ศิษย์เก่าชี้โรงเรียนตั้งมาก่อน 30 ปี ขอหมู่บ้านทบทวนร้องเรียน ยันเป่านกหวีดไม่เกินกฎหมายกำหนด เป็นการรักษาความปลอดภัยในเขตโรงเรียน
จากกรณีผู้ใช้เฟซบุ๊ก Chindanai Meekornngam โพสต์ภาพโรงเรียนแห่งหนึ่งและหมู่บ้าน ใจความประมาณว่า “หมู่บ้านดัง ร้อง ร.ร.เลิกใช้นกหวีดจัดจราจร อ้างเสียสุขภาพจิต ทั้งที่ ร.ร.เปิดมาก่อนกว่า 30 ปี”
เมื่อวันที่ 25 ธ.ค.66 นายชินดนัย ประธานรุ่น 17 และเจ้าของโพสต์ เปิดเผยกับ ‘ข่าวสดออนไลน์’ ระบุว่า ทางโรงเรียนได้รับเอกสารการร้องเรียนจากหมู่บ้านแห่งหนึ่ง เพื่อขอให้ยกเลิกการเป่านกหวีดในการจัดการจราจรบริเวณหน้าโรงเรียนในช่วงเช้า และขอให้ใช้วิธีอื่น เนื่องจากการเป่านกหวีดนั้น ส่งเสียงรบกวน และทำให้เสียสุขภาพจิต
นายชินดนัย เปิดเผยว่า ตนเป็นศิษย์เก่าขอใช้พื้นที่ส่วนตัวในการแสดงความคิดเห็นส่วนตัวว่า อยากให้ทางหมู่บ้านพิจารณาการส่งจดหมายฉบับนี้มาทางโรงเรียนว่า เนื้อหานั้นเหมาะสมหรือไม่อย่างไร เพราะโรงเรียนตั้งมา 30 ปีแล้ว ส่วนหมู่บ้านเพิ่งมาสร้างได้มาไม่กี่ปีเท่านั้น เบื้องต้นคำร้องที่ส่งมา ทางโรงเรียนไม่ได้นิ่งนอนใจ ได้งดใช้นกหวีดตั้งแต่วันพุธที่ผ่านมา
ตนไม่อยากให้เกิดการทะเลาะกัน แต่อยากให้ทบทวนว่าโรงเรียนมีการปฏิบัติในการรักษาความปลอดภัยของนักเรียน และปฏิบัติกันมาอย่างต่อเนื่อง หากเกิดอะไรขึ้นโรงเรียนก็จะต้องรับผิดชอบ อีกทั้งยังเพื่อการจัดระเบียบการจราจรในเขตโรงเรียนให้เป็นระเบียบเรียบร้อย และรถสามารถสัญจรผ่านไปได้
ก่อนหน้านี้ทางโรงเรียนได้รับการร้องเรียนเรื่องการใช้เสียง แต่ก็เป็นไปไม่ได้เลยที่โรงเรียนจะไม่ใช้เสียงในการทำกิจกรรมต่างๆ ซึ่งโรงเรียนหยุดการทำกิจกรรมตอนเย็น เพื่อให้คนในหมู่บ้านที่ร้องเรียนมาสบายใจ
ตนอยากให้ทางหมู่บ้านลองพิจารณา ทบทวนดูก่อนว่าการร้องเรียนมานั้น เหมาะสมหรือยัง เพราะตนเชื่อว่าทางโรงเรียนเป่านกหวีดไม่เกินตามที่กฎหมายกำหนด ช่วงเช้าไม่เกิน 1 ชั่วโมง ทั้งหมดนั้นเพื่อรักษาความปลอดภัยในแก่นักเรียน ผู้ปกครอง และบุคลากรของโรงเรียน
สุดท้ายนี้ตนในฐานะศิษย์เก่า ตนอยากเห็นบทสรุปที่เป็นกลาง ทางออกที่เหมาะสมกับทั้ง 2 ฝ่าย
