ตร.สอบเค้น 2 สาว “ปวีณา-แอน” ร่วมแก๊ง “ไซม่อน” หนุ่มแคเมอรูน หัวโจก รับสิ้นขโมยบัตร “ณิชา” เปิดบัญชีให้เหยื่อที่หลงเชื่อโอนเงิน เอาผิด 3 ข้อหา ลักทรัพย์ นำบัตรของผู้อื่นไปใช้ ปลอมแปลงเอกสาร ชุดสืบตรวจวงจรปิดเจอสาวร่วมแก๊งอีกคน “น.ส.พร” อยู่กาฬสินธุ์ มากับไซม่อนไปกดเงินตู้เอทีเอ็ม ชี้พฤติกรรมไม่ใช่ แก๊งคอลฯ แต่เป็น “แก๊งโรแมนซ์สแกม” เปิด เฟซบุ๊กหลอกเหยื่อโอนเงิน
จากกรณีน.ส.ณิชา เกียรติธนะไพบูลย์ ร้องเรียนว่าถูกแก๊งคอลเซ็นเตอร์ นำบัตรประจำตัวประชาชนของตนเองที่สูญหาย ไปเปิดบัญชีธนาคาร เพื่อให้เหยื่อที่ถูกหลอกลวงโอนเงินเข้าบัญชี ส่งผลให้ตนเองถูกดำเนินคดีฉ้อโกง ก่อนได้ประกันตัวออกมาต่อสู้คดี ต่อมาพล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. สั่งตรวจสอบ จนจับกุม น.ส.ปวีณา สิงหวิบูลย์ ผู้ที่นำบัตรของ น.ส.ณิชา ไปเปิดบัญชี โดยซัดทอดนายไซม่อน หนุ่มต่างชาติ เป็นผู้ว่าจ้าง ขณะที่ น.ส.ณิชา เข้าขอบคุณตำรวจที่สน.ห้วยขวาง และให้การเพิ่มเติม โดยยืนยันว่าเงิน 6 ล้านบาทในบัญชีเป็นเงินของครอบครัวที่ได้มาจากการทำธุรกิจ ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น
ความคืบหน้าเรื่องนี้ เมื่อเวลา 03.00 น. วันที่ 15 ม.ค. ที่สน.ห้วยขวาง พนักงานสอบสวนสอบปากคำเพิ่มเติม น.ส.ณิชา เกียรติธนะไพบูลย์ เสร็จสิ้นแล้ว หลังเข้าให้การตั้งแต่เวลา 15.00 น. วันที่ 14 ม.ค. รวมเวลากว่า 12 ชั่วโมง โดย น.ส.ณิชากล่าวกับผู้สื่อข่าวเพียงสั้นๆ ว่ามาสอบปากคำเพื่อให้เป็นประโยชน์ต่อรูปคดีมากที่สุด จากนั้นขึ้นรถตู้ตำรวจเดินทางกลับบ้านพักย่านบางบัวทอง จ.นนทบุรี
ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พ.ต.อ. กฤษณะ พัฒนะเจริญ รองโฆษกตำรวจ กล่าวว่า น.ส.ณิชายังถือเป็นผู้ต้องหาคดีฉ้อโกงที่ สภ.บ้านตาก จ.ตาก และเป็นผู้เสียหายหลัง กรณีแจ้งความว่าถูกนำบัตรประจำตัวประชาชนไปเปิดบัญชี โดยยังไม่สามารถยืนยันได้แน่ชัดว่ามีส่วนเกี่ยวข้องรู้เห็นกับแก๊งคอลเซ็นเตอร์ หรือเป็นผู้บริสุทธิ์ ทางตำรวจกองบังคับการปราบปราม และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกำลังสืบสวนขยายผล
พ.ต.อ.กฤษณะกล่าวว่า ส่วนน.ส.ปวีณา สิงหวิบูลย์ อายุ 31 ปี ถูกตำรวจควบคุมตัว และแจ้งข้อหาไปเมื่อวันที่ 14 ม.ค. หลังสอบปากคำนานกว่า 12 ชั่วโมง รวม 3 ข้อหา คือลักทรัพย์ นำบัตรประจำตัวประชาชนของ ผู้อื่นไปใช้ และปลอมแปลงเอกสาร สอบสวนเบื้องต้นให้การรับสารภาพว่านำบัตรของบุคคลอื่นไปเปิดบัญชีจริง โดยอ้างว่าได้รับค่าจ้าง 10,000 บาท จากนายไซม่อน ชาวต่างชาติ
