื่อที่จะไปดูว่าคำให้การณ์ใครเป็นจริงหรือไม่เป็นจริง

มีวงในมั้ยว่าทางเจ้าหน้าที่ได้ฟังมั้ย ว่ามีบุคคลที่เชื่อถือได้และวิทยาศาสตร์รองรับ?
หมอพรทิพย์ : บอกเลยว่าคงไม่ฟัง เพราะว่าเราพยายามประสานเชิญไปพูดคุย แต่เราก็ต้องระวังเพราะในบทบาทเราเข้าแทรกไม่ได้ ในการพูดคุยเราพูดคุยในจุดตกเรืออะไรหลายอย่าง สิ่งที่เห็นคือวันรุ่งขึ้นก็มีทนายลุกขึ้นมาด่า ด่าเป็นชุดเลย เราก็เริ่มรู้ทนายไม่ได้พูดเอง เพราะเราไม่เจอทนาย ทนายไม่ได้เห็นเอง

ใช่ทนายคุณแม่มั้ย?
หมอพรทิพย์ : ใช่ค่ะ โผล่มาแล้วก็ด่าเรา เราก็แบบแสดงว่าตำรวจคงไม่พอใจ พอตามมาอีกทีคือทั้งคู่ไปยื่นเรื่องที่กรรมาธิการเพื่อจะถอด เราก็ขำ ทั้งคู่เนี่ยเป็นคนที่ต้องอยู่ข้างน้องแตงโม ยังไม่เคยจะมาดูเลยว่าเราเห็นอะไรทำไมเอาแต่ด่า ก็เลยรู้เลยว่าตำรวจน่าจะไม่พอใจ

บางกระแสบอกว่า พอคุณหญิงหมอเข้ามาเกี่ยวข้องทำให้คดีนี้จบยาก?
หมอพรทิพย์ : จะว่าอะไรก็ช่าง แต่ถ้าความยากนั้นพาไปสู่ความจริงหรือความยุติธรรมก็ต้องทำค่ะ ไม่ต้องไปกลัวมัน เราไม่ใช่เข้าไปเพราะเราอยากดัง ไม่ใช่หน้าที่ อันนี้มันใช่หน้าที่ เพราะตามในเชิงระบบตั้งแต่ต้น

มีคนเม้าท์ ว่าคนเกาะคดีนี้ หาว่าหิวแสง?
หมอพรทิพย์ : อย่างแรกเค้าคงจะถอดมาจากความคิดเค้าว่าตัวพวกเค้าก็หิวแสง เลยบอกว่าคนที่เข้ามาแบบนี้จะหิวแสง แต่ถ้าอธิบายจริงๆ เป้นคนที่แต่งตัวยังงี้ไม่ชอบให้ใครมามอง เป็นมาตั้งแต่สาวๆ ทำงานยังงี้ก็ไม่ได้สนใจว่าใครจะมามอง แสงมันเข้าตั้งแต่คดี เจนจิรา แสงเข้ามาชนิดที่ขยับตัวยากมากเลย ถามว่าเราหิวแสงมั้ยไม่เลย แต่ว่าเราพยายามจะใช้ความสว่างที่มาที่ตัวส่งไปให้เห็นปัญหา

มีหลายกระแสว่า รู้สึกยังไงบ้าง?
หมอพรทิพย์ : เราเหมือนถูกฉีดวัคซีนให้มีภูมิกับเรื่องพวกนี้มาตั้งแต่ต้น พอเค้าด่าเราไม่โกระ เราก็จะดูว่าที่เค้าด่าเป็นจริงมั้ย อย่างว่าแต่งตัวบ้า ฉันไม่ได้แต่งตัวให้เธอดูฉันมีความสุขของฉัน พอเราดูว่าเราไม่ได้ผิดมันก็ฝึกว่าช่างหัวมัน พอมาถึงรอบนี้ก็ขอบคุณที่เค้าด่า มันไม่ได้ทำให้เรารู้สึกว่าอยากจะไปยุ่งด้วย เพราะมันเป็นคำที่ต่ำเกินไปจะต่อสู้เลยเฉยๆ

