สั่งเบรกแล้ว! ร.ต.อ.หญิง ขอลาออกไปท่องโลก ตัดพ้อในหน่วยไม่สามัคคี ไม่มีความสุข ผู้การเพชรบูรณ์เรียกคุยจนยอมเปลี่ยนใจแล้ว

วันที่ 24 มี.ค.2566 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณีโลกโซเชียลแชร์หนังสือขอลาออกจากราชการของตำรวจหญิงนายหนึ่ง ปฏิบัติหน้าที่อยู่ สภ.เมืองเพชรบูรณ์ สังกัด บก.ภ.จว.เพชรบูรณ์

โดยในหนังสือใบลาออกระบุว่าข้าพเจ้า ร.ต.อ.หญิง……รอง.สว.(สอบสวน) สภ.เมืองเพชรบูรณ์ มีความประสงค์ที่จะลาออกจากราชการตำรวจ ตั้งแต่วันที่ 30 เม.ย.66 เนื่องจากอยากออกไปใช้ชีวิตในแบบที่ต้องการ ออกเดินทางท่องโลกไปตามสถานที่ต่างๆ เพื่อหาประสบการณ์ใหม่ๆ ผู้คนใหม่ๆ ที่มีความจริงใจ และในขณะเดียวกันยังได้ช่วยเหลือผู้คนที่ต้องการความช่วยเหลืออย่างแท้จริง อีกทั้งยังมีความฝันที่อยากจะทำให้สำเร็จ และในระหว่างที่ปฏิบัติหน้าที่ในตำแหน่งพนักงานสอบสวนนั้น ได้ปฏิบัติหน้าที่อย่างเต็มกำลังความสามารถทั้งด้านสอบสวนและในฐานะคณะทำงานให้คำปรึกษาและให้ความช่วยเหลือข้าราชการตำรวจที่มีหนี้สิน หากสอบถามบุคคลที่เคยเป็นหัวหน้างาน หรือเพื่อนร่วมงานจะทราบว่า ไม่เคยมีปัญหาเกี่ยวกับงานที่ตนได้รับผิดชอบ

และอีกประเด็นสำคัญ ที่ทำให้ตัดสินใจที่จะไปจากที่นี่ ไม่ใช่เพราะไม่ชอบงานสอบสวน ด้วยเนื้องานสอบสวนเป็นงานที่สนุก มีวันหยุดแบบที่ต้องการ สามารถพกพางานไปทำระหว่างที่เดินทางไปยังสถานที่ต่างๆ ได้ แต่ด้วยระบบงานสอบสวนที่นี่ ข้าฯอยู่ที่นี่มา 2 ปี ไม่รู้สึกถึงความสามัคคี ความร่วมมือร่วมใจของงานสอบสวน แทบจะไม่ได้สัมผัสถึงความอบอุ่นในที่ทำงาน เริ่มไม่มีความสุขกับที่นี่ และคิดว่าที่ไหนที่อยู่แล้วไม่มีความสุขก็ควรจะพาตัวออกจากจุดนั้น

เชื่อว่าไม่มีใครอยู่ที่เดิมได้ตลอดเวลา ถ้าต้องการสิ่งที่ดีกว่า ด้วยเหตุและผลดังกล่าว จึงไม่สามารถที่จะปฏิบัติหน้าที่ในตำแหน่ง รอง.สว.(สอบสวน) สภ.เมืองเพชรบูรณ์ และ ในตำแหน่งคณะทำงานให้คำปรึกษาและให้การช่วยเหลือข้าราชการตำรวจที่มีปัญหาหนี้สินของสหกรณ์ออมทรัพย์

ล่าสุดพล.ต.ต.ฐเดช กล่อมเกลี้ยง ผบก.ภ.จว.เพชรบูรณ์ เปิดเผยว่า หลังจากได้รับทราบว่าร.ต.อ.หญิง ที่โพสต์หนังสือใบลาออก ตนในฐานะผู้บังคับบัญชาได้เชิญตัวมาพบพูดคุยกันแล้ว ซึ่งร.ต.อ.หญิงคนดังกล่าวเป็นคนที่มีความรู้ความสามารถมากมีคุณวุฒิจบเนติบัณฑิตไทย ลักษณะมีความเชื่อมั่นในตัวเองสูง เป็นคนขยันมีความตั้งใจ ในการทำงานสูงให้การดูแลพี่น้องประชาชนอย่างดี ถ้าปล่อยให้ลาออกก็เป็นที่น่าเสียดายมาก เพราะสำนักงานตำรวจแห่งชาติจะเสียบุคลากรที่ดีมีคุณค่าแบบนี้ หลังได้พูดคุยและปรับความเข้าใจกันถึงสาเหตุต่างๆ ที่ทำให้คิดลาออก จนตอนนี้เข้าใจกันแล้วและตัดสินที่จะอยู่กับสำนักงานตำรวจแห่งชาติต่อ จึงยุติการลาออก

นอกจากนั้นยังได้พูดคุยต่ออีกว่าทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติต้องการและส่งเสริมคนที่มีความรู้ความสามารถอีกทั้งยังมีอายุราชการถึง 30 ปี ซึ่งตนก็รู้สึกดีใจเป็นอย่างมากที่สามารถรักษาบุคลากรที่มีความสามารถให้อยู่กับสำนักงานตำรวจแห่งชาติต่อไปได้อีก

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน