แม่รุดรับศพนักร้องหนุ่ม ลูกชาย พร้อมหิ้วรองเท้าคู่เก่ง มาเปลี่ยนให้ เผยจุกอก สงสารลูกมาก ขณะที่แม่ของกัปตัน ที่สละชีพช่วยลูกค้า ปกติเป็นคนมีน้ำใจมาก

เมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 6 ส.ค. 2565 ที่สถาบันนิติเวชวิทยา รพ.ตำรวจ นางเปรมใจ แซ่อึ้ง เดินทางเข้ารับศพนายฉัตรชัย ชื่นค้า ลูกชาย ซึ่งเป็นนักร้องผู้เสียชีวิตจากเหตุเพลิงไหม้ผับเมาท์เทนบี โดยนำเสื้อผ้าและรองเท้าของลูกชายมาด้วย พร้อมเปิดเผยว่า หลังจากได้เห็นศพก็รู้ว่าเป็นลูกชายของตนทันที

วันนี้ตนได้นำเสื้อผ้าและรองเท้าคู่ใหม่ มาให้ลูกชายสวมใส่แทนรองเท้าคู่เก่าที่ถูกไฟไหม้ แต่หากใส่ไม่ได้ก็จะนำไปใส่ให้ในโลงศพแทน โดยหลังเกิดเหตุตนยังไม่ได้รับการประสานเยียวยาจากทางสถานบันเทิงดังกล่าวแต่อย่างใด ขณะนี้ต้องออกค่าใช้จ่ายเองทั้งหมด

ส่วนกรณีที่มีการยืนยันว่าทางสถานบันเทิงเปิดประตูให้นักดนตรีหลบหนีออกมาทางด้านหลังนั้น ขณะนี้นักดนตรีมีทั้งอาการโคม่าและเสียขีวิตไปแล้ว ซึ่งนักดนตรีที่มาแทน 2 คน อาจจะไม่ทราบเรื่องประตูดังกล่าว ส่วนตัวไม่ทราบลูกชายจะรู้เรื่องประตูหรือไม่แต่คิดว่าไม่รู้ เพราะหากเกิดเหตุขึ้นมาก็น่าจะหนีตามกันออกมาได้ แต่ส่วนใหญ่นักดนตรีรักกันไม่ทิ้งกัน

นางเปรมใจ กล่าวว่า สำหรับร่างของลูกชายจะนำไปบำเพ็ญกุศลที่วัดโขดหิน จ.ระยอง โดยปกติแล้วลูกชายอาศัยอยู่กับตน ก่อนหน้านี้ลูกชายอยากเป็นนักร้องแต่ตนไม่เห็นด้วย ซึ่งมีอยู่ช่วงหนึ่งลูกชายได้ลาออกจากงานไปทำตามความฝัน เดินสายร้องเพลงอยู่ในจ.ระยอง แต่มักจะเป็นร้านที่มีลักษณะเปิดกว้าง ไม่ใช่ผับแบบนี้

ครั้งนี้น่าจะเป็นครั้งแรกที่ลูกชายมาร้องเพลงร้านที่เกิดเหตุ และเป็นการร้องเพลงแทน ซึ่งช่วงแรกนักร้องที่ลูกชายมาร้องเพลงแทนนั้นยังโพสต์ไม่เหมาะสมว่าแทนแค่วันเดียวยังเดือดขนาดนี้ แต่ก็ได้ออกมาขอโทษแล้ว เพราะขณะนั้นทราบแค่ว่าเกิดเพลิงไหม้ แต่ไม่ทราบว่ามีผู้เสียชีวิต

ทั้งนี้เมื่อตนได้เห็นลูกชายก็รู้สึกจุก เสียใจ สงสารมาก แต่ยังจดจำลูกได้จากรอยสัก รวมถึงเค้าโครง ที่แม้จะเปลี่ยนแปลงไปเยอะแต่ตนก็ยังจำได้

อยากฝากถึงผู้ประกอบการว่าต้องออกมารับผิดชอบ ซึ่งการชี้แจงของทางร้านนั้นตนยังไม่ทราบ แต่ส่วนตัวรู้สึกโมโหในเรื่องประตูทางออก ส่วนเรื่องการชดใช้นั้นให้เจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินการตามกฎหมาย

ด้านน.ส.เบญจมาพร คล้ายแสง แม่ของนายวิริยะ แต่งสง่า ผู้เสียชีวิตอีกราย กล่าวว่า ครั้งล่าสุดที่ได้คุยกับลูกชายคือช่วงเย็น ตนกับลูกชายทานอาหารกันตามปกติ ก่อนที่ลูกชายจะออกไปทำงาน จนช่วงประมาณเที่ยงคืน แฟนของลูกชายก็ยังติดต่อได้ และฝากให้ไปซื้อของ

กระทั่งเวลาประมาณ 05.00 น. ของวันรุ่งขึ้นจึงทราบเรื่องว่าเกิดเหตุเพลิงไหม้ และยังหาลูกชายไม่เจอจนมาพบว่าเสียชีวิตแล้ว ซึ่งตำแหน่งกัปตันปกติจะอยู่บริเวณหน้าร้าน ขณะเกิดเหตุลูกชายได้ออกมาด้านหน้าร้านแล้ว แต่เมื่อเกิดเหตุเพลิงไหม้ แล้วมีคนติดอยู่ด้านใน จึงย้อนกลับไปช่วยลูกค้ารายอื่น และกลายเป็นว่ามาเสียชีวิตเอง

ทั้งนี้ลูกชายของตนได้ทำงานที่ร้านอาหารแห่งนี้มากว่า 2 เดือนแล้ว ซึ่งเจ้าของเป็นญาติพี่น้องกับเจ้านายเก่าที่ลูกชายเคยร่วมงานด้วย และงานกัปตันที่ทำนั้นเป็นอาชีพเสริม เพราะอาชีพหลักเป็นเซียนพระ

น.ส.เบญจมาพร กล่าวต่อว่า โดยนิสัยของลูกชายแล้วเป็นคนมีน้ำใจ ชอบช่วยเหลือผู้อื่น และยังเป็นเสาหลักของครอบครัว ซึ่งจากนี้รายได้ในส่วนนี้ก็คงไม่มีแล้ว โดยเบื้องต้นทางเจ้าของได้ติดต่อมาสอบถาม และรับปากว่าจะช่วยเหลือ แต่ยังไม่ได้พูดคุยในส่วนของรายละเอียดการเยียวยา ส่วนศพนั้น ทางมูลนิธิป่อเต็กตึ๊งจะช่วยเหลือนำกลับไปทำพิธีทางศาสนาที่วัดป่ายุบ จ.ชลบุรี

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน