คู่รัก หนีทัวร์เกาหลี โผล่แล้ว ประสานบริษัทเตรียมเดินทางกลับประเทศไทยสัปดาห์หน้า เผยสาเหตุหนี ด้าน หัวหน้าทัวร์ เผย ไม่เชื่อใจคำรับปาก
เมื่อเวลา 10.15 น. วันที่ 17 พ.ย.2566 ที่บริษัทแฮปปี้ทูเก็ตเทอร์ น.ส.มินตรา อัครสินจิรกิต หัวหน้าทัวร์ และ นายณัฏฐ์ฌานันท์ นิ่มศิริ หัวหน้าทัวร์ ชี้แจงความคืบหน้ากรณีสองสามีภรรยาชาวไทย หนีทัวร์ขณะไปเที่ยวประเทศเกาหลีใต้ ก่อนนำเรื่องราวไปโพสต์บนเฟซบุ๊กจนเป็นที่วิจารณ์ในโลกออนไลน์
คู่รัก หนีทัวร์เกาหลี โผล่แล้ว ประสานบริษัทเตรียมเดินทางกลับประเทศไทยสัปดาห์หน้า เผยสาเหตุหนี
น.ส.มินตรา กล่าวว่า หลังเกิดเรื่อง นายบอม กับ น.ส.แอม คู่สามีภรรยาได้ติดต่อกลับมาช่วงเย็นของวันที่ 16 พ.ย.ที่ผ่านมา ว่าจะกลับไทย จึงประสานบริษัทเพื่อเตรียมตั๋วเครื่องบิน คาดว่าจะกลับรอบวันที่ 23 พ.ย.นี้ โดยทั้งคู่จะออกค่าใช้จ่ายเอง ซึ่งนายบอมลูกทัวร์ผู้ชายที่หายไป บอกตนว่าไม่ได้คิดว่าจะกระทบกับบริษัททัวร์ขนาดนี้ เพราะเข้าใจผิดคิดว่าตนไม่ได้รับรองบุคคลที่เข้าประเทศ จึงได้ขอโทษกับสิ่งที่ทำลงไป
น.ส.มินตรา กล่าวต่อว่า ส่วนเหตุที่เขาหนีทัวร์ไปนั้น จากการสอบถามแล้วทราบว่า พวกเขาอยากอยู่เที่ยวต่อ ตนก็ชี้แจงเหตุผลว่าหากตนรับรองการเข้าประเทศแล้วพวกเขาหลบหนีไป ตนจะกลับมาทำงานที่เกาหลีไม่ได้อีก
- อ่านข่าว : คู่รัก เที่ยวเกาหลีหนีทัวร์ ไกด์วอนกลับ บริษัทจะโดนแบล็คลิสต์ห้ามเข้าประเทศ 10 ปี
- อ่านข่าว : แม่ไม่เชื่อ ลูกสาว-แฟนหนุ่ม หนีทัวร์เกาหลี เผยนิสัยติดต่อยาก คนไม่เข้าใจเลยคิดว่าหนี
น.ส.มินตรา กล่าวอีกว่า คณะทัวร์ตนเดินทางกันไป 18 คน ทุกคนผ่านด่าน ตม.แล้ว เหลือเพียงนายบอมจึงจำเป็นต้องทำเอกสารรับรองเพื่อพาเข้าประเทศได้ เพราะหากล่าช้า ไม่สามารถนำเที่ยวตามโปรแกรมได้บริษัทก็จะถูกฟ้องร้อง ยอมรับว่าตนไม่เชื่อใจคำรับปากว่าจะเป็นการไปเที่ยวเท่านั้น แต่ได้ตรวจสอบเอกสารแล้ว หากจะเป็นของปลอมก็คงตรวจสอบได้ยาก
Advertisement
น.ส.มินตรา กล่าวว่า อย่างไรก็ตาม เมื่อวันที่ 16 พ.ย.ที่ผ่านมา ได้คุยกับพ่อแม่ของนายบอม แจ้งว่าจะช่วยติดต่อให้กลับพร้อมขอโทษมายังบริษัท ยอมรับว่าตนไม่อยากดำเนินคดี หากกลับมาตามกำหนดจริงก็จะไม่เอาความ ทั้งนี้ ที่ผ่านมามีลูกทัวร์ที่อยากจะเที่ยวต่อก็ไม่กลับพร้อมทัวร์ บางรายไปทำศัลยกรรม หรือประชุม และซื้อตั๋วกลับไว้แล้ว แต่ต้องแจ้งกับบริษัทล่วงหน้า
น.ส.มินตรา กล่าวด้วยว่า ฝากไปยังบุคคลที่จะไปเที่ยวเกาหลีว่า การพิจารณาของ ตม.จะมีความเข้มงวด ต้องใช้เอกสารการจองต่าง ๆ ให้พร้อม หากใครจะไปทำงาน ก็ขอให้เข้าระบบอย่างถูกต้อง ไม่เช่นนั้นคงไม่ได้รับสวัสดิการต่าง ๆ หากถูกเจ้านายโกงค่าแรงก็จะไม่ได้รับความเป็นธรรมหรือถูกทำร้ายร่างกายได้
ด้าน นายณัฏฐ์ฌานันท์ กล่าวว่า ปกติบริษัททัวร์จะไม่เซ็นรับรองลูกค้า จากนี้คงต้องทบทวนมาตรการให้เข้มงวดขึ้น เพราะจะส่งผลกระทบกับกลุ่มไกด์ได้ ส่วนการคืนกุญแจห้องพักโรงแรม แม้จะมาเป็นกลุ่มทัวร์แต่โดยมาก โรงแรมจะไม่ห้ามผู้เข้าพักเช็กเอาต์ตอนกลางดึก คงต้องขอความร่วมมือหากลูกค้าคืนคีย์การ์ดจะต้องแจ้งกับไกด์ เพื่อเป็นการป้องกันเหตุเช่นนี้
นายณัฏฐ์ฌานันท์ กล่าวต่อว่า ซึ่งกรณีคู่สามีภรรยาได้ตรวจสอบพบว่าคืนบัตรแล้วตอนเวลา 01.00 น.ของวันที่หายไป และไม่ได้ใช้เตียงห้องพักเลย อย่างไรก็ตาม เหตุการณ์ครั้งนี้คาดว่าอาจไม่ส่งผลต่อนักท่องเที่ยวชาวไทยที่จะไปเที่ยวเกาหลี หากไปเป็นครอบครัวหรือมีเพื่อนไปด้วย ก็มีโอกาสผ่านด่าน ตม.ได้สะดวกกว่าไปเพียงคนเดียว
