หญิงสาวอเมริกันเชื้อสายญี่ปุ่น ออกตามหาพ่อ หลังไม่เคยเจอตลอด 20 ปี คิดว่าอีกฝ่ายทิ้งครอบครัวมาตลอด สุดท้ายรู้ความจริง คนใกล้ตัวกีดกัน

เว็บไซต์ ctwant ได้รายงานเรื่องราวของเด็กสาวญี่ปุ่นคนหนึ่ง ที่ตัดสินใจออกตามหาพ่อแท้ ๆ หลังจากถูกทิ้งให้อยู่กับแม่และน้องชายตามลำพังมาตั้งแต่เด็ก ๆ

เธอชื่อว่า ฟุกะ เป็นหญิงสาวอเมริกันเชื้อสายญี่ปุ่น อายุ 24 ปี เธออาศัยอยู่ในสหรัฐอเมริกาเป็นเวลา 20 ปี กับแม่และน้องชาย เธอคิดเสมอว่าพ่อผู้ให้กำเนิดทิ้งครอบครัวไป

ภาพประกอบ

ตั้งแต่อายุได้เพียงแค่ 4 ขวบ ฟุกะก็ต้องย้ายถิ่นฐานไปยังสหรัฐอเมริกา เธอใช้ชีวิตอย่างไม่มีความสุขนัก เพราะแม่เป็นคนเข้มงวดและอารมณ์รุนแรง

ฟุกะเป็นเด็กขี้สงสัย เธอเคยขโมยเครื่องสำอางของแม่ จึงถูกทำโทษมัดไว้กับเก้าอี้และโดนโกนผมออก โชคดีที่ฟุกะได้ทุนการศึกษาเต็มจำนวน เธอจึงได้ใช้ชีวิตและเล่าเรียนจนจบ

ฟุกะและคุณย่า

หลังจากเรียนจบ ฟูกะพบว่าเธอยังถือสัญชาติญี่ปุ่นอยู่ ดังนั้นจึงตัดสินใจกลับไปที่เมืองเมียวโกะ จังหวัดนีงะตะ เพื่อไปเยี่ยมคุณย่าวัย 84 ปีที่ดูแลกิจการวัดเพียงลำพัง ในช่วงเวลานี้ ฟุกะ ยังพบรูปถ่ายของครอบครัวสามคนเมื่อตอนเด็ก และเธอก็มีความคิดที่จะตามหาพ่อผู้ให้กำเนิด

เธอโพสต์เรื่องราวของตัวเองและด้วยความช่วยเหลือของชาวเน็ต ฟุกะ ก็ได้ติดต่อกับพ่อผู้ให้กำเนิดในไม่กี่เดือนหลังจากกลับมาที่สหรัฐอเมริกา

เมื่อได้พบกัน พ่อก็ได้เปิดเผยความจริงเกี่ยวกับการละทิ้งครอบครัวของเขา พ่อบอกว่าแม่ของ ฟุกะ เป็นสมาชิกของตระกูลวัดที่สืบทอดกันมานานหลายร้อยปี ในฐานะลูกเขยเขาจำเป็นต้องเดินทางไกลเพื่อไปสอบใบรับรองพระ

เมื่อเขากลับมาหลังจากฝึกเสร็จ เขาก็เพิ่งรู้ว่าภรรยาพาลูก ๆ ไปยังสหรัฐอเมริกา แถมยังโดนขอหย่า หลังจากอีกฝ่ายกลับมาต่อวีซ่า เดิมทีตกลงกันว่าลูก ๆ จะต้องอยู่ญี่ปุ่น แต่แม่ของฟุกะกลับละเมิดข้อตกลงและแอบพาลูก ๆ กลับไปสหรัฐอเมริกา

พ่อของ ฟุกะ ย้ำว่าทุกอย่างมีสองด้าน และคำพูดของแม่อาจแตกต่างไปจากเขา แต่ในช่วง 2 ปีแรกของอุบัติเหตุ เขาฝันเห็นลูกๆ กลับมาหาเกือบทุกคืน และเขาไม่เคยลืมเด็ก ๆ เลย

เมื่อ ฟุกะ กลับไปญี่ปุ่นเพื่อพบกับบิดาผู้ให้กำเนิดอีกครั้ง เขาก็ได้เห็นน้องชายวัย 2 ขวบครึ่งที่เกิดจากการแต่งงานใหม่ของพ่อ เธอทั้งมีความสุขและเศร้าที่ได้เห็นความรักที่ไม่เคยมี

แต่สุดท้ายทุกคนก็ต้องแยกย้าย พวกเขาแยกทางกันที่สนามบิน พ่อกอดเธอทั้งน้ำตาและบอกว่าเขารู้สึกขอบคุณมากที่เธออยู่ในชีวิตของเขา

ที่มา: ctwant

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน