แพทย์เผย 10 สาเหตุ ทำไมไอเรื้อรัง ซ่อนอาการป่วยหนัก และเป็นอันตรายมากกว่าที่คิด ระวังภาวะหัวใจล้มเหลว โรคหลอดลมอักเสบเรื้อรัง
ช่วงนี้อากาศเปลี่ยนแปลงบ่อย หลาย ๆ คนก็เริ่มมีอาการไอซ้ำ ๆ ต่อเนื่อง จนเป็นสาเหตุให้ผู้ป่วยมักไปพบแพทย์ที่คลินิกผู้ป่วยนอกหรือโรงพยาบาล อย่างไรก็ตาม แพทย์เตือนว่า การไอมีสาเหตุหลายประการและอาจซ่อนโรคสำคัญอื่น ๆ ได้
ซือ หยุนหนิง แพทย์ประจำภาควิชาอายุรศาสตร์ทรวงอกที่โรงพยาบาลไทเปชี้ให้เห็นว่า การไอเป็นกลไกการป้องกันตามธรรมชาติของร่างกายมนุษย์และเป็นปฏิกิริยาที่พบบ่อยเมื่อระบบทางเดินหายใจเกิดการระคายเคือง
การไอสามารถล้างสารคัดหลั่งในหลอดลมและกำจัดสิ่งแปลกปลอมที่สูดดมเข้าไป แต่อาการไอที่เกิดจากปัญหาต่าง ๆ อาจเกิดจากการกระตุ้นเส้นประสาทไอด้วยเหตุผลที่แตกต่างกันและมีความหมายทางสรีรวิทยาหรือพยาธิวิทยาที่แตกต่างกัน การไอทั้งหมดไม่สามารถรักษาได้เหมือนกัน
สำหรับสาเหตุที่แท้จริงของอาการไอเรื้อรัง วิธีที่ดีที่สุดคือ ปรึกษาแพทย์เพื่อรับการประเมินและวินิจฉัยโดยละเอียด ซือหยุนหนิงเผยว่า แพทย์สามารถระบุสาเหตุของอาการไอเรื้อรังได้จากประวัติทางการแพทย์ การตรวจร่างกาย และการทดสอบในห้องปฏิบัติการที่จำเป็น และกำหนดแผนการรักษาที่สอดคล้องกัน
อีกทั้งนพ. ซือหยุนหนิง กล่าวว่า อาการไอเรื้อรัง หมายถึง อาการไอที่กินเวลานานกว่า 8 สัปดาห์ จากการวิเคราะห์พบว่าอัตราความชุกของโรคไอเรื้อรังในผู้ใหญ่ทั่วโลกอยู่ที่ประมาณ 10% ส่วนใหญ่เป็นคนวัยกลางคนและพบได้บ่อยในผู้หญิงมากกว่าผู้ชาย
การศึกษาพบว่า มีรายงานว่าผู้ป่วย 66% ถึง 73% เป็นผู้หญิง และอายุที่พบมากที่สุดที่วินิจฉัยคือ 60 – 69 ปี ทั้งนี้ ตามรายของการวิจัยหากมีอาการจุกเสียด และแสบร้อนหน้าอก มากกว่าสัปดาห์ละ 2 ครั้ง การปล่อยทิ้งไว้โดยไม่รักษาอาจเพิ่มความเสี่ยงของโรคมะเร็งหลอดอาหารได้
สาเหตุของอาการไอมีได้หลายสาเหตุ และที่พบบ่อย ได้แก่ 10 สาเหตุต่อไปนี้
- การสูบบุหรี่ โดยการสูบบุหรี่เป็นเวลานานเป็นปัจจัยหลักประการหนึ่งที่ทำให้เกิดอาการไอเรื้อรัง การสูดควันเข้าไปอาจทำให้เกิดการอักเสบของทางเดินหายใจ ส่งผลให้การไอเป็นอาการที่พบบ่อย
- มลพิษทางอากาศ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการสัมผัสกับอากาศเสีย เช่น ฝุ่นละออง สารเคมี และก๊าซที่เป็นอันตราย อาจระคายเคืองต่อทางเดินหายใจและทำให้เกิดอาการไอเรื้อรังได้
- การแพ้สารก่อภูมิแพ้ในอากาศ เช่น เกสรดอกไม้ ไรฝุ่น หรือขนสัตว์ อาจทำให้เกิดอาการไอเรื้อรัง
- โรคหอบหืด เป็นโรคทางเดินหายใจเรื้อรัง มักจะมีอาการไอ หายใจลำบาก และแน่นหน้าอก
- การติดเชื้อทางเดินหายใจ อาการไอเรื้อรังอาจเป็นอาการของการติดเชื้อทางเดินหายใจ เช่น โรคหลอดลมอักเสบเรื้อรัง ไซนัสอักเสบ หรือโรคปอดอุดกั้นเรื้อรัง (COPD)
- กรดไหลย้อน อาการไอเรื้อรังจากภาวะกรดไหลย้อนเกิดจากการที่กรดไหลย้อนเข้าไปในหลอดอาหารและลำคอ ส่งผลให้น้ำย่อยในกระเพาะอาหารไประคายเคืองเส้นประสาทบริเวณหลอดอาหารส่วนปลายจนเกิดการระคายเคืองของเนื้อเยื่อและนำไปสู่อาการจุกเสียด เรอ คลื่นไส้ และแสบร้อนกลางอก รวมถึงอาจทำให้เกิดอาการไอเรื้อรังโดยเฉพาะในเวลากลางคืนหรือหลังรับประทานอาหาร
- ผลข้างเคียงจากยาบางชนิด เช่น สารยับยั้ง ACE, ยาที่ใช้รักษาความดันโลหิตสูงอาจทำให้เกิดการไอ
- โรคปอดต่าง ๆ เช่น วัณโรค พังผืดในปอด หรือมะเร็งปอด ก็อาจทำให้เกิดอาการไอเรื้อรังได้เช่นกัน พร้อมทั้งอาจมีไข้ในตอนบ่าย มีเหงื่อออกมากในตอนเย็น ร่วมกับอาการอ่อนเพลีย เบื่ออาหาร น้ำหนักลด และมีเลือดปนเสมหะ
- ปัจจัยด้านสภาพภูมิอากาศและสิ่งแวดล้อม โดยสภาพภูมิอากาศที่เย็น แห้ง หรือมีมลพิษสูง รวมถึงการสัมผัสกับสารเคมีหรือก๊าซพิษ อาจทำให้เกิดอาการไอเรื้อรังได้
- ปัญหาเกี่ยวกับหัวใจและหลอดเลือด เช่น โรคหัวใจ หัวใจล้มเหลว หรือปัญหาเกี่ยวกับหัวใจและหลอดเลือดอื่น ๆ มักแสดงสัญญาณเตือนก่อนเริ่มมีอาการรุนแรง ซึ่งอาการไอเรื้อรังเป็นอีกหนึ่งอาการที่สังเกตได้
โดยมีอาการไอไม่หยุดหรือหายใจมีเสียงหวีด ร่วมกับมีเสมหะสีขาวหรือสีชมพูออกมาขณะไอ ขอแนะนำให้รีบไปพบแพทย์ เพราะอาจเกิดจากการมีของเหลวคั่งอยู่ภายในปอด เนื่องจากหัวใจสูบฉีดเลือดที่ไหลกลับมาจากปอดได้ไม่ทัน
ขอบคุณที่มาจาก Ettoday