อะไรที่ทำให้ยังคงเดินหน้าต่อกับคดีแตงโม?
หมอพรทิพย์ : เป็นคนเชื่อเรื่องธรรมะจัดสรร ธรรมะคุ้มครอง วันนึงเห็นคดีน้องแตงโม เราเห็นความผิดปรกติ 2 อย่างในทันที คือ ทำไมเพื่อนๆไม่เสียใจทำไมกลับบ้านได้ เราเริ่มเอะใจ อันที่ 2 ที่เราเริ่มเห็นทำไมเค้าปล่อย 5 คนกลับบ้านเอาเรือไปเก็บอู่ แล้วพอมาเจออันที่ 3 ทำไมไปสรุปว่าเค้าฉี่ท้ายเรือแล้วเชื่อ ใน 3 อันเราจะตามเชิงระบบเพราะว่าระบบของการรวบรวมพยานหลักฐานของไทยเป็นอย่างนี้อยู่แล้ว คือให้พนักงานสอบสวนใช้ดุลยพินิจ ถ้าโครงบอกว่าอย่างนี้เค้าก็จะเอาอย่างนี้ เราก็เลยเฝ้าตามไม่ได้คิดว่าจะมีส่วนเข้าไปนะ จู่ๆคุณแม่ก็นึกถึงคุณมาแล้วโทรมาหา เราไม่อยากยุ่งกับคดี เข้าไปเห็นบาดแผลโดยหน้าที่สิ่งนี้เหมือนพยายามบอกอะไรเรา เลยใช้สมาธิอยู่กับแผลก้างปลานั่นแหละ

มีข้อสงสัยว่าอาจจะถูกทำร้ายบนเรือ แต่จะมีสารตรวจเลือด ที่ตรวจแล้วเห็นเลือดตรงนั้นได้ และจะต้องตรวจในที่ที่มืดมากๆ แต่เห็นตอนที่ตรวจไปตรวจที่อู่จอดเรือซึ่งมีความสว่าง?
หมอพรทิพย์ : ถ้าบอกว่าแผลเกิดขึ้นก่อนตายก็ต้องพิสูจน์ว่าก่อนตกน้ำหรืออยู่ในน้ำ สารตัวนี้เป็นสารเคมีที่จับกับเม็ดเลือดแดง ต่อให้ล้างตาเปล่ามองไม่เห็นคราบมันติดอยู่ เพียงแต่ว่าข้อจำกัดของมันคือต้องมืดสนิท การที่เราจะบอกว่าตรวจไม่เจอเนี่ยจะต้องมีวิธีทำให้คนเชื่อว่าคุณได้ทำเงื่อนไขสภาพแวดล้อมได้ถูกต้องแล้ว สว่างนิดเดียวคือมองไม่เห็นเลยค่ะ เท่าที่เห็นในสภาพต้องเอาเข้าที่จำกัด แต่เราก็จะเห็นว่าเรือไม่ได้ไปไหนจากบริเวณอู่

จุดนี้เป็นอีกจุดที่ไม่ชัดเจน ที่บอกว่าไม่เจอเลือด?
หมอพรทิพย์ : ไม่ได้บอกว่าเค้าทำไม่ชัดเจน แต่บอกว่าผู้ที่จะทำให้ชัดเจนได้คือท่านอัยการ ถ้ายังเป็นข้อสงสัยสามารถให้หน่วยงานอื่นตรวจ ที่ไม่ได้มีส่วนได้ส่วนเสียกับคดีนี้

เลือดยังอยู่ได้นานมั้ย?
หมอพรทิพย์ : คราบเลือดที่จะทำให้ตรวจได้ถ้าอยู่ในสภาพแห้งยังไงก็ยังตรวจได้ แต่อย่างที่บอกเคยทักว่าฝนกระหน่ำ แล้วเรือมันจอดยังงั้น แล้วในระหว่างนั้นจะมีใคล้างเรือหรือปล่าวเราก็ไม่รู้

อะไรคืออุปสรรคของคดีนี้?
หมอพรทิพย์ : อุปสรรคใหญ่สุดเลยคือเป็นคดีแรกที่ตัวแทนของคนตายไม่ได้อยากให้เราเข้าไปช่วยเต็มที่ คือทั้งแม่และทั้งทนายเราพยายามเรียกให้เค้ามาดูแผล เค้าให้ตัวแทนมาก็ไปว่าตัวแทนอีก อุปสรรคที่ 2 คงจะเป็นพนักงานสอบสวน แต่พนักงานสอบสวนเป็นประจำอยู่แล้วถ้าเค้าไม่เชื่อเค้าก็ไม่เอา

แนวโน้มจุดจบคดีนี้?
หมอพรทิพย์ : ตอบไม่ได้ค่ะ เพราะว่าเรามีหน้าที่ทำให้ดีที่สุด ถ้าถามว่าทำไมไม่พูดตั้งแต่ตอนแรกก็มันพูดไม่ได้ เราเชื่อได้ว่าธรรมะจัดสรรธรรมะก็คุ้มครอง อย่าเพิ่งไปหมดใจว่าทำไรไม่ได้

เป็นคดีแรกในชีวิตที่ยาก?
หมอพรทิพย์ : ไม่ใช่ค่ะเป็นคดีแรกที่ญาติผู้ตายไม่ได้อยู่ข้างผู้ตาย

คาดการณ์แนวโน้มคดีจะจบยังไง?
หมอพรทิพย์ : ไม่เคยคาดค่ะ ปล่อยไปตามธรรมชาติ มันจะจบยังไงก็ช่างแต่สักวันนึงมันก็อาจจะมีความเปลี่ยนแปลง เราทำให้ดีที่สุด

ย้อนกลับไปคดีดังที่คุณหญิงหมอปฏิเสธเงินล้าน?
หมอพรทิพย์ : ตอนนั้นดังจากคดี เจนจิรา บุคคลิกแปลกสื่ออยากจะสัมภาษณ์ พอสัมภาษณ์อยากจะให้ถ่ายโฆษณา มีครั้งนึงเชิญเราเล่นหนังมั่ง โฆษณามั่ง เราก็มานั่งคิดว่าคงไม่ได้ให้เรามาเพื่อค่าตอบแทนพวกนี้มั้ง เลยขออนุญาตเค้าว่าขอไม่เอา

คุณหญิงหมอกับตำรวจเหมือนเส้นขนาน มีโอกาสมาเจอกันแล้วเดินไปด้วยกันได้มั้ย?
หมอพรทิพย์ : ย้ายมากรุงเทพ ก็ทำงานคู่กันมาตลอดเลยนะ ไม่มีวันที่จะทำให้เราเปลี่ยน มันต้องเป็นความจริงอย่างเดียว

เคยโดนข่มขู่บ้างมั้ย?
หมอพรทิพย์ : บ่อยๆมีเสียงเข้ามา แต่หลังๆเราเชื่อว่าความเกลียดยิ่งกว่าการข่มขู่ ด่าแบบด่านอกรอบ ด่าในรอบ ด่าแบบตรงๆ เราก็ฝึกแล้วว่าไม่เอาใจไปรับก็ช่างหัวมัน เราเชื่อว่าสิ่งที่เราทำ เราไม่ได้ทำเพราะเกลียดเค้า เราทำแทนคนตาย ไม่ใช่แค่คดีแตงโม เสมอมาก็เป็นอย่างนั้น

ที่ผ่านมาเวลาโดนขู่ สามีและลูก ว่าอย่างไรบ้าง?
หมอพรทิพย์ : ทั้งคู่ไม่แฮปปี้ มันเหมือนจู่ๆแม่มาโดนด่า สามีเราตกลงกันก่อนแต่งงานแล้วว่าฉันเป็นอย่างนี้นะไม่เปลี่ยน ส่วนลูกก็ไม่ชอบ แต่พอที่จะเข้าใจ

ห่วงความปลอดภัยของตัวเองมั้ย?
หมอพรทิพย์ : จะบอกว่าไม่ห่วงก็ไม่เชิง แต่ว่าเราจะระมัดระวังตัว เราไม่ได้มีอารมณ์อยากเข้าไปยุ่ง เมื่อมันมาในหน้าที่ก็ทำให้ดีที่สุดแค่นั้นเอง

