ทนายด่าง เผยอาการ ตะวัน-แบม ยันหัวใจยังไม่ได้หยุดเต้น เเต่ผิดปกติ สิ่งที่ทำไม่ใช่หวังชนะกดดันใคร แต่ต้องการสื่อสารผู้มีอำนาจกับสังคม

วันที่ 26 ม.ค. 66 ที่ ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก นายกฤษฎางค์ นุตจรัส ทนายความศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน ในฐานะทนายความของ น.ส.ทานตะวัน ตัวตุลานนท์ หรือ ตะวัน และ น.ส.อรวรรณ ภู่พงศ์ หรือ แบม 2 นักกิจกรรมที่กำลังอดอาหารเพื่อเรียกร้องสิทธิประกันตัวให้นักโทษทางการเมือง เดินทางมาเพื่อว่าความในคดีการชุมนุม พร้อมตอบเกี่ยวกับอาการของ ตะวัน เเละเเบมที่มีข่าวลงว่าหัวใจหยุดเต้น

ทนายกฤษฎางค์ เปิดเผยว่า จากการพูดคุยกับแพทย์ผู้ดูแล และการเห็นด้วยสายตาจากการเข้าเยี่ยม อาการของทั้งคู่ก็ไม่ค่อยดีเท่าไหร่ เนื่องจากมีอาการเกี่ยวกับหัวใจที่ได้รับแจ้งจากแพทย์ โดย น.ส.ทานตะวัน ก่อนที่จะเดินทางมาถึงโรงพยาบาลธรรมศาสตร์ มีอาการเป็นลม และการเต้นของหัวใจก็มีความผิดปกติ ซึ่งทางแพทย์ได้ขอร้องให้ น.ส.ทานตะวัน รับโพสแทสเซียม เพราะจากการตรวจร่างกาย พบว่าสภาพร่างกายกำลังขาดโพแทสเซียม ส่งผลกับการทำงานของหัวใจ และอาจส่งผลให้เกิดภาวะหัวใจวายได้ เนื่องจากเจ้าตัวปฏิเสธการกินอาหาร ดื่มน้ำ รวมทั้งไม่ยินยอมรับน้ำเกลือ และเกลือแร่

นายกฤษฎางค์ กล่าวต่อว่า น.ส.ทานตะวันได้พูดคุยกับแพทย์ ซึ่งแพทย์ได้ขอร้องให้เจ้าตัวนั้นรับโพแทสเซียมเข้าสู่ร่างกาย ซึ่งตะวันยินยอม ทำให้อาการที่เกี่ยวกับหัวใจดีขึ้นในระดับหนึ่ง ซึ่งตนเองได้เข้าเยี่ยม และได้พูดคุยเกี่ยวกับอาการ และอีกหลาย ๆ เรื่อง ซึ่งอาการของ น.ส.ทานตะวัน ส่วนใหญ่จะเป็นคนฟัง และนานๆ จะพูดทีนึง ไม่สามารถพูดยาวๆ ได้ แต่ขณะนี้ที่ได้รับโพแทสเซียมเข้าไปอาการก็ดีขึ้น ซึ่งหลังจากนี้ ต้องรอดูท่าทีของ น.ส.ตะวันว่าจะกินเพิ่มหรือไม่ หากโพแทสเซียมในร่างกายลดลงอีก

ส่วนเรื่องของอาการที่เกี่ยวกับหัวใจนั้น นายกฤษฎางค์ ยืนยันว่า หัวใจของตะวันไม่ได้หยุดเต้น แต่การทำงานของหัวใจ และการหายใจมีความผิดปกติมาก ซึ่งอาจจะส่งผลอันตรายในเมื่อไหร่ก็ได้ โดยในตอนนี้อาการยังคงทรงตัวอยู่ รวมทั้งแพทย์ ได้แสดงความกังวลว่า หากยังยืนยันว่าจะอดอาหาร และน้ำต่อไป จะทำให้อยู่ในขั้นวิกฤต ซึ่งหากคนไข้หมดสติไปจะให้ทำอย่างไร

อีกทั้งแพทย์ยังแนะนำว่า ถ้าหากทั้งคู่ได้รับเกลือแร่ หรือกินน้ำหวานบ้าง อาการก็จะไม่วิกฤต เพราะโรงพยาบาลธรรมศาสตร์ อยู่ในสภาพที่ครบถ้วนที่ดีกว่าที่โรงพยาบาลราชทัณฑ์ สามารถอาบน้ำทำให้เขาสดชื่นขึ้นบ้าง

นายกฤษฎางค์ กล่าวต่อว่า ตนเองได้ปรึกษา เรื่องดังกล่าวกับพ่อแม่ของทั้ง 2 ราย และเจ้าตัว โดย น.ส.ทานตะวัน และ น.ส.อรวรรณ ยืนยันว่า พวกเขาจะยังอยากที่จะให้ผู้เกี่ยวข้อง รับฟังข้อเรียกร้องของพวกเขาที่ได้ถอนประกันมา โดยระบุอีกว่า ถ้าเขาหมดสติ หรือถึงเวลานั้นจริงๆ เขาคงไม่รู้ตัวไม่สามารถตอบอะไรได้ ก็เป็นหน้าที่ของแพทย์ ทนาย หรือครอบครัวที่จะต้องตัดสินใจ

สำหรับอาการของ น.ส.อรวรรณ นายกฤษฎางค์ ระบุว่า มีอาการนอนเฉยๆ เหนื่อยง่าย มีอาการปวดท้องแทรกเป็นระยะ ไม่ค่อยพูด คาดว่ามาจากการอดข้าวอดน้ำ ซึ่งตนเองได้แจ้งไปว่าพ่อกับแม่ของ น.ส. อรวรรณ มาร่วมยืนหยุดขังด้วย น.ส. อรวรรณก็ร้องไห้ และเขาก็ไม่ได้พูดอะไรเยอะ เพียงแต่พูดทิ้งท้ายว่า สิ่งที่เขาทำไม่ได้ไปกดดันใคร และไม่ได้หวังว่าจะชนะ

แต่เขาต้องการสื่อสารต่อผู้มีอำนาจ และสังคมว่าปัญหาที่เกิดขึ้น มันเป็นปัญหาอะไร รวมทั้งสิ่งที่ทำเพื่ออยากให้สังคมตื่น เนื่องจากเห็นว่า สิ่งนี้เป็นสิ่งที่ไม่ถูกต้องเขาจึงตัดสินใจทำแบบนี้ พร้อมยังกล่าวย้ำกับตนอีกว่า ถ้าหากตัวเองเป็นอะไรไป ขอให้ทุกคนเข้าใจ ว่าสิ่งที่ทำพวกเขาทำไป พวกเขาตัดสินใจเอง

ด้านแพทย์ที่โรงพยาบาลธรรมศาสตร์ก็เผยกับตนเองว่าแพทย์เคารพการตัดสินใจของทั้งคู่ เพราะฉะนั้นการรักษาพยาบาลก็ต้องเป็นไปตามความประสงค์ของพวกเขา แต่ถ้าในฐานะที่เป็นแพทย์หมอก็อยากจะให้ทั้ง 2 คน กลับมารับประทานอาหาร และไปเลือกใช้วิธีอื่นในการต่อสู้ เพราะร่างกายตอนนี้ค่อนข้างจะวิกฤติ

ส่วน กิจกรรมเมื่อวานนี้ (24 ม.ค. 66) ที่มีขบวนคาร์ม็อบมาที่ศาลอาญาเพื่อยื่นข้อเรียกร้องนั้น ทาง น.ส.ทานตะวันกับ น.ส.อรวรรณ ก็ทราบแล้ว ซึ่งทั้งคู่ดีใจ และขอบคุณ ที่มีคนเห็นด้วยกับสิ่งที่พวกเขาทำอยู่ พร้อมแสดงความเป็นห่วง เพราะไม่อยากให้ใครถูกคดีเพิ่ม ส่วนเรื่องที่มีคนอยากให้ทั้งคู่ ยุติการอดอาหาร และน้ำ เปลี่ยนไปใช้วิธีอื่นในการต่อสู้ ซึ่งทั้ง 2 คน ระบุสั้นๆ กับทนายว่า พวกเขายังมีกำลังใจในการต่อสู้ที่ดี ทุกคนไม่ต้องเป็นห่วงเขา เพราะสิ่งที่ทำ หนูได้ตัดสินใจแล้ว และเป็นสิ่งที่ตัดสินใจเอง รวมทั้งยังยืนที่จะสู้ต่อไป พร้อมทั้งขอบคุณโรงพยาบาลธรรมศาสตร์ที่ให้เข้ารับการรักษาอีกด้วย

ทั้งนี้ นายกฤษฎางค์ เปิดเผยอีกว่า เมื่อวันอังคารที่ผ่านมาทางทนายความ และยื่นประกันประกันตัวน้องที่ถูกคุมขังทางการเมืองจากการประชุมที่ดินแดงซึ่งถูกขังมาเป็นระยะเวลาปีนึงแล้ว หลายคนไม่ได้ถูกคดีมาตรา 112 ปรากฏว่าศาลปฏิเสธไม่ให้ประกันตัว​ ซึ่งเรายังหวังว่าหลักการมันไม่ได้เกี่ยวกับตะวันหรือแบม หลักการอยู่ที่ว่าที่พวกเขาติดคุกมานานพอสมควรแล้ว​ หากศาลตั้งเงื่อนไขมา​ทางจำเลยก็ยอมรับ เพราะกลุ่มเหล่านี้ไม่ใช่เป็นนักศึกษาเป็นผู้ที่ทำมากินเลี้ยงครอบครัวอยู่ เราก็เสียใจ ถ้าศาลพิจารณาตามหลักการ ก็น่าจะให้เขาประกันมาตั้งนานแล้ว

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน