สาวจีนแนบหูฟังห้องข้างๆ เป็นชั่วโมง บอกเป็นงานอดิเรก หนุ่มถามบอกเลิกผิดมั้ย

แบบนี้ก็มีด้วย! สาวจีนแนบหูฟังห้องข้างๆ เป็นชั่วโมง แฟนบอกไม่เหมาะสมกลับแย้งว่าเป็นงานอดิเรก หนุ่มสุดจะทน ถามบอกเลิกผิดมั้ย

สำนักข่าวต่างประเทศ รายงาน คู่รักคู่หนึ่งมีประสบปัญหาความรักว่าจะไปต่อหรือพอแค่นี้ หลังจากพบว่าฝ่ายหนึ่งมีพฤติกรรมที่แปลกประหลาดจนเกินจะรับไหว โดยเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นที่เมืองหนานหนิง กวางสี ประเทศจีน

ผู้ชายแซ่ซ่งและผู้หญิงแซ่หลิวเป็นคู่รักกัน แม้ว่าทั้งสองจะมีความสัมพันธ์กันมาหนึ่งปีแล้ว แต่พวกเขาไม่ได้อยู่ด้วยกัน ซึ่งเมื่อวันที่ 20 พฤศจิกายนที่ผ่านมา นายซ่งกำลังจะพาแฟนสาวไปเที่ยวกวางโจวด้วยรถไฟความเร็วสูงจากสถานีหนานหนิงไปกวางโจวในวันถัดไปจึงพักโรงแรมใกล้เคียงที่สถานีรถไฟความเร็วสูงหนานหนิงก่อน

เมื่อนายซ่งและแฟนสาวเข้าเช็กอินเข้าไปในห้องพักก็เห็นคู่รักอีกคู่หนึ่งกำลังเช็กอินที่ห้องถัดไป ซึ่งนายซ่งไม่ได้คิดอะไร แต่เมื่อเข้าห้องพักนายซ่งพบว่า แฟนสาวยืนอยู่ที่ผนังกั้นห้องและตั้งใจฟังคู่รักในห้องถัดไปอย่างตั้งใจ ก่อนจะยิ้มแปลก ๆ ขณะฟัง หลังจากที่เธอฟังนานกว่าหนึ่งชั่วโมง เธอก็นั่งลงบนเตียงและพักผ่อนสักพัก

นายซ่งเผยว่า “พ่อแม่ของผมเป็นทั้งครูและได้รับการศึกษาที่ดีมาตั้งแต่เด็กผมรู้สึกว่าพฤติกรรมการ ‘ฟังกำแพง’ ของแฟนสาวนั้นไม่เหมาะสมเล็กน้อย ดังนั้น เมื่อเธอนั่งลงเพื่อพักผ่อน ผมจึงเล่าให้เธอฟังบ้างว่าการทำแบบนี้ไม่เหมาะสม แต่ใครจะรู้ เธอแย้งว่า ‘การฟังกำแพง’ เป็นงานอดิเรก“

“เธอโตมากับการฟังจากกำแพงของห้องพ่อแม่ ก่อนอายุ 18 ปี เธอฟังพ่อแม่เกือบทุกวัน เธอรู้สึกดีมาก และไม่มีใครในชีวิตนี้ที่จะพยายามเปลี่ยนนิสัยฟังกำแพงของเธอได้ เมื่อผมได้ยินเธอพูดแบบนี้ ผมก็โกรธทันที ดังนั้น ผมจึงดุเธอด้วยความโกรธว่า ‘ไร้ยางอาย’ แต่เมื่อเธอเห็นว่า ผมโกรธ เธอก็เริ่มร้องไห้ ”

นายซ่งกล่าวต่อไปว่า “คืนนั้น ผมนอนพลิกตัวอยู่บนเตียงและนอนไม่หลับ ผมคิดว่าผมเป็นคนดีมาก แต่ผมรู้สึกว่าแฟนของผมไม่ดีนัก ผมคิดว่า ความสัมพันธ์ของเราอย่าไปต่อเลยจะผิดมั้ย” นับตั้งแต่เรื่องราวดังกล่าวถูกแชร์ก็กลายเป็นกระแสไวรัลทันที

เมื่อชาวเน็ตหลายคนเริ่มถกเถียงกันอย่างดุเดือด บางคนบอกว่า แฟนสาวหน้าด้านเกินไปจริง ๆ ชอบฟัง เรื่องของคนอื่น เป็นเรื่องที่คาดไม่ถึง ส่วนบางคนเผยว่า ผู้หญิงมีนิสัยแปลก ๆ น่าจะมีปัญหาทางจิตและจำเป็นต้องไปพบจิตแพทย์ ทั้งนี้ การฟังผนัง หมายถึง การซ่อนตัวในที่มืดและแอบฟังการสนทนาของผู้อื่นหรือการกระทำอื่น ๆ ซึ่งถือเป็นการผิดศีลธรรมและละเมิดสิทธิความเป็นส่วนตัวของผู้อื่น แถมยังอาจผิดกฎหมายด้วย

ขอบคุณที่มาจาก Sohu