คำผกา ชี้ข้อดี 8 พรรคประชุมร่วม ตั้งโฆษกแถลง แก้ปัญหาคนปั่น สะท้อนปมที่มา นักการเมืองถือหุ้นสื่อ แนะประชาชนปรับ Mindset ก่อนร่างรัฐธรรมนูญใหม่

วันที่ 30 พ.ค.2566 รายการ ข่าวจบ คนไม่จบ EP93 เผยแพร่ทาง ข่าวสดออนไลน์ ดำเนินรายการโดย อั๋น ภูวนาท คุนผลิน และ แขก ลักขณา ปันวิชัย หรือ คำผกา แสดงความคิดเห็นประเด็น จัดตั้งรัฐบาลคืบไปอีกขั้น พรรคร่วมตั้งคณะทำงาน หาทางออกร่วมกัน

คำผกา แสดงความคิดเห็นว่า หลังจากเซ็นเอ็มโอยู มีคนไปปั่นดีลขึ้นมาว่า พรรคเพื่อไทย จะผลักพรรคก้าวไกล ไปเป็นฝ่ายค้าน วันนี้ (30 พ.ค.) จึงมีประชุมร่วม 8 พรรคการเมืองที่ลงนามเอ็มโอยู จัดตั้งรัฐบาล ใช้เวลาหารือ 1 ชั่วโมง 45 นาที จากนั้น 8 พรรคร่วมออกมาแถลงข่าว โดย นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล แถลงว่ามีการตั้งคณะกรรมการประสานงานในช่วงเปลี่ยนผ่าน โดยเราเคยเเนะนำว่าให้มีโฆษกขึ้นมาแถลงข่าว ไม่ใช่ปล่อยให้ใครมาปั่นได้

คำผกา แสดงความเห็นอีกว่า ในอนาคตถ้าเราได้แก้ไขรัฐธรรมนูญ ประเด็นนี้เราควรเอามาถกเถียงกันเยอะมาก แนวคิดการออกแบบ รธน.2540 ข้อดีคือทำให้พรรคการเมืองเติบโต และมีความสามารถที่จะทำตามนโยบายของตัวเองที่สัญญาไว้กับประชาชน และทำให้ประชาชนเลือกพรรคการเมืองจากนโยบาย ทำให้พรรคเล็กหายไป

แต่ว่าสิ่งหนึ่งที่มากับ รธน.40 คือไอเดียที่มากับธรรมภิบาล ซึ่ง ณ บริบทของเวลานั้น เขาวิเคราะห์กันว่าปัญหาของการเมืองเกิดจากนักการเมืองไม่ซื่อสัตย์ ทำให้ประชาชนเบื่อหน่าย จนทำให้ทหารออกมาทำรัฐประหาร เป็นวงจรอุบาทว์ที่ไม่มีที่สิ้นสุด ถ้าอยากแก้ไขวงจรนี้ ต้องตีกรอบให้นักการเมืองประพฤติดีปฏิบัติดี เลยมีครูฝ่ายปกครองเยอะมาก ที่ขึ้นมาขนาบให้นักการเมืองไม่สามารถขยับซ้ายขวาได้มากนัก ตั้งแต่การแต่งตั้ง กกต.ขึ้นมาว่ามีใครซื้อเสียงในการเลือกตั้ง มีการตั้ง ป.ป.ช. ด้วยความคิดที่หวังดีไม่ให้มีการรัฐประหาร เลยออกมาเป็นกฎหมายที่เป็นอยู่ทุกวันนี้

คำผกา ชี้ว่า ส่วนเรื่องการถือหุ้นสื่อ เกิดจากแนวคิดที่บูชาความเป็นกลาง ที่คิดว่าสิ่งใดที่เป็นกลางไม่มีอคติเป็นสิ่งที่ดีที่สุด สื่อที่ดีต้องไม่มีอคติ และนำเสนอข่าว 2 ด้าน มีข่าวเสื้อเหลือง ต้องมีข่าวเสื้อแดงด้วย ทำให้สื่อเป็นแค่แมสเซนเจอร์ ไม่ต้องมีความคิดเห็น ถ้ามีความคิดเห็นแล้วจะมีอคติ มีคำพูดเอาคนนั้นคนนี้มานำเสนอ แล้วบอกว่าเป็นกลาง เพราะเปิดพื้นที่ให้กับทุกฝ่าย เราเป็นบ้าเป็นหลังกับความเป็นกลาง เราจึงเชื่อว่า ห้ามมีผลประโยชน์ทับซ้อนในแง่ของนักการเมืองห้ามเป็นเจ้าของสื่อ แต่นั้นเป็นเพียงหน้าฉาก ซึ่งหลังฉากยังเป็นแบบเดิมอยู่ กับทุกเรื่องก็เป็นแบบนี้

ต้นทางของความพิเรนทร์ทางการเมืองมาจากความหลงผิดจากวาทกรรม ธรรมาภิบาล ทุกอย่างต้องเป็นคนดี สื่อต้องเป็นกลาง นักการเมืองไม่ควรเป็นเจ้าของสื่อ มันมาจากความดัดจริตของพวกเราด้วย ซึ่งเราต้องเปลี่ยนความคิดด้วยว่า ไม่เอาแล้ววิธีคิดคนดีแบบนี้ แต่เราต้องการเห็นแล้วว่า นักการเมืองอยากเป็นเจ้าของสื่อเป็นเลย แล้วเราจะดูว่าสื่อนี้กล้าด่าเจ้าของเงินหรือไม่ เอามากองบนโต๊ะให้เห็นๆไปเลย

“ในอนาคตข้างหน้า ประชาชนพร้อมปรับ Mindset ของเราหรือยัง ว่าเวลากองทัพจะทำรัฐประหาร เขาก็ทำโดยไม่เกี่ยวกับนักการเมืองจะคอรัปชั่นหรือไม่ ทฤษฎีวงจรอุบาทว์โกหกทั้งเพ การรัฐประหารไม่ได้ทำเพราะนักการเมืองคอรัปชั่น แต่ต้องการตัดตอนอำนาจของประชาชน หรือ ไม่มีความสุขที่เห็นนายกรัฐมนตรีที่มาจากการเลือกตั้ง ได้รับความนิยมอย่างมากในหมู่ประชาชน ทำให้ทนดูไม่ได้” คำผกา ทิ้งท้าย

ด้าน อั๋น แสดงความเห็นว่า การที่พรรคที่จับมือตั้งรัฐบาลประกาศตั้งคณะทำงานขึ้นมา เพราะคิดว่าเขาไม่รอแล้ว เลยทำงานเเล้วกัน และหากมีข้อโต้แย้งเกิดขึ้น ก็จะได้พบปะพูดคุยหารือกันในคณะ จะได้ไม่มีใครไปปล่อยข่าวลือในโลกออนไลน์

ส่วนเรื่องหุ้นไอทีวี ของนายพิธา นั้น ทุกวันนี้ไอทีวี อยู่ไหน ครั้งสุดท้ายที่เขาเคยสื่อสารกับประชาชนคืออะไร และเมื่อไหร่ ซึ่งอยู่ที่ว่าจะตีความอย่างไร แต่พูดตรงๆว่า การพิจารณาโดยมุ่งเน้นไปที่คุณสมบัติตัวบุคคลว่าคนๆนี้มีคุณสมบัติที่จะเป็นนายกรัฐมนตรีหรือไม่ ตามกฎหใายที่เราคุยกันอยู่นี้ ไม่มีประโยชน์ใดๆกับประเทศชาติเลย ไม่เห็นประโยชน์อะไรกับประเทศชาติเลย

 

 

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน