สุดสลด สาวน.ศ.ปวส.ปี 2 ขี่จยย.ไปเรียนพุ่งชนที่กั้นทางรถไฟลวดสะลิง พาดคอ จนคอหัก เสียชีวิตอนาถ ตร.ระบุคาดว่าเป็นจุดที่ดวงอาทิตย์กำลังขึ้นจึงส่องแสงแยงตาเด็กสาวจนมองไม่เห็นที่กั้น ขับพุ่งชนด้วยความเร็วจนเกิดอุบัติเหตุ ป้าของเด็กสาว มารับศพด้วยความเศร้าสลด เผยเป็นเด็กกำพร้า ส่งเสียเรียนจนใกล้จบ เป็นเด็กเรียนดี ไม่น่าต้องจบชีวิตแบบนี้
เมื่อเวลา 07.30 น. วันที่ 26 ม.ค. ร.ต.อ. สุพจน์ โชติพินิจ รองสารวัตรสอบสวน สภ.นาข่า อ.เมือง จ.อุดรธานี รับแจ้งเหตุรถจักรยานยนต์ ชนที่กั้นทางพาดรถไฟ บ้านโนนงามไปยังบ้านพรานเหมือน ต.บ้านขาว อ.เมืองอุดรฯ มีผู้เสียชีวิต จึงรุดไปตรวจสอบพร้อมด้วยแพทย์เวร ร.พ.อุดรธานี และ เจ้าหน้าที่มูลนิธิส่งเสริมธรรมอุดรฯ
ที่เกิดเหตุอยู่บริเวณบนถนนทางพาดรถไฟ พบร่างน.ส.ณัฐณิชา ดาหาร อายุ 21 ปี อยู่บ้านเลขที่ 155 ม.2 ต.หมากแข้ง อ.เมือง อุดรธานี นักศึกษาชั้น ปวส.ปีที่ 2 วิทยาลัยอาชีวศึกษาอุดรธานี อยู่ในชุดนักศึกษา นอนหงายเสียชีวิตอยู่ สภาพศพคอหัก เกิดจาก คอไปชนกับลวดสะลิงทางพาดรถไฟอย่างแรง ตามร่างกายมีถลอก และใกล้ผู้ตายพบรถจยย.ยี่ห้อฮอนด้าสกูปี้ สีชมพูขาว ทะเบียน คทธ 161 อุดรธานี ของผู้ตายตกลงไปอยู่ข้างทางสภาพด้านหน้ารถพังเสียหาย โดยที่ลวดสะลิงกั้นทางพาดรถไฟขาดเสียหาย
จากนั้นเมื่อนางชุตินันท์ สรรพอาษา อายุ 56 ปี อยู่บ้านเลขที่ 224 ม.8 บ้านโนนงาม ต.บ้านขาว ป้าของผู้ตาย ทราบข่าวก็รีบมาดูและเมื่อเห็นร่างของหลานสาวเสียชีวิตถึงกับนั่งร้องไห้แทบใจสลาย
สอบสวนเบื้องต้นนายมนตรี โคษา พนักงานกั้นจุดตัดทางรถไฟ ให้การว่า เมื่อเวลา 07.33 น. จะมีรถไฟ ขบวนรถด่วนที่ 76 เดินทางมาจากสถานีหนองคาย ผ่านจุดกั้นทางพาดรถไฟ บริเวณนี้ ตนจึงกดแผงกั้นซึ่งจะเป็นลวดสะลิงลงมากั้นไม่ให้รถวิ่งผ่านหรือข้ามไปมา แล้วตนออกมาดูความเรียบร้อย ก่อนที่รถไฟจะมาถึง เพียงแค่ไม่กี่นาทีมีรถจยย. ที่ผู้ตายซึ่งใส่หมวกกันน็อกด้วย ขับขี่มาด้วยความเร็วสูง แล้วพุ่งมาชนที่กั้นทางพาดรถไฟ จนลวดสะลิงขาดแล้วตัวผู้ตายกระโดดตกจากรถจยย. หมวกกันน็อกหลุดออกจากศีรษะ ส่วนรถจยย. ล้มแล้วไถล ตกลงไปข้างทาง ตนจึงรีบเข้าไปช่วยเหลือ แต่หญิงสาวคนดังกล่าวนอนแน่นิ่ง ตนจึงโทร.แจ้งเจ้าหน้าที่ให้มาตรวจสอบช่วยเหลือ และพบว่าหญิงสาวคนนี้ก็ได้เสียชีวิตแล้ว
นางชุตินันท์ ป้าของผู้ตาย กล่าวว่า หลานสาวคนนี้เป็นลูกกำพร้าพ่อแม่เสียชีวิตไปหลายปีแล้ว ตนเลี้ยงดูมาตั้งแต่เล็กจนถึงปัจจุบัน พร้อมกับส่งเสียให้เรียนกำลังจะจบชั้น ปวส.ปี 2 เป็นคนเรียนเก่ง และเป็นนักกีฬาของวิทยาลัยด้วย แต่มักจะชอบขับขี่รถจยย.เร็ว เคยว่ากล่าวตักเตือนมาหลายครั้ง หลังทราบว่าหลานสาวขับขี่รถจยย.ชนที่กั้นทางพาดรถไฟเสียชีวิต จึงรีบออกมาดู รู้สึกเสียใจเป็นอันมาก แทบใจจะสลายเพราะรักหลานสาวคนนี้มาก ชาวบ้านที่ขับรถผ่านทางพาดรถไฟบอกว่า ช่วงที่หลานสาวขี่รถจยย.จะมาถึงทางพาดรถไฟ พระอาทิตย์กำลังขึ้นมาระดับสายตาพอดี อาจจะเป็นเหตุที่หลานสาวมองข้างหน้าไม่ชัด ประกอบกับหลานสาวจะรีบไปเรียน กลัวว่าไปสาย เพราะระยะจากบ้านไปถึงวิทยาลัย ประมาณ 20 กิโลเมตร จนไม่ทันเห็นที่กั้นรถไฟ จึงได้พุ่งชนจนเป็นเหตุทำให้เสียชีวิตดังกล่าว
ร.ต.อ.สุพจน์กล่าวว่า หลังจากแพทย์ชันสูตรพลิกศพ พบว่าผู้ตายคอหัก เกิดจากคอไปชนกับลวดสะลิงอย่างแรง ตามร่างกายมีถลอก ไม่มีแผลฉกรรจ์ ได้ตรวจสอบในที่เกิดเหตุและสอบถามพนักงานกั้นจุดตัดรถไฟ และชาวบ้านบริเวณแถวนี้ ทราบว่าผู้ตายได้ขับขี่รถจยย.จะไปเรียน แต่มาถึงที่เกิดเหตุ ในจังหวะนั้นแสงของพระอาทิตย์อาจจะส่องเข้าที่ดวงตาของผู้ตาย ทำให้ไม่เห็นลวดสะลิงกั้นทางรถไฟที่ลงมา จึงได้พุ่งชนแล้วคอหักเสียชีวิตดังกล่าว ทางญาติของผู้ตายไม่ติดใจในการเสียชีวิตครั้งนี้ จึงได้มอบศพให้นำไปบำเพ็ญกุศลต่อไป