โฆษกตำรวจกล่าวต่อว่า สำหรับนาย ไซม่อน ขณะนี้ถูกควบคุมตัวไว้แล้ว ตาม พ.ร.บ.ตรวจคนเข้าเมือง อยู่ในขั้นตอนการซักถาม ยังไม่ได้แจ้งข้อกล่าวหาในคดีแต่อย่างใด จากการตรวจสอบแผนประทุษกรรมของคอลเซ็นเตอร์แก๊งนี้ มีส่วนคล้ายกับแก๊งโรแมนซ์สแกม คือหลอกเหยื่อผ่าน เฟซบุ๊ก แล้วให้ผู้เสียหายโอนเงินเข้าบัญชีธนาคาร มีความเป็นไปได้ว่าทั้ง 2 แก๊งมีส่วนเชื่อมโยงกัน
วันเดียวกัน ชุดคลี่คลายคดีแก๊งคอลฯ ไปสอบปากคำ น.ส.เจรติ หรือแอน สายสิญจน์ หญิงสาวคนสนิทของนายอายัค ไซม่อน อีโก้ ชาวแคเมอรูน ที่ถูกควบคุมตัวอยู่ในเรือนจำใน จ.นครปฐม พบข้อมูลว่าเป็นผู้นำบัตรประชาชน น.ส.ณิชา ไปเปิดบัญชีธนาคาร ในพื้นที่ สน.วังทองหลาง และเปิดซิมการ์ดโทรศัพท์ในพื้นที่ สภ.บางใหญ่ จ.นนทบุรี จำนวน 4 บัญชี อีกทั้งตรวจสอบเพื่อหาความเชื่อมโยงเส้นทางการเงินว่าโอนถ่ายเงินไปที่บัญชีของบุคคลอื่นอีกหรือไม่
รายงานข่าวแจ้งว่า นอกจากนี้ ชุดสืบสวนนำภาพวงจรปิดธนาคารทั้ง 7 แห่ง ที่คนร้ายไปเปิดบัญชีมาวิเคราะห์ขยายผลว่ามีผู้ร่วมขบวนการที่เหลืออีกหรือไม่ รวมถึงนำภาพวงจรปิดจากหน้าตู้เอทีเอ็มหลายสถานที่ที่นายไซม่อนไปกดเงิน มาวิเคราะห์แนวทางสืบสวน กระทั่งพบภาพหญิงสาวชาวไทยคนหนึ่งสวมเสื้อคอปกสีดำ ไว้ผมทรงเดรดล็อก ไปกดเงินกับนายไซม่อนเมื่อเดือน พ.ย.2560 เจ้าหน้าที่ทราบชื่อแล้ว น.ส.พร มีภูมิลำเนาอยู่ จ.กาฬสินธุ์ สนิทสนมกับนายไซม่อน
ข่าวแจ้งอีกว่า จากแนวทางการสืบสวนพบว่ากลุ่มคนร้ายที่นำบัตรประชาชน น.ส. ณิชา ไปเปิดบัญชีนั้น กระทำเป็นขบวนการ โดยมีนายไซม่อนเป็นหัวหน้า มีหญิงสาวไทย 2 คน คือ น.ส.ปวีณา และ น.ส.เจรติ หรือแอน ร่วมขบวนการ โดยน.ส.แอน นำบัตรประชาชนไปเปิดบัญชีในพื้นที่ สน.วังทองหลาง และซิมการ์ด ในพื้นที่สภ.บางใหญ่ จ.นนทบุรี ส่วน น.ส.ปวีณา นำบัตรไปเปิดบัญชีในท้องที่ สน.ภาษีเจริญ สน.หลักสอง และ สน.ทุ่งมหาเมฆ โดยแผนประทุษกรรมขณะนี้พบว่าไม่ใช่แก๊งคอลเซ็นเตอร์ แต่เป็นแก๊งโรแมนซ์สแกม
ขณะเดียวกัน พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. สั่งการให้ พล.ต.อ.วิระชัย ทรงเมตตา รองผบ.ตร. บูรณาการระดมชุดสืบสวนจากหลายภาคส่วน ทั้งบช.ภาค 6 บช.น. กองปราบฯ สภ.บ้านตาก จ.ตาก พร้อมตั้งคณะทำงานคลี่คลายคดีนี้ โดยประสานข้อมูลกับทางชุดทำงานของศูนย์ป้องกันและปราบปรามฉ้อโกงประชาชนผ่านระบบโทรศัพท์และสื่ออิเล็กทรอนิกส์ ที่มีพล.ต.ท.ธนิตศักดิ์ ธีระสวัสดิ์ ที่ปรึกษาพิเศษ ตร. พล.ต.ต. สุรเชษฐ์ หักพาล รองผบช.ทท. พ.ต.อ. อาชยน ไกรทอง รองผบก.ทท. 1 พ.ต.อ. พนัญชัย ชื่นใจธรรม รองผบก.ทท.2 และ พ.ต.อ.นิธิธร จินตกานนท์ รองผบก.สปพ. เป็นผู้ควบคุมการปฏิบัติ คลี่คลายคดีนี้ โดยเร็ว
