ยอมใจ! ตาพายายใส่รถเข็น เดินเท้า 20 กม. เยี่ยมหลาน 7 ขวบป่วยเข้า รพ. อาศัยนอนป่าช้า เก็บของเก่าขาย ไม่งอมืองอเท้า บอกชีวิตใครชีวิตมัน ต้องดิ้นรนเอาเอง

เมื่อเวลา 13.30 น. วันที่ 11 พ.ค.2566 นางพัณณ์ชิตา มาลัย เจ้าของร้านส้มคำนางรวย จ.อุบลราชธานี เปิดเผยกับ ข่าวสดออนไลน์ หลังจากที่ได้ช่วยเหลือ 2ตายายเข็นรถเข็นเดินเท้า 20 กม. เพื่อไปเยี่ยมหลาน 7 ขวบที่กำลังป่วยนอนรักษาตัวอยู่ในรพ. จนมีผู้คนเข้ามาให้กำลังใจเป็นจำนวนมากในโซเชียล

นางพัณณ์ชิตา กล่าวว่า ตนเป็นแม่ค้าขายส้มตำ วันนั้นกำลังขายส้มตำตามปกติ คุณตาจะมาซื้อส้มตำ พร้อมกับเข็นคุณยายมาด้วย ตนจึงบอกให้มารอในร้านก่อนเพราะอากาศร้อน แต่คุณตาก็ไม่ได้ขึ้นมา ส่วนคุณยายก็ไม่ได้ลุกไปไหนนั่งอยู่กับที่บนรถเข็น จนมาทราบภายหลังว่าคุณยายเดินไม่ได้ เนื่องจากขาอ่อนแรง ตนจึงถามต่อว่า คุณตามาจากไหน คุณตาก็ตอบกลับมาว่า เดินเท้ามาจาก ม.อุบลราชธานี ตอนนั้นตนตกใจมาก เนื่องจากระยะทางประมาณ 15-20 กม. ไม่น่าเชื่อว่าจะมีใครเดินเท้ามาได้

ตนเองจึงถามต่อว่า ทำไมถึงเดินเท้ามาไกลขนาดนี้ คุณตาจึงตอบว่า มาเยี่ยมหลาน หลานเข้ารพ. ส่วนรถคุณตาก็ขายไปแล้ว เพราะต้องการนำมาให้ลูกสาวจ่ายค่ารักษาหลาน ซึ่งหลานของคุณตาอายุประมาณ 7-8 ปี ป่วยเป็นโรคหอบ บางครั้งก็มีอาการชักเกร็ง หลังจากทราบแบบนั้นแล้ว จนจึงบอกคุณตาไปว่า ระหว่างที่มาเยี่ยมหลาน ถ้าต้องการอะไรก็มาหาตนเองที่ร้านได้

แต่คุณตาก็ปฏิเสธเสียงแข็งบอกไม่เอาๆของซื้อของขาย ซึ่งก็ทำให้ตนเองประทับใจมาก เพราะรู้สึกว่าตนเองลำบาก แต่พอมาเห็นคุณตา เลยทำให้รู้สึกว่า ขนาดคนที่ลำบากกว่าเรายังสู้ และไม่งอมืองอเท้าขอใครเลย ตนเองยอมใจคุณตาจริงๆ ต่อมาตนเองก็มาทราบอีกว่าคุณตาและคุณยาย ทำอาชีพเก็บของเก่าขาย และระหว่างมาเยี่ยมหลาน ก็พักอาศัยอาศัยอยู่ในป่าช้า พร้อมบอกด้วยว่า บริเวณดังกล่าวมีขวด และกระดาษเยอะ หากกลับไปบ้านก็ไม่มีของให้เก็บไปขาย และจะไม่มีเงินซื้อข้าวกิน








Advertisement

ตนจึงถามไปว่า แล้วญาติไปไหนหมด ทำไมไม่มีใครมาช่วยเหลือ แต่คำตอบของคุณตาก็ทำเอาอึ้ง เพราะคุณตาบอกว่า ทุกคนมีชีวิตของตัวเอง ชีวิตใคร ครอบครัวใครก็ต้องดิ้นรนต่อสู้กันไป สุดท้ายตนเองก็บอกคุณตาว่า ก่อนกลับให้แวะมาหาที่ร้านด้วย เนื่องจากอยากให้ของใช้ที่ไม่ค่อยได้ใช้ คุณตาก็ปฏิเสธบอกไม่เอาๆ แต่ตนเองก็ตื๊อจนสุดท้ายคุณตาก็ยอม พร้อมบอกว่า จริงๆที่ตนช่วย ไม่ได้หวังว่าจะมีคนเข้ามาดูเยอะขนาดนี้ ตอนนั้นคิดเพียงว่า ช่วยได้แค่ไหนก็ช่วย

“สำหรับใครที่ท้อกับชีวิต อยากให้ดูคุณตาเป็นตัวอย่าง ถึงแม้ต้นทุนชีวิตคนเราจะไม่เท่ากัน แต่เขาก็ไม่ท้อ สู้และดิ้นรนเพื่อครอบครัวตัวเอง” นางพัณณ์ชิตา กล่าวทิ้งท้าย

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน