สะเทือนวงการ คริปโต มะกันปรับ ไบแนนซ์ 1.5 แสนล้าน ซีอีโอ ประกาศลาออกจากตำแหน่ง รับผิดล้มเหลวสกัดฟอกเงิน ด้าน กระทรวงยุติธรรมสหรัฐ เผยรายละเอียด
นายจ้าว ฉางเผิง ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร หรือ ซีอีโอ บริษัทไบแนนซ์ สารภาพว่า ได้กระทำผิดในข้อหาเกี่ยวกับการฟอกเงิน และประกาศลาออกจากตำแหน่งแล้ว โดย นายจ้าว โพสต์บน X ว่า “ผมทำผิดพลาด และผมต้องรับผิดชอบ มันเป็นสิ่งที่ดีที่สุดสำหรับชุมชนของเรา สำหรับไบแนนซ์ และสำหรับตัวผมเอง”
นายจ้าว รับด้วยว่า มันไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะปล่อยวางในทางอารมณ์ ขณะที่ไบแนนซ์ได้ประกาศตั้ง ริชาร์ด เถิง หัวหน้าฝ่ายการตลาดระดับภูมิภาคของบริษัทเป็นซีอีโอคนใหม่
การลาออกของนายจ้าวเกิดขึ้นหลังจากกระทรวงยุติธรรมสหรัฐประกาศว่า ได้เรียกค่าปรับและริบทรัพย์ ไบแนนซ์ ซึ่งเป็นบริษัทแลกเปลี่ยนคริปโตเคอร์เรนซีรายใหญ่ที่สุดในโลก เป็นมูลค่ารวม 4.3 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 151,360 ล้านบาท
กระทรวงยุติธรรมสหรัฐระบุว่า ไบแนนซ์ได้ช่วยให้ผู้ใช้งานหลีกเลี่ยงมาตรการคว่ำบาตรทั่วโลก โดยมีการทำธุรกรรมมูลค่าเกือบ 900 ล้านดอลลาร์ ระหว่างผู้ใช้งานในสหรัฐและอิหร่าน นอกจากนี้ ยังมีการอำนวยความสะดวกในการทำธุรกรรมหลายล้านดอลลาร์ระหว่างผู้ใช้งานในสหรัฐและซีเรีย รวมถึงในดินแดนของยูเครนทั้งไครเมีย โดเนตสค์ และลูฮันสค์ ที่ถูกรัสเซียยึดครอง
“การแลกเปลี่ยนดังกล่าวทำให้เป็นเรื่องง่ายสำหรับอาชญากรและกลุ่มก่อการร้ายที่จะเคลื่อนย้ายเงิน” กระทรวงยุติธรรมสหรัฐ ระบุ
พร้อมกันนี้ได้มีการให้รายละเอียดว่า ระหว่างเดือนสิงหาคม 2017 ถึงเมษายน 2022 มีการโอนเงินโดยตรงประมาณ 106 ล้านดอลลาร์ในบิทคอยน์ไปยัง Binance.com จาก Hydra ซึ่งเป็นตลาดมืดที่ได้รับความนิยมจากอาชญากรในรัสเซีย เพื่ออำนวยความสะดวกในการค้าขายสินค้าและที่ผิดกฎหมาย
กระทรวงยุติธรรมสหรัฐระบุด้วยว่า จากนี้ไปไบแนนซ์จะต้องทำการรายงานธุรกรรมที่ต้องสงสัยให้ทางการรับทราบ เพื่อจะทำให้การสืบสวนคดีเกี่ยวกับกิจกรรมไซเบอร์ที่เป็นอันตราย รวมถึงการระดมทุนจากการก่อการร้าย และการใช้การแลกเปลี่ยนสกุลเงินดิจิทัลเพื่อสนับสนุนกลุ่มต่าง ๆ เช่น ฮามาส มีความก้าวหน้ามากยิ่งขึ้น
ทั้งนี้ นายจ้าวรับสารภาพว่า ทำความผิดทางอาญาในข้อหาเกี่ยวข้องกับความล้มเหลวในการป้องกันการฟอกเงินบนแพลตฟอร์มของตนเอง ขณะที่บริษัทไบแนนซ์ยอมรับว่าได้มีการละเมิดพระราชบัญญัติความลับของธนาคารและการคว่ำบาตรอย่างชัดเจน รวมถึงล้มเหลวในการรายงานธุรกรรมที่ต้องสงสัยด้วย
เมอร์ริก การ์แลนด์ อัยการสูงสุดของสหรัฐเรียกข้อตกลงนี้ว่า เป็นหนึ่งในบทลงโทษองค์กรที่ถือว่ามีมูลค่ามากที่สุดในประวัติศาสตร์ของสหรัฐ พร้อมทั้งระบุว่า การใช้เทคโนโลยีสมัยใหม่เพื่อฝ่าฝืนกฎหมายไม่ได้ทำให้คุณเป็นผู้สร้างความเปลี่ยนแปลงอย่างยิ่งใหญ่ให้กับอุตสาหกรรม แต่ทำให้คุณเป็นอาชญากร
ที่มา : มติชน