ทนายดัง เผยมุมมอง กม. ชี้ปม เจ้าของร้าน ยิงโจรปล้นทอง เสี่ยงมีความผิด! ป้องกันตัวเกินกว่าเหตุ ยกคำพิพากษาศาลฎีกา อธิบาย อาจขัดใจ แต่หลักการเป็นแบบนี้
วันที่ 8 ธ.ค.65 ทนายรัชพล ศิริสาคร ทนายความชื่อดัง โพสต์คลิปผ่านเพจ ทนายรัชพล ศิริสาคร Fanpage แสดงความคิดเห็นกรณี 4 คนร้ายพร้อมอาวุธครบมือ ปล้นร้านทอง โดยยิงประตูแตก ก่อนใช้เครื่องเจียรตัดเหล็กลูกกรง แต่ถูกเจ้าของร้าน ใช้ปืนลูกซองไล่ยิงกลุ่มคนร้าย ทำให้มีผู้บาดเจ็บสาหัส 1 ราย และถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจ ตามจับกุมได้ 1 ราย ส่วนอีก 2 ราย หลบหนีไปได้
ทนายรัชพล ตั้งหัวข้อโจรบุกร้านทองถูกยิงตาย อ้างป้องกันตัวได้มั้ย? โดยระบุว่า กรณีที่คนร้ายบุกมาแล้วมีปืน แล้วเข้ามาพยายามตัดลูกกรงในร้านทอง ในส่วนนี้มองว่าถ้ายิงออกไปแล้วโจรเสียชีวิตมองว่าเป็นการป้องกันตัวพอสมควรแก่เหตุไม่มีความผิด เพราะว่าขณะที่คนร้ายบุกมาแล้วถือปืนมา 4 คน พร้อมที่จะยิงเราได้ทุกเมื่อ ฉะนั้นการที่จะยิงไปเมื่อตอนบุกเข้ามาจึงเป็นการป้องกันตัวสมควรแก่เหตุ ถ้ายิงตอนนั้นแล้วไปตายข้างนอก ก็ยังเป็นการป้องกันตัวพอสมควรแก่เหตุไม่เป็นความผิด
แต่ว่าหากคนร้ายอยู่ระหว่างที่วิ่งหนี ขณะที่เรายิงสวนออกไปนั้น เมื่อคนร้ายวิ่งหนีแปลว่าภัยหมดแล้ว ถ้าเราอยู่เฉยๆ ไม่มีภัยมาถึงเราแล้ว การที่จะไปยิงซ้ำ ตามล่าคนร้าย ที่ยังไม่ได้เอาทองไป (ถ้าเอาไปถือว่าเป็นการป้องกันเอาทรัพย์สินของเรากลับคืนมาได้) แล้วเรายิงซ้ำกระสุนเข้าด้านหลัง
มีคำพิพากษาศาลฎีกาอยู่หลายคดี ที่ระบุว่าเป็นการป้องกันตัวเกินกว่าเหตุ ขออธิบายที่อาจขัดใจหลายคน ที่อาจมองว่ามีคนมาปล้นเราแล้วเรายิงไม่ได้หรือ ต้องเข้าใจว่าตามกฎหมายเข้าว่ากันอย่างนั้น เพราะถ้าภัยหมดแล้ว เราจะป้องกันตัวอย่างนั้นไม่ได้ และเสี่ยงที่จะถูกดำเนินคดีว่าป้องกันตัวเกิดแก่เหตุ
Advertisement
ทนายรัชพล ยืนยันว่า เรื่องนี้เป็นมุมมองทางกฎหมาย โดยอ้างอิงจากคำพิพากษาศาลฏีกาหลายคดี ซึ่งอาจขัดใจใครหลายคน
ทั้งนี้ ทนายรัชพล ยังตอบคอมเมนต์อีกว่า ถ้ายิงตอนบุกแล้วตาย อ้างป้องกันได้ แต่ถ้าวิ่งหนี ยังไม่ได้เอาทองไป แล้วถูกยิง เข้าข่ายเกินกว่าเหตุ ขัดใจวัยรุ่นต้องขออภัย แต่หลักการเป็นแบบนี้จริงๆ
