กรมอนามัย เตือน “หญิงท้อง” ฟันผุ-โรคปริทันต์ เสี่ยงถ่ายทอดเชื้อให้ลูก ทำลูกฟันผุง่าย เพิ่มโอกาสเสียฟันน้ำนมก่อนวัย ทั้งเสี่ยงคลอดก่อนกำหนด
วันที่ 7 ส.ค.65 นพ.สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมอนามัย กล่าวว่า หญิงตั้งครรภ์มักพบปัญหาโรคเหงือกอักเสบได้บ่อย เนื่องจากมีการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมน ส่งผลให้เหงือกและเนื้อเยื่ออ่อนต่าง ๆ ที่รองรับฟันอ่อนแอลง อีกทั้งอาการแพ้ท้อง อาเจียนบ่อย และการกินอาหารจุบจิบส่งผลให้หญิงตั้งครรภ์เกิดโรคฟันผุได้ง่าย หากดูแลอนามัยช่องปากไม่ดี จะส่งผลให้ฟันผุลุกลามรวดเร็ว
เพื่อลดปัญหาสุขภาพช่องปากของแม่และลูกที่จะเกิดมา หญิงตั้งครรภ์ที่มาฝากครรภ์ควรได้รับการตรวจฟัน เพื่อให้รู้ถึงการดูแลสุขภาพช่องปากของตนเองและลูก ฝึกทักษะการแปรงฟัน การใช้ไหมขัดฟันที่ถูกวิธี หากพบว่ามีปัญหาโรคในช่องปากควรได้รับการรักษาตามความจำเป็น ในช่วงตั้งครรภ์เดือนที่ 4 – 6 แต่ถ้ามีอาการปวดฟัน เหงือกบวม เป็นหนอง มีฟันผุใหญ่ ลึก หรือฟันคุดที่มีการติดเชื้อ สามารถรับบริการทางทันตกรรมได้ทันที
ทพญ.วรางคนา เวชวิธี ผอ.สำนักทันตสาธารณสุข กล่าวว่า แม่ที่มีฟันผุหลายซี่ มีโอกาสสูงที่จะถ่ายทอดเชื้อที่เป็นสาเหตุฟันผุจากแม่สู่ลูกได้มากขึ้น ทำให้ลูกมีความเสี่ยงสูงในการเกิดโรคฟันผุ หญิงตั้งครรภ์ที่ไม่ดูแลสุขภาพช่องปากจนมีปัญหาเหงือกอักเสบและฟันผุ จะส่งผลให้เกิดความผิดปกติกับเหงือกและฟันของลูกได้ เนื่องจากฟันน้ำนมของลูกเริ่มสร้างตั้งแต่ทารกอยู่ในครรภ์มารดา 6 สัปดาห์
นอกจากนี้ หากแม่ได้สารอาหารไม่ครบถ้วนหรือไม่เพียงพอ อาจส่งผลให้การสร้างฟันของลูกผิดปกติและเสี่ยงเกิดฟันผุมากขึ้น เพิ่มโอกาสสูญเสียฟันน้ำนมเพิ่มมากขึ้นด้วย ทั้งพบว่าโรคปริทันต์อาจเป็นปัจจัยเสี่ยงของการเกิดภาวะคลอดก่อนกำหนด และเด็กมีน้ำหนักแรกเกิดน้อยได้
“หญิงตั้งครรภ์ควรได้รับบริการขูดหินน้ำลาย ทำความสะอาดช่องปาก เพื่อลดภาวะเหงือกอักเสบ การอุดฟันช่วยลดปริมาณเชื้อแบคทีเรียในช่องปากได้ ต้องปรับทัศนคติของแม่ให้เห็นความจำเป็นของการดูแลสุขภาพช่องปาก ลดการถ่ายทอดเชื้อโรคที่เป็นต้นเหตุฟันผุจากแม่สู่ลูก
ควรดูแลสุขภาพช่องปากตนเองอย่างเหมาะสมด้วยการแปรงฟันตามสูตร 2-2-2 คือ แปรงฟันอย่างน้อยวันละ 2 ครั้ง เช้าและก่อนนอน แปรงฟันนาน 2 นาทีขึ้นไป ด้วยยาสีฟันผสมฟลูออไรด์ และงดกินอาหาร 2 ชั่วโมงหลังแปรงฟัน ทำความสะอาดซอกฟันด้วยไหมขัดฟัน เพื่อลดโอกาสสูญเสียฟันเพิ่มขึ้น” ทพญ.วรางคนากล่าว
