สภากาชาดไทย ชี้แจงแล้ว ดราม่าเปิดจองที่ร้านค้า ทำเลทอง งานกาชาด 66 เผยหากต้องการมากกว่า 1 ร้าน จะให้เสนอราคาเพิ่ม หากไม่ ก็จองพื้นที่ที่ยังว่างในรอบต่อไป
กรณีการเผยแพร่ข่าวทางสื่อโซเชียลมีเดียหัวข้อข่าวว่า “ร้านดัง เปิดค่าเช่าที่งานกาชาดสวนลุมพินี ทำเลทองต้องประมูล” ในเนื้อหาของการนำเสนอข่าวระบุถึงเพจร้านค้าที่เข้าร่วมออกร้านในงานกาชาดประมูลพื้นที่ดังกล่าวในราคาที่สูงกว่าราคาที่สภากาชาดไทยตั้งไว้ เนื่องด้วยพื้นที่ดังกล่าวมีผู้สนใจมากกว่า 1 ราย ว่า “สำหรับร้านเธอ ปีนี้โดนไป 400,900 บาท แต่ต้องบอกก่อนว่า ราคานี้เป็นราคาประมูล โดยราคาที่สภากาชาดไทย ตั้งไว้อยู่ที่ 290,000 บาท แต่เนื่องจากมีผู้ต้องการพื้นที่ตรงนี้ 3 บริษัทด้วยกัน จึงต้องทำการประมูล” นั้น
เมื่อวันที่ 18 ธ.ค.66 กองอำนวยการจัดงานกาชาด โดยสำนักงานจัดหารายได้ สภากาชาดไทย เป็นผู้ดำเนินการเปิดจองพื้นที่ร้านค้าในงานวันกาชาด 100 ปี พ.ศ.2566 ซึ่งดำเนินการประกาศเปิดให้ผู้ที่สนใจแจ้งความประสงค์เข้าร่วมออกร้านในงานวันกาชาด 100 ปี พ.ศ.2566 ผ่าน Google Forms เผยแพร่ผ่านสื่อออนไลน์และออฟไลน์
แบ่งเป็น ประเภทร้านค้าเอกชน บริษัท ห้างร้าน เฉพาะจำหน่ายสินค้าอุปโภค บริโภค เปิดแจ้งความประสงค์เข้าร่วมออกร้าน จำนวน 2 รอบ รอบที่ 1 วันที่ 1-8 ต.ค.66 และ รอบที่ 2 วันที่ 26-29 ต.ค.66 และประเภทร้านอาหารปรุงสุกพร้อมรับประทาน เปิดแจ้งความประสงค์เข้าร่วมออกร้าน จำนวน 2 รอบ รอบที่ 1 วันที่ 30 ต.ค. -3 พ.ย.66 และรอบที่ 2 วันที่ 20 พ.ย.66
โดย นางจันทร์ประภา วิชิตชลชัย รองผู้อำนวยการสำนักงานจัดหารายได้ ในฐานะกรรมการและเลขานุการอำนวยการจัดงานกาชาดประจำปี 2566 เปิดเผยถึงหลักเกณฑ์ในเรื่องของการจองพื้นที่จำหน่ายสินค้าในงานวันกาชาด 100 ปี พ.ศ.2566 ณ สวนลุมพินีว่า
“ในปีนี้สภากาชาดไทย เปิดโอกาสให้ผู้ที่สนใจจำหน่ายสินค้าทั้งอุปโภค และบริโภค เข้ามาสำรวจพื้นที่หรือโซนที่ตนเองสนใจก่อน โดยที่ทางสภากาชาดไทยจะเป็นผู้ระบุจุดให้ว่า มีพื้นที่ใดที่สามารถทำการจองพื้นได้บ้าง
จากนั้นเมื่อผู้ประกอบการเลือกพื้นที่หรือโซนที่ตนเองต้องการได้แล้ว ก็จะให้จองพื้นที่กับเจ้าหน้าที่ตามวัน เวลาที่กำหนด แต่ถ้าหากในวันที่เปิดจองพื้นที่ มีผู้ประกอบการต้องการพื้นที่เดียวกันหรือสนใจมากกว่า 1 ร้าน/บริษัท จะให้ผู้ประกอบการเสนอราคาเพิ่ม แต่หากร้านค้า/บริษัทไม่ต้องประสงค์ที่จะเสนอราคาเพิ่ม ก็สามารถจองพื้นที่ที่ยังว่างอยู่ในรอบต่อไปได้
สำหรับราคาที่สภากาชาดไทยกำหนดขึ้นนั้น จะอ้างอิงจากราคาเดิมของปีที่ผ่านมา ซึ่งราคาพื้นที่ที่กำหนดขึ้นจะมีราคาไม่เท่ากัน โดยถ้าเป็นประเภทร้านค้าเอกชน บริษัท ห้างร้าน ราคาเริ่มตั้งแต่ 130,000 บาท และประเภทร้านอาหารปรุงสุกพร้อมรับประทานราคาจะเริ่มตั้งแต่ 35,000 บาท ซึ่งราคาจะขึ้นอยู่กับขนาดของพื้นที่เนื่องจากมีขนาดเล็กใหญ่ไม่เท่ากัน
โดยเงินที่ผู้ประกอบการจ่ายเป็นค่าพื้นที่ให้กับทางสภากาชาดไทยนั้น จะไปสมทบบำรุงสภากาชาดไทยตามพันธกิจ 4 ด้านของสภากาชาดไทยทั้งในด้านการบริการทางการแพทย์และสุขภาพอนามัย การบรรเทาทุกข์ผู้ประสบภัย การบริการโลหิต และการส่งเสริมคุณภาพชีวิต โดยยึดมั่นหลักมนุษยธรรมตามหลักการกาชาด ไม่เลือกชั้นวรรณะ ชาติ ศาสนา และลัทธิทางการเมือง และยังจะคงมุ่งมั่นปฏิบัติงานอย่างเต็มกำลังความสามารถเพื่อประโยชน์สุขและเป็นที่พึ่งของประชาชน” นางจันทร์ประภา กล่าว
นางจันทร์ประภา กล่าวต่อว่า ทั้งนี้ สภากาชาดไทย กำหนดจัดงานวันกาชาด100 ปี พ.ศ.2566 ภายใต้แนวคิดรื่นรมย์สุขฤดี ณ ที่แห่งการให้ #RedCrossFairCenturyOfCharity” ระหว่างวันที่ 8-18 ธ.ค.66 รวม 11 วัน ณ สวนลุมพินี และ www.งานกาชาด.com โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเฉลิมฉลองในโอกาสที่การจัดงานกาชาดประจำปี มหรสพรื่นเริงการกุศลอยู่คู่กับประชาชนชาวไทย ครบ 100 ปี
และเพื่อหาเงินรายได้โดยเสด็จ พระราชกุศลบำรุงสภากาชาดไทย นำไปใช้ในการบรรเทาทุกข์ บำรุงสุข บำบัดโรค กำจัดภัยแก่ประชาชนผู้ยากไร้ ผู้ด้อยโอกาส และผู้ประสบภัยพิบัติตามภารกิจของสภากาชาดไทยต่อไป
โดยกิจกรรมความพิเศษที่จัดขึ้นในงานวันกาชาด 100 ปี พ.ศ.66 ณ สวนลุมพินีนั้น จัดกิจกรรมให้ผู้ที่มาเที่ยวงานได้ร่วมย้อนวันวานงานวันกาชาดมากมาย อาทิ การจัดแสดงกระบวนแห่รถ งานวันกาชาด 100 ปี พ.ศ.66 กิจกรรม “ถนนย้อนวันวาน รื่นเริง งานวันกาชาด” เป็นกิจกรรมการแสดงกลางแจ้งในอดีตที่ผ่านมา เช่น การแสดงสุนัขตำรวจ, การแข่งขันตะกร้อลอดห่วง, การแสดงเชิดสิงโต, การแสดงกระบี่-กระบอง, การแสดงมวยไทยโบราณ,
รวมถึงกิจกรรมลีลาศ, รำวง ย้อนยุค, กิจกรรมร่วมถ่ายภาพหรือเก็บภาพกับนิทรรศการ 5 สถานที่จัดงานวันกาชาด จากสนามหลวง พระราชอุทยานสราญรมย์ สถานเสาวภา สวนอัมพร และสวนลุมพินีสู่โลกออนไลน์
นอกจากนี้ ยังมีกิจกรรมเชิญชวนให้ผู้มาเที่ยวงานวันกาชาด 100 ปี “นุ่งโจงห่มไทย” ตามยุคสมัยตามสไตล์ของประชาชนแต่ละช่วงวัยเพื่อร่วมย้อนวันวานงานกาชาดในอดีตอีกทั้งยังได้รวบรวมกิจกรรมที่เป็นอัตลักษณ์ของงานไว้อีกด้วย เช่น การออกร้านของหน่วยงานต่าง ๆ ทั้งภาครัฐภาคเอกชนกว่า 300 หน่วยงาน
การเสี่ยงโชคชิงรางวัล การจำหน่ายสลากกาชาด การจำหน่ายสินค้าที่ระลึกจากร้านโครงการส่วนพระองค์ สินค้าที่ระลึกงานวันกาชาด 100 ปี อาทิ เสื้อ กระเป๋า ถุงผ้า เป็นต้น รวมถึงการจำหน่ายสินค้าอุปโภคบริโภคในราคาย่อมเยาจากภาคเอกชน