มีครั้งนึงเสียใจหนักมาก ถูกยื่นเรื่องฎีกา?
หมอพรทิพย์ : ครั้งนั้นไม่ใช่คดี แต่เป็นการตั้งสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ แล้วมีการไปดูงานที่ต่างประเทศ งบประมาณมี 2 ส่วน ปรากฏว่าเจ้าหน้าที่ธุรการอ่านภาาษอังกฤษไม่อก เลยมีการเบิกผิด สำหรับคน 20 คน เราคงเป็นจุดที่มีผู้ไม่ชอบทำเรื่องร้องเรียน กระทรวงสอบ 3 หนแล้วมันไม่ผิด มันเป็นความบกพร่องเจ้าหน้าที่ เบิกผิดก็คืนไป แต่ว่าด้วยการเมืองตอนนั้น เค้าเลยกระตุ้นให้คนนี้ไปถวายฎีกา สารพัดเรื่องเลย เลยทำให้แป๊กไป 3 ปี ความรู้สึกของเราเนี่ยมันหยุดไปสักนิดนึงว่าเรารู้สึกเสียใจ กลัวในหลวงไม่รัก เราก็ถามตัวเองว่าจะเป็นยังไง ไม่รักก็ไม่รักก็ทำงานต่อก็เลยหาย ดรอปตอนนั้นคงเป็นดรอปครั้งใหญ่ เพราะเราไม่อยากให้ท่านฟังเรื่องผิดๆ ก็ช่างหัวมันสุดท้าย

เวลาเจออะไรหนักๆจัดการยังไง?
หมอพรทิพย์ : ใหม่ๆก็คุยแบบระบายทุกข์พบว่ามันไม่หมดมันก็กลับมาใหม่ ตอนหลังก็เลยเริ่มมาแกะ มันเกิดจากเขากับเรา เขาอะแก้ยาก เลยใช้วิธีแก้เรา ถ้าเราไม่ได้ทำอะไรผิดเราจะฝึกช่างหัวมัน

ประชาชนรู้สึกว่ากระบวนการยุติธรรมไม่มีอยู่จริงในปัจจุบัน คุณหญิงมีจะผลักดันเรื่องนี้ยังไงบ้าง?
หมอพรทิพย์ : ตั้งแต่ทำงานมาความยุติธรรมไม่ได้มีมาแบบอัตโนมัติ ถ้าพูดนี้ใครๆก็จะไม่ค่อยกล้าเข้ามาแก้ปัญหา เพราะว่ามาตรการ โดยตัวเองเราทำงานเรื่องนี้รู้สึกว่าสามารถสร้างความอิ่มใจโดยที่ไม่ต้องรอเงินในบันชีขึ้นคือเราผ่าศพแล้วหาความจริงได้ แต่พอหลังจากนั้นมันมีความเปลี่ยนแปลงเราก็เบนออกไปหาการตั้งสถาบันเพื่อจะทำให้สังคมดีขึ้น ไม่ไปคาดหวังเขาว่าเขาจะช่วยเรามั้ย แต่ถ้ามีโอกาสมาเมื่อไหร่เราจะเดินต่อทันที สิ่งที่อยากจะทำคือสอนให้ทนายหรือนักกฎหมาย มีความรู้นิติวิทยาศาสตร์เยอะๆ เพราะบางทีตำรวจไม่รู้เรื่อง ทนายไม่ต่อสู้ให้ มันยากมากเลยที่จะนำไปสู่ตอนท้ายที่มีความยุติธรรม

คดีน้องแตงโม คุณหมอจะมีโอกาสเข้าไปเป็นพยานในชั้นอัยการมั้ย?
หมอพรทิพย์ : ไม่มี ถ้าไม่อยู่ในสำนวนพยานของตำรวจ ตราบใดที่ยังไม่จบอัยการยังสั่งได้ แต่ถ้าอัยการสั่งฟ้องแล้วก็จบ

ติดตามชมรายการคุยแซ่บShow ทุกวันจันทร์-วันศุกร์ เวลา13.15-14.15 น. ทางช่อง one31 Facebook Page : คุยแซ่บShow รับชมย้อนหลังได้ที่ Youtube Channel : Orange Mama

คลิปสัมภาษณ์ แพทย์หญิงคุณหญิงพรทิพย์ โรจนสุนันท์

 

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน