เด้งด่วน 2 ตำรวจทางหลวงกรุงเก่าเข้ากรุ ตั้งกรรมการสอบซ้ำ เหตุจับรถบรรทุกวิ่งขวาจนทำให้เกิดรถชนกันซ้ำซ้อนหลายคันหนึ่งในนั้นเป็นนักร้องสาว “ฮาวา” คิ้วแตกเลือดโชกหน้า สารวัตรทางหลวงยันลูกน้องไม่ได้ตั้งด่านลอย แต่เป็นสายตรวจรถยนต์ รับแจ้งจากชาวบ้านว่ามีรถบรรทุกวิ่งขวาสร้างความเดือดร้อนจึงไปตามจับ ด้านนักร้องสาวโพสต์โต้ปมดราม่าไม่คาดเข็มขัดนิรภัยทำให้บาดเจ็บ

จากกรณี “ฮาวา”อรวี ชูชื่น นักร้องนักดนตรี สาวจากเวที The X Factor โพสต์ภาพตัวเองบาดเจ็บเลือดอาบใบหน้า รวมถึงภาพและคลิป ที่เกิดอุบัติเหตุ ในเฟซบุ๊กส่วนตัว “Hawa Hawax” พร้อมบรรยายรายละเอียดว่า “ขณะเกิดเหตุกำลังขับรถไปเล่นดนตรีที่อยุธยา อยู่ๆ ตำรวจทางหลวงเดินมากลางถนนเพื่อโบกรถสิบล้อคันข้างหลังที่อยู่เลนขวาสุดให้หยุด เป็นด่านลอย ยืนกันอยู่ 2 คน เราเป็นคันตรงกลาง มีรถอยู่ข้างหน้าเราคันหนึ่ง เราเบรกทัน แต่สิบล้อเบรกไม่ทันชนรถเรา กีตาร์ เอฟเฟ็กต์ของการโดนเต็มๆ เราหางตาแตกเลือดไหลเต็มเสื้อ ตอนนี้หาหมอเรียบร้อย อยู่สถานีตำรวจแล้ว พอเจอตำรวจ ตำรวจพูดจาเหมือนไม่ใช่ความผิดตำรวจ บอกว่าเป็นการปฏิบัติหน้าที่ ควรรู้สึกยังไงดี”

ความคืบหน้า เมื่อวันที่ 29 ม.ค. ที่สำนักงาน ตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. กล่าวว่า ขณะนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจทั้ง 2 นายได้ไปช่วยราชการเป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยการทำงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวงทำตามยุทธวิธี แต่อาจเป็นอุบัติเหตุทำให้รถชนกัน ส่วนการตั้งด่านหรือเรียกรถต้องปรับปรุงพัฒนาแก้ไขเพื่อไม่ให้เกิดเหตุขึ้นหรือไม่นั้น รูปแบบการตั้งด่านของตำรวจทางหลวงและท้องที่ ลักษณะคนละแบบ แล้วแต่พื้นที่ แล้วแต่ความเหมาะสมในตอนนั้น แต่ได้กำชับมาโดยตลอดในเรื่องของอุบัติเหตุต่างๆ หรืออะไรก็แล้วแต่ที่ทำให้ประชาชนเดือดร้อนให้หลีกเลี่ยง

พล.ต.อ.จักรทิพย์กล่าวว่า เชื่อว่าเวลานี้ด่านลอยแทบไม่มีแล้ว แต่ต้องขอบคุณทุกภาคส่วนที่บางครั้งสื่อ หรือกล้องเป็นตัวที่ทำให้ทุจริตน้อยลง เพราะสื่อหรือโซเชี่ยลต่างๆ ช่วยกันจับผิดอยู่แล้ว ในการทำงานตนไม่ได้มาปกป้องผู้ใต้บังคับบัญชา เชื่อว่ารถเจ้าหน้าที่ ตำรวจทางหลวงที่จอดอยู่ตรงนั้นไม่กล้าทุจริตเท่าไหร่ ยืนยันว่าไม่ได้เข้าข้าง เพราะได้ตั้งกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริงเจ้าหน้าที่ตำรวจทั้ง 2 นายแล้ว

สำหรับเหตุที่เกิดขึ้นจะถึงขั้นต้องออก คำสั่งห้ามตั้งด่านลอยหรือไม่นั้น พล.ต.อ. จักรทิพย์ กล่าวว่า มีการประชุมกันทุกครั้งอยู่แล้ว บช.น. ได้มีการสั่งการไปแล้ว เชื่อว่าทุกภาคและทุกหน่วย ไม่ว่าจะหน่วยปฏิบัติหรือหน่วยสนับสนุนคงรู้กันอยู่แล้ว แต่ถ้าไม่ตั้งด่านเลยอาชญากรรมอาจจะโผล่ขึ้นมาเยอะ หรือยาเสพติดวิ่งได้สบายใจเฉิบ ได้อย่างเสียอย่าง ต้องเห็นใจในการทำงานด้วย

“เราไม่ได้สั่งให้ลูกน้องไปรีดไถประชาชน เราให้ไปดูแลความปลอดภัย ช่วงเทศกาลสงกรานต์ ตำรวจทางหลวง ตำรวจท่องเที่ยว ตำรวจพื้นที่ไม่ได้หลับไม่ได้นอน แต่พอเรื่องแบบนี้กลับมาโจมตีกัน ให้โอกาสการทำงานกันบ้าง ทุกวันนี้สังคมจับจ้องและจับผิดตำรวจ อยู่แล้ว ขอให้ดูความตั้งใจ ตำรวจคนไหนไปรีดไถชาวบ้าน ทุจริต ผมก็เอาออกอยู่แล้วไม่ได้ปกป้อง ผมไม่ให้เสียชื่อองค์กรหรอก” ผบ.ตร.กล่าว

ด้านพ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษก ตร. เปิดเผยถึงกรณีเดียวกันว่า เบื้องต้นได้รับรายงานจาก สภ.บางปะอิน จ.พระนครศรีอยุธยา ว่า เมื่อวันที่ 28 ม.ค. เวลาประมาณ 15.30 น. บริเวณถนน 347 (ฝั่งมุ่งหน้า อ.บางปะหัน) ก.ม.25 ต.เกาะเกิด อ.บางปะอิน จ.พระนครศรี อยุธยา มีอุบัติเหตุรถเฉี่ยวชนกัน พนักงานสอบสวน สภ.บางปะอิน จึงออกตรวจที่เกิดเหตุ พบรถยนต์ 3 คันได้รับความเสียหาย คือ รถยนต์ส่วนบุคคล หมายเลขทะเบียน กบ 5915 นครสวรรค์, รถยนต์ส่วนบุคคล หมายเลข ทะเบียน กน 61 อุบลราชธานี และรถยนต์บรรทุก หมายเลขทะเบียน 72-5397 สมุทร ปราการ

พ.ต.อ.กฤษณะกล่าวอีกว่า จากที่ได้รับรายงานเบื้องต้นทราบว่า ก่อนหน้านี้ตำรวจทางหลวงพระนครศรีอยุธยา ได้รับการร้องเรียนจากผู้ใช้รถใช้ถนนว่า เส้นทางดังกล่าว มีรถบรรทุกวิ่งในช่องทางเดินด้านขวา ในลักษณะแช่เป็นเวลานาน ทำให้เกิดปัญหา การจราจร จึงออกแผนการตรวจและจับ ผู้กระทำความผิด ซึ่งในวันเกิดเหตุน่าจะเกิดจากความผิดพลาดในการปฏิบัติหน้าที่ทำให้เกิดอุบัติเหตุ ซึ่งหลังเกิดเหตุตำรวจทางหลวงพระนครศรีอยุธยา เรียกรถยนต์กู้ชีพนำผู้บาดเจ็บส่งโรงพยาบาล และไปแจ้งความที่สถานีตำรวจ การดำเนินการทางวินัยตำรวจทั้งสองนาย ผู้บังคับบัญชามีคำสั่งให้หยุดปฏิบัติหน้าที่ และให้รายงานตัวที่ บก.ทล. พร้อมตั้งคณะกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริงเกี่ยวกับการปฏิบัติหน้าที่ว่ามีการกระทำผิดวินัย หรือกฎระเบียบอย่างไรบ้าง

“พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. เน้นย้ำ ให้การปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจต้องอยู่ภายใต้กรอบกฎหมาย ระเบียบ คำสั่ง และข้อบังคับที่กำหนด อย่างเคร่งครัด ส่วนของเจ้าหน้าที่ตำรวจคนอื่นที่ยังไม่ปฏิบัติตามคำสั่ง หรือปฏิบัติงานไม่สนองนโยบายของผู้บังคับบัญชา ก็จะไม่เข้าข้างอยู่แล้ว หากผลการตรวจสอบข้อเท็จจริงพบว่ามีความผิดก็จะดำเนินการทั้งทางวินัยและทางอาญาอย่างเด็ดขาด” รองโฆษก ตร. กล่าว

วันเดียวกัน พ.ต.ต.ขุนเขา โพธิ์สุวรรณ สว.สทล.1 กก.1 บก.ทล. เปิดเผยว่า หลังเกิดเหตุได้ประสานกับ ร.ต.อ.ยศวัฒน์ เอกกกุล รองสว.สอบสวน สทล.1 ไปตรวจสอบที่ เกิดเหตุ และสอบสวนตำรวจที่ปฏิบัติหน้าที่ ได้รับการยืนยันว่า ขณะปฏิบัติหน้าที่ ตำรวจทั้งสองนายพบรถยนต์บรรทุกน้ำมันพืช ทะเบียนป้ายเหลือง 72-5397 สมุทรสาคร วิ่งมาในช่องทางขวา จึงออกไปเรียก โดยมี รถยนต์ของน.ส.อรวี นำหน้ามา เมื่อน.ส.อรวีเห็นเจ้าหน้าที่ตำรวจโบกจึงหยุดทันที ทำให้รถบรรทุกที่ตามมาพุ่งเข้าชนดังกล่าว เบื้องต้นเรียกตำรวจทั้งสองนายดังกล่าวมาสอบเบื้องต้น สั่งงดปฏิบัติหน้าที่และส่งตัวไปยังบก.ทล. เพื่อสอบสวนอย่างละเอียด ซึ่งต้องรอดูผลการสอบสวนว่าการปฏิบัติหน้าที่บกพร่องหรือไม่อย่างไร และมีความเสี่ยงต่อการทำให้ผู้อื่นเกิดอันตรายหรือไม่

“ตำรวจทางหลวงได้มีการเน้นย้ำเรื่องความ ปลอดภัยอยู่เสมอ อย่างไรก็ตามการปฏิบัติหน้าที่ของตำรวจทางหลวงที่ผ่านมา จะใช้รถวิทยุตรวจเขตวิ่งตระเวนในเส้นทางรับผิดชอบ เมื่อพบเห็นการกระทำผิดซึ่งหน้า ก็จะเรียก เพื่อออกใบสั่งให้ไปเสียค่าปรับ จะไม่เรียกรับ หรือปรับทันที จึงไม่ใช่การตั้งด่านลอยอย่างที่เข้าใจ และอยากให้สังคมเข้าใจการทำงานของตำรวจทางหลวง โดยเฉพาะวันหยุดมีรถเข้าออกจากกรุงเทพฯ ต่างจังหวัดมาก สิ่งที่ตำรวจทางหลวงทำคือการเฝ้าระวังและป้องปราม เนื่องจากได้รับร้องเรียนว่ามีรถบรรทุกวิ่งในช่องทางขวาจำนวนมาก จึงต้องออกไปคอยเฝ้าและจับกุมตามหน้าที่ ส่วนจะเป็นการใช้วิธีการที่เสี่ยงหรือไม่อย่างไรต้องรอความเห็นจากการสอบสวน” พ.ต.ต.ขุนเขากล่าว

ร.ต.อ.ยศวัฒน์กล่าวว่า ตำรวจที่ปฏิบัติหน้าที่ ครั้งนี้คือ ด.ต.ดนัย ซ่อนกลิ่น ทำหน้าที่พลขับและพนักงานวิทยุประจำรถตรวจเขต เป็นคนที่เข้าไปคุยข้างรถยนต์คันเกิดเหตุตามคลิป และอีกนายคือ ด.ต.ประจักษ์ เย็นสุวรรณ พนักงานวิทยุประจำรถ ทั้งสองนายเป็นตำรวจที่มีผลงานในด้านการให้บริการประชาชน ซึ่งประจำรถตรวจหมายเลข 1130 ซึ่งจะรับ ผิดชอบในการตรวจเส้นทางตั้งแต่แยกเทคโนปทุมธานี ไปจนถึง อ.มหาราช ระยะทาง 65 ก.ม. จากการสอบสวนทั้งสองนายยืนยันว่า ไม่ได้เจตนาที่จะไปเรียกตรวจ เพียงแต่ก่อนหน้านั้นได้พบว่ามีรถบรรทุกวิ่งในช่องทางขวา หลายคัน และได้จับกุมไปก่อนหน้า 1 คัน

ขณะเดียวกันก็มองเห็นรถบรรทุกน้ำมันดังกล่าววิ่งมาช่องทางขวา แต่พอดีมีรถยนต์ของผู้เสียหายวิ่งนำหน้ามา เข้าใจว่าคงตกใจจึงเบรก กะทันหัน จึงได้เบรกไม่ทันพุ่งชนรถยนต์ ดังกล่าว ซึ่งหลังเกิดเหตุก็แจ้งผู้บังคับบัญชาและประสานท้องที่ สภ.บางปะอิน เข้ามาดำเนินการ โดยได้นำตัวคนขับรถยนต์บรรทุกไปดำเนินคดี ทันที ส่วนน้องฮาวาก็ได้นำส่งร.พ.บางปะอิน ตามขั้นตอน หลังสอบสวนเบื้องต้นก็ได้ส่งตัวไปยัง บก.ทล.เพื่อรายงานตัว 10.00 น.วันเดียวกัน คงต้องรอผลสรุปจากทางกองบังคับการอีกครั้ง

วันเดียวกัน นักร้องสาว “ฮาวา”อรวี โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊กส่วนตัว หลังมีผู้ระบุว่าเหตุที่ต้องได้รับบาดเจ็บเพราะไม่ได้คาดเข็มขัดนิรภัยว่า “มีบางความคิดเห็นที่บอกว่าไม่ได้คาดเข็มขัดนิรภัย ขอชี้แจงตรงนี้นะคะ วาคาดเข็มขัดทุกครั้งที่ขึ้นรถ ส่วนรูปที่ถ่ายตัวเอง คือถ่ายหลังจากเกิดเหตุแล้ว วาช็อกเพราะเห็นเลือด จึงถอดเข็มขัดออกเพื่อหาหมอนมาซับเลือด เพราะเลือดไหลไม่หยุด แล้วรีบโทร.แจ้งเจ้าของงานกับถ่ายรูปส่งไปยืนยันว่าเกิดอุบัติเหตุรถชนไปร้องเพลงไม่ได้แล้ว ขอบคุณที่เข้าใจนะคะ”

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน