ไรเดอร์ตัดพ้อ โดนลูกค้าปาน้ำใส่ทั้งแก้ว เปียกทั้งตัว เหตุรอ ออเดอร์นาน เจอโซเชียลจวกยับ พฤติกรรมเช่นนี้เติบโตมาอย่างไร
วลี “ลูกค้าคือพระเจ้า” เป็นอีกวลีที่หลาย ๆ คนคงเคยได้ยิน ซึ่งอาจเป็นแนวคิดเจตนาที่เตือนสติให้ผู้ประกอบการทุกคนใส่ใจในการบริการลูกค้าอย่างดีที่สุด แต่สิ่งหนึ่งที่ผู้ที่โดนเรียกว่า พระเจ้า ควรพึงกระทำคือ การปฏิบัติต่อผู้ให้บริการเหมือนมนุษย์ทั่วไป
กลายเป็นกระแสไวรัลในโลกออนไลน์ที่เกิดการวิพากษ์วิจารณ์สนั่นถึงพฤติกรรมของคนที่เรียกตนเองว่า ลูกค้า เกิดอาการไม่พอใจอย่างรุนแรง เนื่องไรเดอร์มาส่งของช้ากว่าที่คิดจึงกระทำพฤติกรรมที่ไม่น่าเป็นเยี่ยงอย่างต่อสังคม จนไรเดอร์ต้องออกมาเตือนภัยในหมู่ไรเดอร์ด้วยกันเองถึงผลกระทบต่อระบบใหม่และอุทาหรณ์ที่ตนเองเจอ
โดยไรเดอร์ออกมาโพส์ในกลุ่มเฟซุบุ๊ก ระบุว่า “ผลกระทบจากงานแบชแบบใหม่ ตอนแรกก็ไม่อยากจะลงรูปนี้ แต่มันอึดอัดใจ ขออนุญาตลงครับ รบกวนอนุมัติด้วยครับ นี่คือสิ่งที่ผมเจอมา ผมกลายเป็นที่รองรับอารมณ์ลูกค้า เจอลูกค้ารอของไม่พูดไม่จาแล้วปาน้ำทั้งแก้วใส่ผมแล้วขึ้นคอนโดไป (ถ้าเป็นแกงร้อน ๆ ไม่อยากคิดเลย)”
“พี่รปภ.ก็ตกใจพาผมไปล้างตัวที่ห้องน้ำ ผมใจเย็นพอที่จะไม่ตบลูกค้าคนนั้นนะ(เพราะผมไม่ทำร้ายผู้หญิง) ผมไม่ได้ตอบโต้อะไรด้วยระบบงานแบบนี้ ไม่รู้ต่อไปจะมีใครต้องเจอแบบผมอีกไหมนะ สิ่งที่เกิดขึ้น ถ้าเป็นไรเดอร์หัวร้อนจะเกิดอะไรขึ้น เกิดไรเดอร์ตอบโต้และทำร้ายลูกค้า มันไม่เป็นผลดีต่อใครเลย“
ซึ่งเรื่องราวดังกล่าวถูกนำมาแชร์ต่อเรื่อย ๆ ไปจนถึงกลุ่มพวกเราคือผู้บริโภค จึงมีผู้คนเข้ามาคอมเมนต์จวกยับอย่างล้นหลาม “ปาข้าวของใส่คนไม่รู้จักนี่ไม่ได้เป็นกันทุกคนนะคะ โตมายังไงทำไมทำขนาดนี้” , “มารยาทลูกค้ารับของที่ไรเดอร์เจอปาของใส่นี่ ก็แย่นะ” , “ควรแจ้งความนะคะ” , “แจ้งความดำเนินคดีเลยค่ะ ปาน้ำใส่แบบนี้ฟ้องชนะแน่นอน” , “ต้องโตมายังไงถึงปาของใส่คนอื่นแบบนี้ ดีนะเจอคนใจเย็น”
Advertisement
รวมถึงมีไรเดอร์ออกมาขอความเห็นใจจากลูกค้าที่สั่งสินค้า อาหาร และเครื่องดื่มผ่านที่สั่งผ่านแอปพลิเคชันอาจไปถึงลูกค้าช้ากว่าเดิมจึงอยากให้ลูกค้าเข้าใจไรเดอร์ เพราะไรเดอร์เองก็ไม่ได้อยากไปส่งของช้า
