“กบฏเจ้าพระองค์ดำ” วางแผนฆ่าหลาน คิดคดทรยศ หวังเป็นใหญ่ จะลอบปลงพระชนม์ “พระเจ้าท้ายสระ” ชะตากรรมสุดท้ายแสนทรมาน ถูกสั่งสำเร็จโทษด้วยท่อนจันทน์
วันนี้ (1 พ.ย. 66) ดำเนินเข้าสู่เนื้อเรื่องสุดเข้มข้น สำหรับละครเรื่อง พรหมลิขิต ซึ่งในตอนที่ 7 นี้ ก็มีอีกหนึ่งตัวละครที่โดดเด่น น่าจับตามอง และมีตัวตนอยู่จริงในประวัติศาสตร์อย่าง “พระเจ้าองค์ดำ” รับบทโดย เอ พศิน เรืองวุฒิ เป็นพระโอรสของสมเด็จพระเพทราชา (บิ๊ก ศรุต วิจิตรานนท์)
ทั้งยังมีศักดิ์เป็น พระปิตุลา (อา) ของ พระเจ้าท้ายสระ(เจ้าฟ้าเพชร) รับบทโดย เกรท วรินทร ปัญหกาญจน์ และ กรมพระราชวังบวรสถานมงคล(เจ้าฟ้าพร) รับบทโดย อ้วน เด่นคุณ งามเนตร
ภาพประกอบจาก ละคร พรหมลิขิต
ภาพประกอบจาก ละคร พรหมลิขิต
ในละครพรหมลิขิต ตอนที่ 7 นี้ พระเจ้าท้ายสระ รับรู้เรื่องราวเกี่ยวกับการกบฏที่หวังล้มล้างราชบัลลังก์ โดยทรงพูดกับ ‘เจ้าฟ้าพร’ พระอนุชา ว่า “จับตาดูบุคคลผู้หนึ่ง เจ้าพระองค์ดำ มันจะกระทำการคิดคดกบฏชิงบัลลังก์” ซึ่ง ‘เจ้าพระองค์ดำ’ คิดกบฏหวังเป็นใหญ่มาตั้งแต่สมัยพระเจ้าเสือ
‘พระเจ้าท้ายสระ’ พร้อมสหายมหาดเล็กทั้ง 5 คน จึงวางแผนออกอุบายล่อ เพื่อที่จะจับตัวพวกที่เป็นกบฏทั้งหมดมาลงโทษ ด้วยการปลอมตัวออกไปนอกวัง หลังจากนั้นพระองค์ และสหายก็ถูกลอบปลงพระชนม์จริงๆ อย่างที่คิดไว้
ภาพประกอบจาก ละคร พรหมลิขิต
ภาพประกอบจาก ละคร พรหมลิขิต
โดยเรื่องราวดังกล่าวมีการอิงประวัติศาสตร์การคิดคดกบฏของ “พระองค์เจ้าดำ” จริงๆ ข้อมูลจาก ‘ศิลปวัฒนธรรม’ เผย ประวัติศาสตร์กรุงศรีอยุธยา การผลัดแผ่นดินหรือการปราบปราบผู้แข็งข้อ ไม่เชื่อฟัง มักเกิดการนองเลือดเสมอ
ยกตัวอย่างกรณี “พระองค์เจ้าดำ” พระราชโอรส สมเด็จพระเพทราชา ที่ต่อมาถูก “สมเด็จพระเจ้าท้ายสระ” ผู้เป็นหลาน สั่งสำเร็จโทษด้วยท่อนจันทน์ เหตุเพราะทรงประพฤติตนโดยไม่เกรงกลัวพระราชอาชญา
ตามที่ พระราชพงศาวดาร ฉบับสมเด็จพระพนรัตน์ วัดพระเชตุพน บันทึกไว้ว่า
“ขณะนั้นพระองค์จ้าวกอประด้วยทิฐิมาณะ กระทำการหยาบช้า กระด้างกระเดื่อง ลลาบลล้าวเข้าไปในพระราชถานตำแหน่งที่ห้ามเปนหลายครั้งมิได้เกรงกลัวพระราชอาชญา
จึ่งสมเดจ์พระเจ้าอยู่หัวก็มีพระราชดำหรัสปฤกษาด้วยสมเดจ์พระอนุชาธิราช กรมพระราชวังบวร ตรัสเหนว่าโทษพระองค์จ้าวดำนั้นผิดเปนมหันตโทษ จึ่งให้จับพระองค์จ้าวดำพันทนาไว้ แล้วให้เอาไปสำเหรจ์โทษเสียด้วยท่อนจันทณ์ เอาพระศภไปฝังเสีย ณะ วัดโคกพญา
แลพระองค์จ้าวแก้วซึ่งเปนบริจาพระองค์จ้าวดำนั้นเปนม่ายอยู่ จึ่งเสดจ์ไปทรงผนวดเปนพระรูปอยู่ ณะ พระตำหนัดวัดดุสิต กับด้วยสมเดจ์พระไอยกีกรมพระเทพามาศนั้น”
แม้ในพระราชพงศาวดารจะไม่ได้เอ่ยถึงบทบาทของ ‘พระองค์เจ้าดำ’ มากไปกว่านี้ และพระองค์เองก็ไม่น่าจะสั่งสมกำลังเพื่อแข่งกับ ‘สมเด็จพระเจ้าท้ายสระ’ แต่การฝ่าฝืนกฎในพระราชวังหลวง ก็น่าจะทำให้สมเด็จพระเจ้าท้ายสระผู้เป็นหลานขัดเคืองพระราชหฤทัยอยู่ไม่น้อย
พระองค์เจ้าดำจึงถูกประหารในที่สุด
ที่มา : ศิลปวัฒนธรรม
