แม่ค้าสุดเศร้ารับสิ้นปี กลุ่มโจรบุกงัดตู้ ขนสินค้าโทรศัพท์มือถือ และอุปกรณ์ไอที เสียหายกว่า 5 แสน แถมตำรวจบอก เห็นทะเบียนไม่ชัด ไล่กล้องก็ไม่ได้

เมื่อวันที่ 31 ธ.ค. 2566 ที่ศูนย์ร้องทุกข์เพจ สายไหมต้องรอด น.ส.ทิพย์กาญจนา ยิ้มจู อายุ 46 ปี ผู้เสียหาย ถูกโจรงัดรถกระบะตู้ทึบ ขโมยสินค้าโทรศัพท์มือถือและอุปกรณ์ไอที เสียหายราว 5 แสนบาท

เดินทางมาร้องเรียนและขอความช่วยเหลือกับนายเอกภพ เหลืองประเสริฐ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย และผู้ก่อตั้งเพจสายไหมต้องรอด หลังไปแจ้งความสภ.คลองสิบสอง จ.ปทุมธานี แต่คดีไม่คืบหน้า

น.ส.ทิพย์กาญจนา กล่าวว่า ตนประกอบอาชีพขายโทรศัพท์มือถือตามตลาดนัดมานานเกือบ 20 ปี โดยสินค้าจะเก็บไว้ในรถกระบะตู้ทึบ เพื่อให้สะดวกในการเดินทางไปขายของ เมื่อวันที่ 22 ธันวาคมที่ผ่านมา ได้จอดรถกระบะตู้ทึบไว้หน้าบ้านตามปกติ ซึ่งอยู่ติดกับถนนใหญ่

ต่อมาเวลา 06.00 น. ตนเดินออกมาดูรถ เห็นประตูตู้ทึบท้ายรถเปิดอยู่ และพบว่ากุญแจถูกตัด จึงรีบตรวจสอบทรัพย์สิน พบว่ากล่องสินค้าหายไปกว่า 10 ลัง จึงไปตรวจสอบกล้องวงจรปิดเห็นรถกระบะตู้ทึบมาหน้าบ้านฝั่งตรงข้ามในช่วง 04.00 น. และมีคนร้าย 4 คน ใช้คีมตัดเหล็กมาตัดกุญแจ แล้วขนลังสินค้าออกไป 2 รอบ

รอบแรกใช้เวลาไม่ถึง 5 นาที จากนั้นกลุ่มคนร้ายได้ขับรถวนออกไป ก่อนจะกลับมาอีกครั้ง และได้จอดรถกระบะตู้ทึบเทียบท้ายรถของตน และขนของอีกครั้ง ใช้เวลาประมาณ 10 นาที ก่อนหลบหนีออกไป สินค้าอย่างโทรศัพท์มือถือ ลำโพงบลูทูธ หูฟัง ฟิล์มกระจกติดโทรศัพท์ เลนส์กล้องโทรศัพท์มือถือ รวมมูลค่ากว่า 5 แสนบาทถูกขโมยไปทั้งหมด

ตนนำหลักฐานกล้องวงจรปิดไปแจ้งความที่สภ.คลองสิบสอง เมื่อวันที่ 22 ธันวาคม ที่ผ่านมา แต่จนถึงขณะนี้ยังไม่มีความคืบหน้า โดยตำรวจอ้างว่า กล้องวงจรปิดภาพชัดเจน แต่ไม่เห็นป้ายทะเบียนรถและไม่สามารถตรวจสอบกล้องวงจรปิดตามเส้นทางในพื้นที่เกิดเหตุได้ด้วย เพราะหม้อแปลงระเบิด

ตนตั้งข้อสังเกตว่า ลักษณะของกลุ่มผู้ก่อเหตุมีความเชี่ยวชาญมาก เหมือนรู้ว่าตนเก็บสินค้าไว้ท้ายรถกระบะตู้ทึบ ตอนก่อเหตุจึงใช้เวลาเร็วมาก แต่ส่วนตัวไม่ทันสังเกตว่ากลุ่มคนร้ายได้มาดูเลาก่อนหน้านี้หรือไม่ เนื่องจากถนนหน้าบ้านเป็นถนนใหญ่มีรถขนของลักษณะเดียวกันขับผ่านจำนวนมาก

ทั้งนี้ช่วงสิ้นปีจะเป็นช่วงที่ต้องตุนของไว้ขายจำนวนมาก จึงได้ลงทุนไว้เยอะ แต่เมื่อถูกขโมยไปทั้งหมด ทำให้จำเป็นต้องไปกู้เงินนอกระบบมา เพื่อลงทุนซื้อของมาขาย จึงเป็นกังวลว่าหากตำรวจไม่สามารถจับตัวกลุ่มคนร้ายได้ ก็อาจจะมาก่อเหตุซ้ำ

ด้านนายเอกภพ กล่าวว่า สมัยก่อนไม่มีกล้องวงจรปิด ตำรวจยังสามารถตามจับคนร้ายได้ แต่ครั้งนี้มีภาพกล้องวงจรปิดชัดเจน เพียงแค่ไม่เห็นป้ายทะเบียนรถ จึงไม่น่าเป็นปัญหาในการสืบสวน อย่างไรก็ตาม จะช่วยประสานผู้กับการสภ.คลองสิบสอง เพื่อช่วยให้ติดตามคดี

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน