หม่าล่า – ชาไทย – กางเกงช้าง – ชุดนักเรียน Soft Power 4 อย่าง ในประเทศไทย มีอิทธิพลอย่างมาก ช่วยผลักดันเศรษฐกิจ ในปี 2023 !
Soft Power (ซอฟต์พาวเวอร์) กลายเป็นคำศัพท์ยอดฮิตที่เรามักจะได้ยินมาผ่านหูอยู่บ่อย ๆ ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ถึงขนาดมีการจัดตั้ง ‘คณะกรรมการยุทธศาสตร์ซอฟต์พาวเวอร์แห่งชาติ’ ขึ้นมาเพื่อขับเคลื่อนกันอย่างจริงจัง ในปี 2023
Soft power คืออะไร ?
“Soft Power” คือ การใช้อิทธิพลทางวัฒนธรรม คุณค่าทางสังคม เพื่อ “เชื้อเชิญ” ให้ผู้คนสนใจแล้วอยากทำตาม เช่น กระแสเกาหลีฟีเวอร์ ที่ได้รับอิทธิพลจากซีรี่ส์, ศิลปิน K-POP
วันนี้ ข่าวสด ขอนำเสนอ 4 Soft power ที่มีอิทธิพลอย่างมากในประเทศไทย ในปี 2023 นี้
1. หม่าล่าฟีเวอร์
คงไม่มีใครไม่รู้อาหารยอดฮิต “หม่าล่า” จากประเทศจีน เดินไปที่ไหนก็เจอแผงหรือร้านขายหม่าล่ากันเต็มไปหมด รวมไปถึงร้านหม่าล่าสายพานที่เปิดกันทั่วประเทศ โดยเฉพาะย่านห้วยขวาง ซึ่งก็ต้องรอตามกันต่อไปว่าบรรดาร้านหม่าล่าจะอยู่ได้ยาวแค่ไหน หากกระแสหายไป
ความจริงแล้วหม่าล่าไม่ใช่อาหาร แต่เป็นรสชาติ มาจากการรวมตัวอักษรจีน 2 ตัว คือ “หม่า คือ การทำให้ชา ล่า คือ เผ็ดฉุน”
ฟีเวอร์ขนาดที่ผลิตภัณฑ์อาหารไทยในมีรสชาติหม่าล่ากันเกือบทุกแขนง ทั้งจำพวกขนมขบเคี้ยว ขนมปัง ไอศรีม ไก่ทอด และอื่น ๆ อีกมากมาย
2. ชาไทย หรือ ชาเย็น
เครื่องดื่มโปรดของทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ เป็นของขึ้นชื่อประจำประเทศไทยที่คนต่างชาติกล่าวขานว่าต้องได้ลองชิม
ซึ่งความจริง ชาไทย โด่งดังมานานแล้ว ได้รับการตอบรับที่ดีอยู่เรื่อย ๆ จะเห็นได้ว่าคล้ายกับกรณีของหม่าล่าตรงที่มีอาหารต่าง ๆ มากมายที่ทำออกมาเป็นรสชาไทย โดยเฉพาะของหวาน
ฮิตและขายดีถึงขนาดที่เคยเกิดดราม่า “ปังชา” ที่มีกระแสว่าห้ามขายรสชาไทยเลยทีเดียว
3. กางเกงช้าง
กางเกงช้าง หรือ กางเกงลายช้าง เป็นสินค้าที่ได้รับความนิยมจากคนต่างชาติมานานแล้ว เพราะราคาถูก สุภาพ สวมใส่สบาย แต่เพิ่งกลายเป็นแฟชั่นมาแรงในช่วงปลายปี 2565 ที่ผ่านมา ที่คนไทยก็เริ่มฮิตกับเขาด้วย
อีกหนึ่งสาเหตุที่ทำให้กางเกงช้างฮิตหนัก คือ ศิลปินคนดังจากต่างประเทศหลาย ๆ คน เช่น แจ็คสัน หวัง เลือกสวมใส่กางเกงช้าง ประกอบกับคนดังใน TikTok ก็ใส่เต้นจนคลิปเป็นไวรัล
จวี จิ้งอี
4. ชุดนักเรียน
อยู่ ๆ ชุดนักเรียนไทย ก็กลายเป็นแฟชั่นยอดฮิตในกลุ่มนักท่องเที่ยวชาวจีน แม้แต่ศิลปิน – นักแสดง คนดังของจีนก็ยังใส่มาถ่ายรายการในไทย
ซึ่งเทรนด์การแต่ง “ชุดนักเรียนไทย” เริ่มต้นมาจากที่ “จวี จิ้งอี” หรือ “เสี่ยวจวี” นักร้องนักแสดงหญิงชาวจีน อดีตสมาชิกของวง SNH48 ที่โด่งดังจากบทบาท “นางพญางูขาว”
ได้เดินทางมาท่องเที่ยวในประเทศไทย และได้มีการซื้อชุดนักเรียนไทย ปักชื่อตัวเองในภาษาไทย ว่า “จวีจิ้งอี 991” และนำมาสวมใส่ท่องเที่ยวไปตามสถานที่ต่างๆ ในกรุงเทพมหานคร จนกลายเป็นเทรนด์ใหม่ของนักท่องเที่ยวชาวจีนนั่นเอง
อย่างไรก็ตามประเด็นนี้ก็กลายเป็นดราม่า เพราะหากไม่ระวังก็เสี่ยงผิดกฎหมาย อีกทั้งยังมีประเด็นที่คนไทยมองว่า คนจีนใส่ชุดนักเรียนแล้วสวย เพราะมีอิสระในการแต่งหน้า ทำผม ไม่เหมือนนักเรียนไทยจริง ๆ
อย่างไรก็ตาม ต้องยอมรับว่าทั้ง 4 Soft power นี้ มีอิทธิพลอย่างมากในประเทศ และเป็นส่วนสำคัญที่ช่วยผลักดันเศรษฐกิจรูปแบบหนึ่ง
