ชายจีนขุดเจอโถนกในทุ่ง หยิบมาใช้เป็นชามข้าวไก่ ช็อกที่แท้คือ โบราณวัตถุล้ำค่า

ย้อนประวัติศาสตร์! ชายจีนขุดเจอโถนกในทุ่ง รูปลักษณ์แปลกประหลาด หยิบกลับมาใช้เป็นชามข้าวไก่ ช็อกที่แท้คือ โบราณวัตถุล้ำค่าจากยุคหินใหม่

สำนักข่าวต่างประเทศรายงาน การค้นพบสุดหายากที่เกิดขึ้นในหมู่บ้านเล็ก ๆ ในเขตไท่ผิงจวง มณฑลส่านซี ประเทศจีน ชายชราคนหนึ่งหยิบเครื่องปั้นดินเผาในทุ่งนากลับบ้านเพื่อนำมาอาหารให้ไก่ แต่ใครจะคาดคิดว่า ถ้วยไก่จะกลายเป็นสมบัติล้ำค่า

เรื่องราวดังกล่าวย้อนไปในปี ค.ศ. 1957 ชาวนาชื่อ อินซืออี้กำลังทำงานอยู่ในทุ่งนา ก่อนจะค้นพบบางสิ่งในพื้นดินที่มีรูปลักษณ์แปลกประหลาด หลังจากล้างโคลนออกแล้วก็พบว่ามันคือโถนกเครื่องปั้นดินเผา

ทางอินซืออี้คิดว่านี่เป็นเพียงถ้วยเซรามิกธรรมดา ชายชราจึงนำมันกลับบ้านเพื่อใช้งานเป็นชามอาหารสำหรับไก่ที่เลี้ยงในสวนของเขา อย่างไรก็ตาม ต้นกำเนิดที่แท้จริงของโถเครื่องปั้นดินเผารูปนกนั้นไม่ได้เล็กน้อยอย่างที่ชายชราคิด แต่เป็นมรดกตกทอดทางวัฒนธรรมชั้นหนึ่ง

หนึ่งปีหลังจากเก็บโถเครื่องปั้นดินเผา ทีมนักโบราณคดีได้ค้นพบแหล่งวัฒนธรรมหยางเชาในหมู่บ้านฉวนหูที่อยู่ใกล้เคียง เมื่อทราบข่าวว่ามีทีมนักโบราณคดีมาทำการขุดค้นหาโบราณวัตถุทำให้ชายชรานึกถึงโถที่เขาเจอเมื่อ 1 ปีก่อน

หลังจากนั้น ชายคนดังกล่าวตัดสินใจไปที่หมู่บ้านฉวนหูเพื่อขอให้ผู้เชี่ยวชาญตรวจสอบโถนก อินซืออี้เล่าขั้นตอนการหยิบและใช้งานเครื่องปั้นดินเผาดังกล่าวทั้งหมดกับนักโบราณคดี หลังจากตรวจสอบอย่างรอบคอบแล้ว นักโบราณคดีระบุว่านี่คือโบราณวัตถุเรียกว่า เถาอิงติง (陶鹰鼎) เป็นเครื่องปั้นดินเผาจากยุคหินใหม่

โดยโถมีความยาว 35.8 เซนติเมตร เส้นผ่านศูนย์กลาง 23.3 เซนติเมตร มีลักษณะคล้ายนกอินทรี จงอยปากแหลมโค้งไปด้านหน้า ตากลมโต ที่ด้านหลังของโถทำเป็นช่องสำหรับเก็บของ หางและกรงเล็บถูกใช้เป็นขาตั้งขนานกับพื้นจึงสามารถวางตั้งได้อย่างมั่นคง ไม่โยกเยก

การออกแบบที่ละเอียดอ่อนและการประดิษฐ์ที่พิถีพิถันแสดงให้เห็นถึงพัฒนาการอันน่าทึ่งของเครื่องปั้นดินเผาในสมัยโบราณ นักโบราณคดีกล่าวว่าในยุคหินใหม่ ผู้คนมักจะใช้รูปสัตว์เพื่อทำเครื่องปั้นดินเผาประเภทต่าง ๆ และโถเซรามิกรูปนกอินทรีนี้เป็นของดั้งเดิมที่ได้รับการเก็บรักษาไว้ตั้งแต่สมัยนั้นมาจนถึงปัจจุบัน

หลังจากรู้ว่าโถเป็นสมบัติล้ำค่า ชายชรารู้สึกประหลาดใจและส่งโถนกกลับไปที่ทีมโบราณคดีทันที ด้วยเหตุนี้ โบราณวัตถุชิ้นนี้จึงเป็นที่รู้จักของผู้คนจำนวนมาก และปัจจุบันได้ถูกจัดเก็บและคุ้มครองไว้ในพิพิธภัณฑ์แห่งชาติจีน

ขอบคุณที่มาจาก Saostar