สาวสุดช้ำ ส.ต.ต. ปลอมยศเป็น พ.ต.ต. หลอกคบจนท้อง แถมรู้ทีหลังมีเมียแล้ว เจอยื่นข้อเสนอยุติตั้งครรภ์ ผู้บังคับบัญชาขอไกล่เกลี่ยเงิน 3.5 แสนบาท
วันที่ 21 พ.ย.2565 น.ส.เอ (นามสมมุติ) เปิดใจกับ ‘ข่าวสดออนไลน์’ หลังจากถูกตำรวจยศ ส.ต.ต. สังกัดกองบังคับการอารักขาและควบคุมฝูงชน (บก.อคฝ.) ปลอมยศเป็น พ.ต.ต. ตำแหน่งสารวัตร สังกัดกองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) หลอกคบเป็นแฟนก่อนอยู่กินฉันสามีภรรยากันจนตั้งครรภ์ แต่แล้วฝ่ายชายก็ตีตัวออกห่างพร้อมขอให้ยุติการตั้งครรภ์ ว่า ตนพบกับตำรวจนายนี้เมื่อเดือน พ.ย.ปี 2564 ขณะตัวเองขายของอยู่ในตลาดนัด แล้วเขาบอกว่า มาจับคนร้ายตามหมายจับ ก่อนจะแลกไลน์แต่ก็ไม่ได้คุยกัน เขาก็หายไปราว 1 เดือนแล้วติดต่อกลับมาอีกครั้ง ก่อนจะได้คบกันเป็นแฟน
สาวสุดช้ำ ส.ต.ต. ปลอมยศเป็น พ.ต.ต. หลอกคบจนท้อง แถมรู้ทีหลังมีเมียแล้ว เจอยื่นข้อเสนอยุติตั้งครรภ์
น.ส.เอ กล่าวต่อว่า ต่อมาวันที่ 10 ธ.ค.2564 เขาก็พาตนไปหาพ่อกับแม่เขาใน จ.นครสวรรค์ แล้วก็ไปมาหาสู่กันเรื่อยมาระหว่างบ้านกับที่ทำงานที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล โดยตอนนั้นเขามียศเป็น ร.ต.อ. ถัดมา 2-3 เดือนเขาบอกได้เลื่อนขั้นเป็นว่าที่ พ.ต.ต. พร้อมกับนำบัตรข้าราชการมาฝากไว้กับตน โดยบอกว่าต้นสังกัดทำบัตรผิด แต่ให้ตนเก็บไว้กรณีมีปัญหาใดจะได้นำมาใช้
น.ส.เอ กล่าวอีกว่า หลังจากคบกันมาได้ 7-8 เดือน อยู่กินกันฉันสามีภรรยา เขาก็บอกอยากมีลูก ก็ตกลงกันจนกระทั่งตนตั้งท้อง แต่เขาบอกว่าไม่ต้องบอกให้คนในครอบครัวเขารู้ ตนเสนอว่าให้ไปจดทะเบียนสมรสกัน เพราะเมื่อคลอดจะได้มีสิทธิต่าง ๆ แต่เขาพยายามบ่ายเบี่ยง อ้างว่าติดพันกับการทำเรื่องร่วมกันกู้ซื้อบ้านกับเพื่อนอยู่ ตนก็เอะใจว่าเพื่อนอะไรจะมาร่วมกู้ซื้อบ้านกัน ช่วงนี้ตนก็สังเกตเห็นว่าเขามีพฤติกรรมที่เปลี่ยนไป
น.ส.เอ กล่าวว่า จึงให้คนรู้จักที่เป็นตำรวจช่วยตรวจสอบบัตรข้าราชการของเขา ก่อนจะทราบว่าเป็นส.ต.ต. สังกัด บก.อคฝ. ซึ่งเขาก็รู้แล้วว่าตนไปสืบหามา แต่ก็ยังเถียงว่าได้รับยศนี้จริง ตนจึงร้องเรียนไปยัง บก.อคฝ. จนมีการธำรงค์วินัย ส่วนเพื่อนที่เขาอ้างว่าร่วมกู้ซื้อบ้านนั้น แท้จริงเป็นภรรยาของเขาเอง
น.ส.เอ กล่าวด้วยว่า ระหว่างนั้นเขาก็ติดต่อหาตน ให้ตกลงเรื่องส่วนตัวกัน เนื่องจากตนก็ไม่พร้อมจะตั้งครรภ์และยังมีหนี้สิน ก่อนเขาจะโอนเงินมาให้ 50,000 บาทเพื่อยุติการตั้งครรภ์ และไม่ติดต่อกลับมาถามไถ่อีกเลย ทั้งนี้ ตนไม่อยากจะได้เงิน และต้องการให้ต้นสังกัดลงโทษขั้นสูงสุดคือให้พ้นจากราชการ เพราะทำให้องค์กรตำรวจเสื่อมเสีย และอาจไปหลอกคนอื่นอีก
น.ส.เอ กล่าวต่อว่า แต่มีผู้บังคับบัญชาของเขา เสนอให้ไกล่เกลี่ยเป็นเงิน 350,000 บาทแลกกับการไม่ให้เขาออกจากราชการ พร้อมระบุว่า เอาเขาออกก็ได้แต่ความสะใจเท่านั้น โดยวันที่ 22 พ.ย.นี้ ตนจะเข้าไปติดตามเรื่องนี้ที่หน่วยงานต้นสังกัดต่อไป พร้อมขอเตือนว่าอยากให้ดูคนกันดี ๆ อย่าหลงความหวานเอาอกเอาใจ
ด้าน ผู้บังคับบัญชาของสิบตำรวจตรีนายนี้ เปิดเผยว่า ขณะนี้ไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดได้ ต้องรอการนัดเจรจากับฝ่ายผู้เสียหายก่อน
