ลุยล้างเครือข่ายเอกอ้วน ปส.ลุยปูพรมทั่วปท. 50 จุด ยึดทรัพย์สิน-รถยนต์ของเป้าหมาย กว่า100ล้านบาทพร้อมบุกค้นคอนโดฯ หรูกลางกรุง ล่าตัวพี่เขย อีกแห่งเข้าตรวจบ้านย่านวังบูรพา เจอปืน 21 กระบอก ขณะที่พ.ต.ท.ทางหลวงที่พบอยู่ในบ้านผู้ต้องหาค้ากัญชา มารายงานตัวที่บช.ก.แล้ว ให้การยันไม่รู้ภรรยาเกี่ยวข้องขบวนการยาเสพติด แต่ผบช.ปส.ยันเกี่ยวข้อง เตรียมขยายผล พร้อมยื่นขออนุมัติหมายจับ

เมื่อเวลา 06.30 น.วันที่ 17 ม.ค. พ.ต.อ. ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผกก.ปพ.บก.ป. พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจ บช.ปส. และเจ้าหน้าที่คอมมานโด กองปราบปราม 20 นาย นำหมายศาลอาญาเข้าตรวจค้นคอนโดมิเนียมหรู ย่านปิ่นเกล้า 2 แห่ง จับกุมนายทวีศักดิ์ ภู่รุ่งเรืองผล ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญา ที่ 464/2560 ลงวันที่ 17 ธ.ค.2560 ในข้อหาสมคบช่วยเหลือ สนับสนุนกระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด

โดยที่แรกนำหมายค้นศาลอาญาเลขที่ 49/2561 เข้าค้นห้องพัก 616/198 เจ้าหน้าที่แสดงหมายค้นให้กับผู้ดูแลอาคาร ก่อนจะเดินทางไปที่อาคารเอ ชั้น 9 ห้องเอ 0935 พบที่ลูกบิดประตูมีกุญแจล็อกจากด้านนอกอีกชั้นหนึ่ง เมื่อเคาะประตูไม่มีเสียงตอบรับจากด้านใน ตรวจสอบมิเตอร์ไฟฟ้าพบว่าห้องดังกล่าวถูกตัดมิเตอร์ จึงคาดว่าอาจจะไม่มีใครอยู่ภายในห้อง ผู้ดูแลอาคารจึงเปิดประตูให้ ตรวจสอบไม่พบบุคคลหรือสิ่งของผิดกฎหมาย เจ้าหน้าที่จึงตรวจสอบห้องพักโดยรอบเพื่อเก็บหลักฐานต่างๆ

นอกจากนี้เจ้าหน้าที่ยังเข้าค้นจุดที่ 2 ซึ่งเป็นคอนโดมิเนียมหรูอีกแห่งหนึ่ง ที่อยู่ใกล้ๆ กัน เมื่อเข้าไปตรวจค้นไม่พบบุคคลหรือสิ่งผิดกฎหมายเช่นเดียวกัน จึงเก็บเอกสารและหลักฐานเพื่อนำไปตรวจสอบขยายผล

รายงานข่าวแจ้งว่า นายทวีศักดิ์มีความเชื่อมโยงกับเครือข่ายนายจิรัฏฐ์ เพ็ญโสภณวิชญ์ หรือเอกอ้วน พ่อค้ายาเสพติดรายใหญ่ ที่ถูกจับกุมได้ก่อนหน้านี้ โดยมีฐานะเป็นพี่เขย และยังเคยตกเป็นผู้ต้องหาในคดีอาวุธปืนอีกด้วย

ทั้งนี้ การปฏิบัติการครั้งนี้เป็นการเปิดปฏิบัติการชัยยะสยบไพรี 61/2 เพื่อตัดวงจรเครือข่ายยาเสพติดในประเทศไทย ซึ่งใน วันนี้ทางเจ้าหน้าที่ได้เข้าตรวจค้นอีกหลายจุดในพื้นที่กรุงเทพฯและต่างจังหวัด

ที่กองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด พล.ต.ท.สมหมาย กองวิสัยสุข ผบช.ปส. พล.ต.ต.ทนัย อภิชาติเสนีย์ รอง ผบช.ปส. และพล.ต.ต.สุนทร เฉลิมเกียรติ ผบก.ประจำ บช.ปส. ร่วมแถลงเปิดปฏิบัติการชัยยะสยบไพรี 61/2 ตัดวงจรเครือข่ายยาเสพติดของ น.ส.ทิพย์อาภา รักษาแสง หนึ่งในเครือข่ายยาเสพติด ที่เจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถจับกุมได้ที่ จ.อุดรธานี และเครือข่ายยาเสพติดของนาย จิรัฏฐ์ เพ็ญโสภณวิชญ์ หรือเอกอ้วน ซึ่งเป็นปฏิบัติการเข้าตรวจค้นทั่วประเทศทั้งหมด 50 กว่าจุด

