รัวสนั่น 6 นัด จ่อยิงอดีตนักข่าวสาว ดับคาบ้านพักย่านบางเสาธง สมุทรปราการ ชาวบ้านได้ยินเสียงปืน คิดว่ายิงขึ้นฟ้าคืนพระจันทร์สีเลือด ผ่านมาร่วม 2 ชั่วโมงจึงมาพบศพ ต่อมาอดีตสามีมอบตัวสน.ทุ่งสองห้อง รับเป็นคนลงมือ เหตุตามง้อคืนดีแต่ฝ่ายหญิงไม่สนใจ ไม่ให้เข้าบ้านซ้ำยังโทร.ตามแฟนใหม่มาไล่ จึง ชักปืนยิงใส่ ก่อนปีนกำแพงหลังบ้านหนี เอาปืนไปโยนทิ้ง จากนั้นนั่งแท็กซี่มาหาผู้คุมคุก ที่รู้จักกัน เล่าเรื่องราวให้ฟัง สุดท้ายถูกเกลี้ยกล่อมจนยอมมอบตัว อ้างมีใบแพทย์ป่วยทางสมอง ตร.คุมสอบเข้ม เตรียมนำตัวทำแผนนาทีลงมือโหด

เมื่อเวลา 02.30 น. วันที่ 1 ก.พ. ร.ต.อ. เดชชาติ สารุณา รองสารวัตร(สอบสวน) สภ.บางเสาธง จ.สมุทรปราการ รับแจ้งมี หญิงสาวถูกยิงเสียชีวิตภายในบ้านพักเลขที่ 86/ 234 หมู่ 2 หมู่บ้านพฤกษา 86 เฟส 2 ต.ศีรษะจรเข้น้อย อ.บางเสาธง จ.สมุทร ปราการ หลังรับแจ้งจึงรีบรุดไปตรวจสอบพร้อมด้วย พ.ต.อ.วิชิต บุญชินวุฒิกุล รอง ผบก.ภ.จว.สมุทรปราการ พ.ต.อ.สุเนตร หอกลาง ผกก.สภ.บางเสาธง และกำลัง เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน พฐ. แพทย์นิติเวชและ เจ้าหน้าที่อาสาฯ มูลนิธิร่วมกตัญญูเดินทางเข้าตรวจสอบ

ที่เกิดเหตุเป็นบ้านหรู 2 ชั้น พบว่าบริเวณประตูกระจกหน้าบ้านแตกกระจาย แต่ด้านในยังล็อกกุญแจอยู่รวมทั้งประตูเหล็กดัด โดยมีปะแจที่ใช้สำหรับไขนอตขนาดใหญ่เบอร์ 28 เบอร์ 29 ตกอยู่ภายในรั้วบ้าน 2 อัน ที่หน้าประตูมีรอยเลือดหยดเป็นทางไปทางข้างบ้านด้านหลังบ้าน และยังพบปลอกกระสุนปืนขนาด .38 ซูเปอร์ตกอยู่ที่พื้นหน้าบ้านจำนวน 6 ปลอก ส่วนประตูรั้วเหล็กหน้าบ้านถูกล็อกด้วยกุญแจ เจ้าหน้าที่จึงให้อาสามูลนิธิใช้คีมตัดเหล็กตัดกุญแจออกก่อนเข้าไปตรวจสอบภายใน

เมื่อตรวจสอบประตูด้านในบ้านพบหญิงสาวเจ้าของบ้านนอนเสียชีวิต สอบสวนทราบชื่อภายหลังว่าน.ส.เหมือนแพร ศรีสุวรรณ อายุ 32 ปี สภาพศพนอนหงายจมกองเลือดมีบาดแผลถูกยิงด้วยอาวุธปืนขนาด .38 ซูเปอร์ ที่ลำตัวรวมทั้งหน้าอกจำนวน 4 แผล ที่โหนกแก้มทั้ง 2 ข้างอีก 2 แผลคาดว่าเสียชีวิตมาแล้วไม่ต่ำกว่า 2 ชั่วโมง จึงประสานเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐานเข้าตรวจหาลายนิ้วมือคนร้าย พร้อมแพทย์โรงพยาบาลบางบ่อมาตรวจสอบเบื้องต้น ก่อนมอบศพให้มูลนิธินำส่งสถาบันนิติเวช

จากการสอบถามชาวบ้านละแวกใกล้เคียง ทราบว่า เหตุน่าจะเกิดช่วงประมาณ 4-5 ทุ่ม ที่เกิดปรากฏการณ์พระจันทร์สีแดง เพราะมีชาวบ้านได้ยินเสียงคล้ายปืนดังหลายนัดติดต่อกัน แต่คิดว่าเป็นเสียงประทัดที่ชาวบ้านจุดรับปรากฏการณ์พระจันทร์แดงจึงไม่มีใครสนใจ กระทั่งเวลาประมาณเที่ยงคืน ชาวบ้านที่พักอาศัยอยู่หมู่บ้านเดียวกันขับรถผ่านมา เห็นกระจกประตูบ้านแตกจึงลงมาดูก่อนพบผู้ตายนอนจมกองเลือดอยู่ในบ้าน จึงรีบโทรศัพท์แจ้งตำรวจมาตรวจสอบ ส่วนผู้ก่อเหตุน่าจะได้รับบาดเจ็บเช่นกัน ซึ่งอาจจะถูกกระจกบาดเข้าที่มือหรือส่วนอื่นๆ ของร่างกายจนเลือดไหลเป็นทางระหว่างวิ่งไปปีนรั้วกำแพงข้างบ้านหลบหนีไป ส่วนสาเหตุเจ้าหน้าที่ยังไม่ตัดทิ้งทั้งเรื่องชู้สาวหรือปัญหาส่วนตัว ทั้งนี้ พบว่าหญิงสาว ผู้ตายเคยเป็นอดีตนักข่าวสายการเมือง ก่อนลาออกมาทำกิจการส่วนตัวประมาณ 4-5 ปีแล้ว อย่างไรก็ตามเจ้าหน้าที่จะสืบสวนข้อเท็จจริงอีกครั้ง เพื่อเป็นแนวทางในการติดตามจับคนร้ายรายนี้มาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

ต่อมาเวลา 06.00 น. วันเดียวกัน ที่ สน.ทุ่งสองห้อง นายยงยันย์ จันทะสะเร อายุ 38 ปี อดีตพนักงานขับรถบริษัทแห่งหนึ่งย่านบางพลีสมุทรปราการ เข้ามอบตัวกับ พ.ต.ท.สำอาง ขาวสอาด สารวัตร(สอบสวน) สน.ทุ่งสองห้อง พร้อมให้การรับสารภาพว่า เป็นผู้ก่อเหตุยิง น.ส.เหมือนแพร เสียชีวิตจริง โดยนายยงยันย์เล่าว่า ก่อนหน้านี้เคยแต่งงานอยู่กินกับ น.ส.เหมือนแพร มาหลายปีก่อนจะแยกทางกัน แต่ก็ยังไปมาหาสู่กันอยู่ประจำ ต่อมาช่วงหลังๆ ตนและผู้ตายได้มีปากเสียงกัน ก่อนเกิดเหตุตนได้ดื่มสุราจนเมา และเดินทางไปหาผู้ตายที่บ้านเพื่อพยายามง้อ ขอคืนดีแต่ผู้ตายปฏิเสธและไม่ยอมเปิดประตูให้เข้าไปในบ้านจึงมีปากเสียงกัน และผู้ตายได้โทรศัพท์ตามแฟนใหม่ให้มาช่วย ด้วยความโมโหประกอบกับเมาสุรา ตนจึงชักปืนที่พกติดตัวมายิงกระหน่ำใส่ผู้ตายหลายนัด ก่อนที่จะปีนกำแพงบ้านหลบหนีออกจาก จุดเกิดเหตุ ตนเดินผ่านป้อมยามหน้าหมู่บ้าน เอาปืนที่ก่อเหตุโยนทิ้งข้ามกำแพงเข้าไป ในป่าหญ้าตรงข้ามหน้าหมู่บ้าน จากนั้น หลบหนีมาที่ย่านบางพลี และว่าจ้างแท็กซี่ ให้ไปส่งในกรุงเทพฯ ก่อนตัดสินใจเข้ามอบตัว

รายงานข่าวแจ้งว่า นายยงยันย์นำใบ รับรองแพทย์มายื่นให้กับพนักงานสอบสวน ว่าตนเองมีอาการทางสมอง โดยหลังเกิดเหตุเดินทางไปยังเรือนจำพิเศษกรุงเทพ และเข้าไปคุยกับผู้คุมนายหนึ่งพร้อมกับเล่าเหตุการณ์ยิงแฟนเก่าให้ฟัง ผู้คุมจึงเกลี้ยกล่อมให้มอบตัว ซึ่งระหว่างคุยนั้น นาย ยงยันย์มีอาการคล้ายคนเพิ่งสร่างเมา ประกอบกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.ทุ่งสองห้อง ผ่านมาพอดี นายยงยันย์จึงยอมเข้ามอบตัวกับ เจ้าหน้าที่ตำรวจโดยดี

ภายหลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.ทุ่งสองห้อง ได้คุมตัวนายยงยันย์ แล้วจึงได้ประสานไปยังเจ้าหน้าที่ สภ.บางเสาธง สมุทรปราการ ให้มารับตัวไปดำเนินคดีตามกฎหมาย ขณะเดียวกันในช่วงบ่ายเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐานของตำรวจภูธรจังหวัดสมุทรปราการ เข้าเก็บหลักฐานเพิ่มเติมและวิถีกระสุนในบ้านที่เกิดเหตุอีกครั้งเพื่อประกอบสำนวน ส่วนทางด้าน ร.ต.อ.เดชชาติ สารุณา เจ้าของคดีได้เดินทางมาสอบปากเจ้าหน้าที่ รปภ. ที่อยู่หน้าหมู่บ้านที่เกิดเหตุ เพื่อรวบรวม หลักฐานในการดำเนินคดีกับนายยงยันย์ โดยในวันพรุ่งนี้จะแถลงรายละเอียดคดีและ นำตัวผู้ก่อเหตุไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพบ้านที่เกิดเหตุต่อไป

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน