28 ก.ย. ศาลนัดฟังคำพิพากษา คดีฆาตกรรม บิลลี่ พอละจี หลังหายตัวลึกลับ เมื่อ 17 เม.ย.2557 องค์กรโลก ให้ความสนใจ ร่วมฟังไต่สวนใกล้ชิด

วันที่ 31 ส.ค.2566 มูลนิธิผสานวัฒนธรรม รายงานว่า จบไปแล้วกับการสืบพยานครบทั้งหมด 10 นัด ที่ผ่านมาตั้งแต่ 22 เม.ย. จนกระทั่งถึงวันที่ 28, 30-31 ส.ค.2566 เวลา 09.00 น. ณ ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง สืบโจทก์ทั้งสิ้น 22 ปาก และสืบพยานจำเลยทั้ง 4 ปาก ทั้งหมดใช้ระยะเวลารวม 4 เดือนในการไต่สวน พยานที่จำเลยอ้างเพิ่มเติมอีก 3 ปาก

ในวันนัดครั้งสุดท้ายนี้ ทนายจำเลยทั้งสี่แถลงต่อศาลหมดพยานที่จะนำเข้าสืบ ศาลจึงกำหนดนัดฟังคำพิพากษา ในวันที่ 28 กันยายน 2566 เวลา 09.30 น. ณ ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง ห้อง 303

บิลลี่ และ นายชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร อดีตหัวหน้าอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน

คดีนี้ได้รับความสนใจเป็นอย่างมากจากองค์กรระหว่างประเทศ อาทิเช่น สถานทูตอังกฤษและสวีเดน สำนักงานข้าหลวงใหญ่สิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ UNOHCR คณะกรรมการนักนิติศาสตร์สากล (International Commission of Jurists หรือ ICJ)

บิลลี่ พอละจี

ตัวแทนสภาชนเผ่าพื้นเมือง เครือข่ายกะเหรี่ยงเพื่อวัฒนธรรมและสิ่งแวดล้อมเขตแดนตะนาวศรี ตัวแทนคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทรมานและการทำให้บุคคลสูญหาย เจ้าหน้าที่สื่อมวลชนต่างๆ รวมถึงประชาชนที่สนใจ และกลุ่มชาวบ้านบ้านโป่งลึก-บางกลอย ที่เดินทางเข้าร่วมรับฟังอย่างใกล้ชิด








Advertisement

อีกทั้ง น.ส.พิณนภา พฤกษาพรรณ ภรรยบิลลี่ ซึ่งเป็นผู้แทนของโจทก์ร่วมทั้งสองก็ได้ยืนหยัดในเจตจำนงเข้าร่วมติดตามเพื่อทวงความยุติธรรมของคดีในทุกนัดที่ผ่านมานี้อีกเช่นกัน

คดีนี้สืบเนื่องมาจาก เมื่อวันที่ 17 เม.ย. 2557 นายพอละจี รักจงเจริญ หรือ บิลลี่ นักปกป้องสิทธิมนุษยชนกลุ่มชาติพันธุ์กะเหรี่ยง “บางกลอย-ใจแผ่นดิน” ถูกจับกุมและถูกควบคุมตัวไปโดยหัวหน้าอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน จ.เพชรบุรี ในขณะนั้น กับพวก

พิณนภา พฤกษาพรรณ ภรรยาบิลลี่

หลังจากนั้นไม่มีใครทราบชะตากรรมของบิลลี่อีกเลย จนกระทั่งกรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) และอัยการ ได้ร่วมกันติดตามสอบสวนคดีดังกล่าวจนได้พยานหลักฐานเพิ่มเติมอันควรเชื่อได้ว่ากลุ่มเจ้าหน้าที่อุทยาน ฯ ที่จับกุมบิลลี่ไปนั้นได้ร่วมกันกระทำผิดต่อบิลลี่ ในคดีร่วมกันฆาตกรรมอำพรางโดยไตร่ตรองไว้ก่อน

โดยนัดสืบพยาน 3 นัดสุดท้าย เมื่อวันที่ 28, 30-31 สิงหาคม ที่ผ่านมานี้ ทนายจำเลยทั้งสี่ได้นำพยานเข้าสืบในประเด็นดังต่อไปนี้ จำเลยทั้งสี่ให้การอ้างว่า ในวันเกิดเหตุได้ปล่อยตัวบิลลี่ไปแล้วและไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการหายตัวไปของบิลลี่

ภาพสุดท้ายก่อนบิลลี่หายตัวอย่างลึกลับ

ต่อมาเป็นพยานปากของอดีตเจ้าหน้าที่ตำรวจซึ่งเป็นผู้เชี่ยวชาญในประเด็นเรื่องของการพิสูจน์หลักฐานและการตรวจ DNA ต่อมาอดีตรองอธิบดีกรมอุทยานฯ และต่อมาปฏิบัติหน้าที่ปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี สมัยรัฐบาลประยุทธ์ จันทร์โอชา ปัจจุบันเกษียณราชการเบิกความยืนยันเรื่อง การปฎิบัติหน้าที่ยุทธการตะนาวศรีว่ากระทำไปตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด ไม่รู้เรื่องการละเมิดสิทธิมนุษยชนต่อชุมชนกะเหรี่ยงที่เกิดขึ้น และพยานปากสุดท้าย เป็นช่างปูนปั้นยืนยันเรื่องการพบเห็นของจำเลยที่ 1 ที่ไร่ชัยราชพฤกษ์ในวันเกิดเหตุ

หลักฐานที่พบในคดีบิลลี่

มูลนิธิผสานวัฒนธรรม ขอเชิญชวนสื่อมวลชนและผู้สนใจร่วมติดตามอย่างใกล้ชิดและเข้าร่วมฟังคำพิพากษาคดีบิลลี่ ที่ยืดเยื้อมานานเกือบสิบปีตามวันและเวลาที่ระบุไว้ข้างต้น เพื่อให้มั่นใจว่ากระบวนการยุติธรรมจะอำนวยความยุติธรรมให้แก่ครอบครัวของนายบิลลี่ และชุมชนกะเหรี่ยงบางกลอย-ใจแผ่นดินอย่างเต็มที่และเป็นธรรม นำเจ้าหน้าที่ที่กระทำผิดมารับโทษตามกฎหมายอย่างถึงที่สุด ทั้งยุติวัฒนธรรมลอยนวลพ้นผิดได้อย่างเป็นจริง

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน