จับ “เปรมชัย กรรณสูต” ปธ.อิตาเลียน ไทย ยักษ์ใหญ่ก่อสร้าง พร้อมพวกอีก 3 คน ตั้งแคมป์กลางป่าทุ่ง ใหญ่ ผงะซากเสือดำ เก้ง ไก่ฟ้า ปืนไรเฟิลติดกล้อง ลูกซอง กระสุนเพียบ สอบสวนปฏิเสธ ไม่ได้ล่าสัตว์ ปืนก็ไม่ใช่ของตนเอง ดำเนินคดี 9 ข้อหา ส่งฝากขังศาล ก่อนได้ประกันตัว กรมอุทยานฯ แถลงชี้แจงวุ่น โต้เป็นแขกวีไอพี ยอมรับเปรมชัยขอเข้าพื้นที่ศึกษาธรรมชาติ แต่กลับไปตั้งแคมป์ในจุดหวงห้าม ด้านผู้บริหารอิตัลไทยเรียกประชุมเครียด หวั่นกระทบโครงการก่อสร้างถนนเชื่อมป่า
เมื่อวันที่ 6 ก.พ. เจ้าหน้าที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวร ฝั่งตะวันตก ควบคุมตัวนายเปรมชัย กรรณสูต อายุ 63 ปี อยู่บ้านเลขที่ 12/3 ซอยศูนย์วิจัย 3 แขวงบางกะปิ เขตห้วยขวาง กทม. ประธานบริหารบริษัท อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ จำกัด (มหาชน) นายยงค์ โดดเครือ อายุ 65 ปี อยู่บ้านเลขที่ 84 หมู่ 8 ต.คุ้งพะยอม อ.บ้านโป่ง จ.ราชบุรี นางนที เรียมแสน อายุ 43 ปี อยู่บ้านเลขที่ 102 หมู่ 1 ต.ทุ่งสว่าง อ.ประทาย จ.นครราช สีมา และนายธานี ทุมมาศ อายุ 56 ปี อยู่ บ้านเลขที่ 47 หมู่ 3 ต.ช่องสะเดา อ.เมือง จ.กาญจนบุรี
โดยจับกุมได้ที่บริเวณห้วยปะชิ ต.ชะแล อ.ทองผาภูมิ จ.กาญจนบุรี อยู่ในพื้นที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวร ฝั่งตะวันตก พร้อมของกลางอาวุธปืนไรเฟิล ขนาด .30-06 ติดกล้อง, อาวุธปืนไรเฟิล ขนาด .22 ติดกล้อง, อาวุธปืนลูกซองแฝดเบอร์ 20, กระสุนปืนขนาด .30-06 จำนวน 7 นัด, กระสุนปืนขนาด .22 จำนวน 114 นัด กระสุนปืนลูกซองเบอร์ 20 จำนวน 4 นัด, กระสุนปืนลูกซอง 2 แรงครึ่ง 13 นัด, กระสุนปืนลูกซอง 1 แรง จำนวน 4 นัด เข็มขัดบรรจุกระสุนปืนลูกซอง และน้ำมันล้างปืน
นอกจากนี้ ยังพบซากสัตว์ป่าจำนวนมาก ประกอบด้วย ซากเสือดำชำแหละแล้ว 1 ตัว น้ำหนัก 10.6 ก.ก. หนังเสือดำยาวจากหัวถึงสะโพก 83 เซนติเมตร หนังเสือดำชำแหละแล้ว 1 ผืน น้ำหนัก 2.6 ก.ก. ความยาวจากหัวถึงหาง 148 เซนติเมตร ซากไก่ฟ้าหลังเทา 1 ตัว น้ำหนัก 0.6 ก.ก. และเนื้อเก้ง เป็นสัตว์ป่าคุ้มครอง
สำหรับการจับกุมดังกล่าว สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 3 ก.พ. นายเปรมชัยพร้อมพวกรวม 4 คน เข้าไปท่องเที่ยวในเส้นทางสำนักงานเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวร ฝั่งตะวันตก บริเวณหน่วยพิทักษ์ป่าทิคอง หน่วยพิทักษ์ป่ามหาราช ซึ่งเป็นเส้นทางที่สำนักงานเขตฯ เปิดให้ท่องเที่ยว ระยะทาง 30 ก.ม. โดยนายเปรมชัยมีโปรแกรมท่องเที่ยวป่า 2 วัน 1 คืน
ต่อมาวันที่ 4 ก.พ. เจ้าหน้าที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวร รับแจ้งจากเจ้าหน้าที่หน่วยพิทักษ์ป่ามหาราช ว่าพบคณะนาย เปรมชัย ลักลอบตั้งแคมป์พักแรมบริเวณห้วยปะชิ เป็นจุดที่ไม่อนุญาตให้ผู้ใดเข้าไปตั้ง แคมป์ จากนั้นนายวิเชียร ชิณวงษ์ หัวหน้าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่ฯ ส่งเจ้าหน้าที่เข้า ไปตรวจสอบ พบอาวุธปืนและซากสัตว์ป่าจำนวนมาก จึงควบคุมตัวนายเปรมชัยและพวกพร้อมของกลางมายังสำนักงานเขตฯ ในเวลา 02.40 น. วันที่ 5 ก.พ.
จากนั้นนายวิเชียร และเจ้าหน้าที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่ฯ ควบคุมตัวนายเปรมชัย และพวกพร้อมของกลางส่งพนักงานสอบสวน สภ.ทองผาภูมิ สอบสวนดำเนินคดี 9 ข้อหา 1.ร่วมกันล่าสัตว์ป่าในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าโดยมิได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่ 2.ร่วมกันล่าสัตว์ป่าคุ้มครองโดยมิได้รับอนุญาต 3.ร่วมกันมีไว้ในครอบครองซึ่ง ซากของสัตว์ป่าคุ้มครองโดยมิได้รับอนุญาต 4.ร่วมกันพยายามล่าสัตว์ป่าในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าโดยมิได้รับอนุญาต 5.ร่วมกันช่วยซ่อนเร้น ช่วยพาเอาไปเสีย หรือรับไว้ด้วยประการใด ซึ่งซากของสัตว์ป่าอันได้มา 6.ร่วมกันนำเครื่องมือสำหรับใช้ในการล่าสัตว์ป่า หรือจับสัตว์หรืออาวุธใดๆ เข้าไปในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า 7.ร่วมกันเข้าไปในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าโดยไม่ได้รับอนุญาต 8.ร่วมกันเก็บหาของป่าในเขตป่าสงวนแห่งชาติโดยมิได้รับอนุญาต และ 9.ความผิดต่อ พ.ร.บ.อาวุธปืน เครื่องกระสุนปืน วัตถุระเบิด ดอกไม้เพลิง และสิ่งเทียมอาวุธปืน
สอบสวนเบื้องต้นผู้ต้องหาให้การปฏิเสธ โดยนายเปรมชัยให้การว่า ไม่ได้เข้าไปล่าสัตว์ ส่วนอาวุธปืนก็ไม่ใช่ของตนเอง จากนั้นพนักงานสอบสวนจึงควบคุมตัวผู้ต้องหาทั้ง 4 คน ส่งฝากขังต่อศาลจังหวัดทองผาภูมิ ก่อนที่ทนายความของผู้ต้องหายื่นหลักทรัพย์ ขอประกันตัว ศาลอนุญาตด้วยวงเงินประกันคนละ 150,000 บาท
วันเดียวกัน ที่มหาวิทยาลัยราชภัฏรำไพพรรณี จ.จันทบุรี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี กล่าวว่าไม่ว่าใครก็ตามทำผิดกฎหมายต้องถูกลงโทษ ต้องเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม ให้ศาลเป็นผู้ตัดสิน ตนไม่มีอำนาจไปก้าวล่วง ให้ทุกฝ่ายดำเนินการอย่างตรงไปตรงมา
ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พล.ต.อ. ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รองผบ.ตร. กล่าวว่ายืนยันบังคับใช้กฎหมาย 100 เปอร์เซ็นต์ ไม่มีความกังวล แม้ผู้กระทำความผิดจะเป็นนักธุรกิจดัง มีชื่อเสียง มีตำแหน่งทางสังคม ก็ไม่เกี่ยวกัน ไม่มีใครใหญ่กว่ากฎหมาย ใครนำพา ใครร่วมด้วย ใครเกี่ยวข้องจับให้หมด ไม่มีปัญหา ทำไปตามขั้นตอนกฎหมาย
ที่กรมอุทยานฯ น.ส.กาญจนา นิตยะ ผอ. สำนักอนุรักษ์สัตว์ป่า กรมอุทยานฯ แถลงว่าได้รับโทรศัพท์จากบุคคลที่ระบุว่าเป็นผู้ประสานงานของนายเปรมชัย ว่าจะขอเข้าพื้นที่ จึงแจ้งให้ไปประสานกับสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ได้เลย เพราะเป็นการขอเข้าพักกางเต็นท์เพื่อศึกษาธรรมชาติ ยืนยันว่าไม่ได้รู้จักนายเปรมชัยเป็นการส่วนตัว ที่ระบุว่านายเปรมชัยเป็นแขกของตน หรือแขกวีไอพีนั้น ต้องตอบว่านักท่องเที่ยว หรือผู้ที่ต้องการศึกษา ธรรมชาติในเขตรับผิดชอบของกรมอุทยานฯ เป็นแขกของเจ้าหน้าที่ทุกคน และปฏิบัติกับทุกคนที่มาติดต่อเช่นเดียวกันและเท่าเทียม กันหมด อีกทั้งไม่ค่อยรู้จักคนมีชื่อเสียง หรือคนใหญ่คนโตอยู่แล้ว
ผู้สื่อข่าวถามว่าเจ้าหน้าที่ประมาทหรือไม่ น.ส.กาญจนากล่าวว่าเจ้าหน้าที่ทำงานอย่างเต็มที่อยู่แล้ว ถือว่าเป็นโชคที่ตรวจพบและจับกุม แต่โชคร้ายที่สูญเสียสัตว์ป่าหลายตัว โดยเฉพาะเสือดำ เป็นสัตว์ป่าคุ้มครอง ขนาดใหญ่ หายาก ในพื้นที่เหลืออยู่ไม่เกิน 130 ตัวเท่านั้น ยืนยันว่ากรมอุทยานฯ จะเร่งติดตามคดีให้ถึงที่สุด โดยส่งเจ้าหน้าที่ส่วนกลางเข้า ไปช่วยทำสำนวน เพื่อให้รัดกุมและเอาผิดผู้ที่เกี่ยวข้องได้ เรื่องนี้นายเปรมชัยต้องมีส่วนรับผิดชอบ เพราะอยู่ร่วมในเหตุการณ์ จะอ้างว่าเป็นลูกน้องทำ แต่ไม่ห้ามปราม ไม่ได้
ผอ.สำนักอนุรักษ์สัตว์ป่ากล่าวว่า ทราบว่ากลุ่มนายเปรมชัยขอเข้าพื้นที่วันที่ 3-5 ก.พ. ช่วงเย็นวันที่ 3 กลุ่มนายเปรมชัยไม่ได้อยู่ในจุดที่อนุญาตให้พักแรมได้ และแจ้งให้กลับไปอยู่ในจุดที่เจ้าหน้าที่กำหนด โดยจุดดังกล่าวมีเจ้าหน้าที่ 4 นาย ลาดตระเวนได้ยินเสียงปืนดังขึ้น จึงขอกำลังสมทบเพิ่ม และเข้าไปตรวจในบริเวณรอบๆ เต็นท์ของผู้ต้องหา พบกระสุนปืน เห็นผิดสังเกตและเข้าตรวจค้นจนพบซากสัตว์ป่า
ส่วนนายธรรมรัฐ วงศ์โสภา รักษาการ ผอ.สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 3 (บ้านโป่ง) กล่าวว่าเบื้องต้นพบว่ากลุ่มผู้ต้องหายื่นขออนุญาตเข้าพื้นที่เมื่อวันที่ 2 ก.พ. แต่เอกสารหลักฐานยังไม่ครบถ้วนสมบูรณ์ ยังต้องขอเอกสารหลักฐานเพิ่มเติม เพื่อนำมาประกอบการพิจารณาอนุญาต ดังนั้น การเข้าไปของกลุ่มผู้ต้องหา จึงเป็นการเข้าไปโดยไม่ได้รับอนุญาต มีโทษปรับ แต่พฤติกรรมการลักลอบล่าสัตว์ป่าเป็นคนละเรื่องกัน ต้องแยกเป็น 2 ส่วน
ผอ.สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 3 (บ้าน โป่ง) กล่าวต่อว่าสอบสวนเบื้องต้นผู้ต้องหาให้การปฏิเสธในชั้นจับกุม แต่ต้องไปดูกันในชั้นสอบสวนอีกครั้งว่า ยังคงให้การปฏิเสธอีกหรือไม่ แม้ผู้ต้องหาไม่รับสารภาพ ก็ต้องว่ากันไปตามพยานหลักฐานที่ปรากฏอยู่ในขณะจับกุม และพฤติการณ์ในการเข้าจับกุมของ เจ้าหน้าที่ เป็นสิ่งสำคัญ
ขณะเดียวกัน ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะนี้บริษัทอิตาเลียนไทยฯ ได้รับสัมปทานโครง การก่อสร้างสายกบินทร์บุรี-ปักธงชัย เป็นโครงการก่อสร้างทางเชื่อมผืนป่า และขยายทางหลวง 304 ปราจีนบุรี-นครราชสีมา ของกรมทางหลวง กระทรวงคมนาคม จะต้องเชื่อมต่อตัดผ่านเส้นทางเข้าไปยังผืนใหญ่หลายแห่ง คือป่าดงพญาเย็น-เขาใหญ่ อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ ทับลาน ปางสีดา ตาพระยา และเขตอนุรักษ์พันธุ์สัตว์ป่าดงใหญ่ เป็นผืนป่าที่มีสัตว์ป่าอาศัยอยู่จำนวนมาก
โครงการดังกล่าวถือเป็นเส้นทางเชื่อมผืนป่าแห่งแรกของไทย มีอุโมงค์และสะพานยกระดับ โดยในช่วงที่เป็นสะพานนั้น ด้านใต้สะพานเป็นช่องให้สัตว์ป่าเดินลอด ส่วนอุโมงค์จะให้รถยนต์ใช้ และสัตว์เดินข้ามบนหลังอุโมงค์ เพื่อลดอุบัติเหตุรถยนต์เฉี่ยวชนสัตว์ป่าที่เดินข้ามผืนป่าดงพญาเย็นและเขาใหญ่ และจากการที่นายเปรมชัยถูกจับกุมพร้อมซากสัตว์ป่ากลางป่าทุ่งใหญ่ ทำให้ผู้บริหารอิตาเลียนไทยหลายคนกังวลเกี่ยวกับโครงการดังกล่าว และอยู่ระหว่างการประชุมอย่างเคร่งเครียด