พล.ต.ท.สมหมายเปิดเผยว่า จากกรณีการสืบขยายผลการจับกุม น.ส.ทิพย์อาภา หรืออีฟ รักษาแสง พร้อมของกลางเป็นกัญชาและยาไอซ์ โดยใช้เส้นทางลำเลียงจาก จ.หนองคาย ผ่าน จ.บึงกาฬ มาที่ จ.ระยอง มาลงท่าเรือน้ำลึก แล้วออกไป จ.สงขลา โดยน.ส.ทิพย์อาภาเป็นส่วนหนึ่งของเครือข่ายไซซะนะ ตัวของน.ส.ทิพย์อาภาใช้วิธีศัลยกรรมเปลี่ยนหน้าตัวเอง และเปลี่ยนรูปลักษณ์ ปรับเปลี่ยนยานพาหนะเพื่อใช้ขนยาเสพติด โดยการฝังยาเสพติดไว้ใต้พื้นรถ และใช้ป้ายทะเบียนหลายหมายเลข ซึ่งเป็นการสวมหมายเลขทะเบียนอย่างผิดกฎหมาย ส่วนสามีที่เป็นตำรวจยศพ.ต.ท. จากการสืบสวนทราบว่ามีส่วนเกี่ยวข้องแน่นอน ทั้งส่วนของการลำเลียง และการดูแลทรัพย์สิน

พล.ต.ท.สมหมายกล่าวอีกว่า สำหรับเครือข่ายน.ส.ทิพย์อาภาเป็นเครือข่ายเชื่อมโยงกับประเทศลาว ใช้เส้นทางการลำเลียงเข้ามาในรูปแบบปกติ คือแอบซุกซ่อนมากับรถขนผู้ใช้แรงงาน ที่ผ่านชายแดนไทยเข้ามา โดยจะเน้นไปที่กัญชาเป็นหลัก

พล.ต.ท.สมหมายกล่าวอีกว่า ปฏิบัติการชัยยะสยบไพรี 61/2 นี้นอกจากน.ส.ทิพย์อาภาแล้ว ยังสามารถจับกุมเครือข่ายที่เชื่อมโยงไปถึงเครือข่ายไซซะนะของนายจิรัฏฐ์ หรือเอกอ้วน ที่ถูกจับกุมเมื่อปีที่แล้ว โดยเอกอ้วนมีส่วนสำคัญที่ทำให้ยาเสพติดแพร่ระบาดในกรุงเทพฯและพื้นที่ใกล้เคียง คาดว่าครั้งนี้จะสามารถกวาดล้างเครือข่ายของเอกอ้วนได้อย่างสิ้นซาก จากการตรวจสอบพบว่าเครือข่ายของกลุ่มเหล่านี้ยังพัฒนาวิธีการผ่านการฝากทรัพย์สิน หรือให้ผู้อื่นครอบครองแทน ส่วนหนึ่งเป็นเพราะทางเจ้าหน้าที่เริ่มตามสืบ และตามยึดทรัพย์สินของเครือข่ายยาเสพติดเพิ่มขึ้น นอกเหนือไปจากการจับกุมยาเสพติดเพียงอย่างเดียว

ต่อมาเมื่อเวลา 09.00 น. พล.ต.ท.สมหมายนำกำลังหน่วยปฏิบัติการสยบไพรี เดินทางไปที่บ้านต้องสงสัยที่เกี่ยวข้องกับนายทวีศักดิ์ ที่บ้านเลขที่ 246 ถ.ตีกอง แขวงวังบูรพาภิรมย์ เขตพระนคร ซึ่งเป็นอาคารพาณิชย์ สูง 3 ชั้น เจ้าหน้าที่เข้าตรวจค้นบริเวณโถงภายใน พบตู้เซฟขนาดใหญ่ 2 ตู้ จากนั้นจึงให้นายกฤษฎา ภู่รุ่งเรืองผล ที่อยู่ในบ้าน เปิดตู้เซฟออก ภายในพบปืนหลายขนาด จำนวน 21 กระบอก มีทะเบียนครอบครองถูกต้อง ซึ่งทางตำรวจคาดว่าเป็นของนายทวีศักดิ์ ที่นำมาฝากไว้ก่อนหลบหนีไป

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การตรวจค้นในวันนี้ส่วนใหญ่เป็นบ้านพักและคอนโดมิเนียมของผู้ต้องหา เจ้าหน้าที่สามารถตรวจยึดทรัพย์สินได้หลายรายการ อาทิ รถยนต์ เงินสด บ้าน โฉนดที่ดิน และอาวุธปืน รวมมูลค่ากว่า 100 ล้านบาท

ที่บช.ก. พล.ต.ท.ฐิติราช หนองหารพิทักษ์ ผบช.ก. เปิดเผยว่า เมื่อช่วงเช้า พ.ต.ท.ธนกฤต นิตสพันธ์ สว.(สอบสวน) ส.ทล.1 กก.8 บก.ทล. ที่ตำรวจ ปส.พบอยู่ภายในบ้าน ของน.ส.ทิพย์อาภา ที่เป็นผู้ต้องหาคดียาเสพติด เดินทางมารายงานตัวที่บช.ก. ตามคำสั่งเรียบร้อยแล้ว พร้อมสั่งการให้สอบสวนอย่างละเอียดว่ามีส่วนเกี่ยวข้องอย่างไร หากพบว่ามีส่วนพัวพันหรือเกี่ยวข้องก็จะสั่งให้ออกจากราชการไว้ก่อน ส่วนพยานหลักฐานที่จะนำไปสู่การขออำนาจศาลออกหมายจับได้เป็นอีกส่วนหนึ่ง จากการสอบสวนเบื้องต้นทางพ.ต.ท.ธนกฤตยังไม่ได้ให้ข้อมูลอะไรที่เป็นประโยชน์มากนัก มีเพียงคำให้การแบบแบ่งรับแบ่งสู้ ทราบเพียงว่าภรรยาเป็นผู้ปล่อยเงินกู้ ส่วนกรณีภรรยาค้ายาเสพติดนั้นให้การว่าไม่ทราบ ซึ่งหลังจากนี้จะให้ทางบช.ปส.เป็นผู้ดำเนินการทางคดีต่อไป

“เขามาอยู่ทางหลวงเกือบ 10 ปีแล้ว ส่วนจะเข้าไปเกี่ยวข้องมาตลอดหรือไม่ก็กำลังไล่ดูตรวจสอบ แต่จากการซักถามตรวจสอบเขาก็บอกว่าเพิ่งจะคบกับภรรยาคนนี้มาได้ประมาณ 4-5 ปีที่ผ่านมานี่เอง” พล.ต.ท. ฐิติราชกล่าว

พล.ต.ท.ฐิติราชกล่าวอีกว่า ส่วนเรื่องที่ว่าพ.ต.ท.ธนกฤตจะใช้ยศตำแหน่ง หรือหน้าที่ไปอำนวยความสะดวกในการค้ายาเสพติดหรือไม่ ก็จะต้องสืบสวนอย่างละเอียดและจะขยายผลหาผู้ที่เกี่ยวข้องเพิ่มเติม ซึ่งหากพบว่ามีบุคคลใดมาเกี่ยวข้อง จะดำเนินคดีทั้งหมดไม่มีละเว้น

รายงานข่าวแจ้งว่าพ.ต.อ.กฤษ มีนุชนารถ ผกก.กลุ่มงานสอบสวน บช.ปส. เดินทางไปขออนุมัติหมายศาลอาญา รัชดาฯ เพื่อออกหมายจับพ.ต.ท.ธนกฤต นิตสพันธ์ สว.สอบสวนส.ทล.1 กก.1 บก.ทล เลขที่ 25/2561 ลงวันที่ 17 มกราคม 2561 ในข้อหา “ร่วมกันมียาเสพติดให้โทษประเภทที่ 4 (กัญชา) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่าย โดยไม่ได้รับอนุญาต และสมคบคิดโดยตกลงกันตั้งแต่สองคนขึ้นไป เพื่อกระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติดและ ได้กระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติดที่ได้มีการสมคบกัน, รับเงินทรัพย์สิน หรือประโยชน์อื่นใดจากผู้กระทำความผิดเพื่อประโยชน์หรือให้คนสะดวกแก่การกระทำความผิด” ซึ่งขณะนี้ได้ควบคุมตัวพ.ต.ท.ธนกฤตมาสอบปากคำที่บช.ปส. ก่อนจะนำตัวมาแถลงข่าวในเวลา 10.00 น. ของวันที่ 18 ม.ค. ที่บช.ปส.ต่อไป

ต่อมาเวลา 22.00 น. พ.ต.ท.ธนกฤต ที่ถูกศาลอาญาอนุมัติหมายจับ เดินทางเข้ามอบตัวที่บช.ปส.แล้ว

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน