เปิดใจหนุ่มเจ้าของรถ ช็อกค่ายกรถตกที่จอดอัตโนมัติถึง 1 ล้าน ยอมรับประมาท แต่คาใจความปลอดภัย เรียกขนาดนี้ ซื้อรถใหม่ได้เลย
เมื่อวันที่ 26 ส.ค. 65 ที่สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) นายจิรเดช อายุ 26 ปี และครอบครัว เดินทางมาติดตามกรณีรถไหลตกจากที่จอดอัตโนมัติ ก่อนนิติบุคคลคอนโดแห่งหนึ่ง ย่านสะพานควาย เรียกค่ายกรถ 1 ล้านบาท หลังเคยมายื่นเรื่องให้ตรวจสอบโครงสร้างช่องจอดอัตโนมัติ ว่ามีความปลอดภัยหรือไม่
นายจิรเดช เปิดเผยว่า เหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 13 ธ.ค.64 ตนขับรถมิตซูบิชิ เอ็กซ์แพนเดอร์ สีดำ 7 ที่นั่ง ซึ่งเพิ่งออกมาได้ 2 ปี เข้าไปจอดในช่องจอดอัตโนมัติในคอนโด โดยเข้าเกียร์ N เอาไว้ ขณะนั้นกำลังคุยธุระและมีเวลาแค่ 30 นาที จึงรีบขึ้นไปแต่งตัว จากนั้นนิติคอนโดทักมาบอกว่ารถล่วงลงมา
ก่อนหน้านี้นิติคอนโดแจ้งว่า สามารถให้ช่างข้างนอกเข้ามายกรถได้ ซึ่งช่างประเมินราคาอยู่ที่ 30,000 บาท แต่สุดท้ายก็ไม่ได้ให้ช่างมายกรถ ผ่านมา 8 เดือน ผ่อนรถทิ้งไปเดือนละ 14,900 บาท แต่รถยังจอดหัวทิ่มอยู่ที่เดิม และเมื่อ 2 วันก่อน นิติคอนโดแจ้งว่าตอนนี้มีค่าดำเนินการยกรถ 1,035,760 บาท เพิ่มขึ้นจากตอนแรกที่เรียก 500,000 บาท
นายจิรเดช บอกอีกว่า ยอมรับว่าประมาท แต่สิ่งที่คาใจ ช่องจอดอัตโนมัติควรจะมีความปลอดภัยมากกว่านี้หรือไม่ ไม่ใช่มีแต่ที่กั้นบางๆ อย่างคอนโดของเพื่อน ไม่ได้เข้าเกียร์ P รถก็ไม่ควรร่วง เพราะที่จอดมีที่ล็อกล้อและมีหลุมลงไป ส่วนคอนโดเช่าเดือนละ 28,000 บาท แต่สัญญาเช่าหมดสิ้นเดือน ทางนิติคอนโดแจ้งอีกว่า หากรถยังจอดค้างอยู่ที่เดิม จะคิดค่าจอดวันละ 500 บาท
ด้านนางนิตยา ตาบสันเทียะ อายุ 45 ปี ผู้เป็นแม่ เปิดเผยว่า หลังเกิดเหตุติดต่อให้ช่างมายกรถออก อยู่ที่ราคา 30,000 บาท ซึ่งได้ทำแบบแผนการยกรถ ส่งไปให้นิติบุคคลคอนโด แต่กลับไม่อนุมัติ ให้เหตุผลว่าจะกระทบกระเทือนกับส่วนกลาง โดยนิติจะดำเนินการให้เอง ซึ่งใช้แบบแผนคล้ายๆ กับของตน ให้วางมัดจำ 200,000 บาท และยังบอกอีกว่า หากในระหว่างยกรถไปกระทบกระเทือนกับตรงไหน จะเรียกเก็บเงินเพิ่ม ตนก็เลยยังไม่ตอบตกลงไป
ตอนช่วงแรกๆ นิติคอนโดมาขอถอดล้อออก อ้างว่าล้อไปขัดกับช่องจอด ตนก็อนุญาตให้ถอด แต่หลังจากถอดไปแล้ว ช่องจอดรถใช้ได้ตามปกติ ก็ไม่เคยติดต่อมาเลย พอตนติดต่อไปเพื่อถามถึงเรื่องการยกรถออก ทางนิติคอนโดกลับเรียกเงินเพิ่มเป็น 500,000 บาท ตนเลยมาขอความเป็นธรรมที่ สคบ. ในวันที่ 14 พ.ค. 2565 และได้ส่งเรื่องไปกรมที่ดิน เพื่อเรียกให้ทั้ง 2 ฝ่ายมาไกล่เกลี่ยกัน ซึ่งก็ไม่รู้ว่าจะมีข้อสรุปอย่างไร ผ่านไป 8 เดือน รถยังค้างอยู่ที่เดิม
นางนิตยา ยังบอกอีกว่า เมื่อวานนี้พอติดต่อไปพูดคุบกับนิติบุคคลอีกครั้ง แจ้งกลับมาว่า ตอนนี้มีค่าย้ายรถและระบบจอดรถ รวมทั้งหมด 1,035,760 บาท ทำให้รู้สึกตกใจมาก แค่ยอด 500,000 บาท ก็จุกแล้ว แต่นี่เรียกเป็นล้านซื้อรถใหม่ได้เลย พอถามไปที่บริษัทประกันภัย ก็ได้รับคำตอบว่ามีหน้าที่ซ่อมอย่างเดียว
