กรมอุทยานฯ พบ เสือโคร่ง 3 ตัว หากินข้ามประเทศไทย-เมียนมาร์ ใน จ.ชุมพร เผยตัวเลขปี 65 ไทยพบเสือโคร่ง 148-189 ตัว เพิ่มขึ้นจากสถิติปี 63
วันที่ 21 ม.ค. นายอรรถพล เจริญชันษา อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช เปิดเผยว่า นายอาทร กำลังใบ หัวหน้าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า อุทยาน เสด็จในกรม กรมหลวงชุมพร ด้านทิศเหนือ (ตอนล่าง) จ.ชุมพร รายงานว่าพบการกระจายพื้นที่อยู่อาศัยของ เสือโคร่ง บริเวณป่าดวงเจริญ ป่าเนินทอง และป่าช่องขมิ้ว ม.4 และ ม. 7 ต.สองพี่น้อง อ.ท่าแซะ จ.ชุมพร
ซึ่งเสือโคร่งดังกล่าวมีการกระจายพื้นที่อาศัยหากินระหว่างประเทศไทยและประเทศเมียนมาร์ ซึ่งอาจจะเป็นเสือโคร่ง 2 สัญชาติ เนื่องจากมีการข้ามไปมาระหว่าง 2ประเทศ
นายอรรถพล กล่าวอีวกว่า การค้นพบนี้ กรมอุทยานแห่งชาติฯ ร่วมกับ มูลนิธิฟรีแลนด์ (Freeland) สำรวจการกระจายตัวของเสือโคร่งในพื้นที่บริเวณเทือกเขาตะนาวศรี มูลนิธิฟรีแลนด์สำรวจบริเวณเทือกเขาตะนาวศรีทั้ง 2 ฝั่ง คือ ฝั่งประเทศไทยและฝั่งประเทศเมียนมาร์ในพื้นที่บริเวณอุทยานแห่งชาติหลุนญา
ซึ่งการพบครั้งนี้เป็นการค้นพบในฝั่งประเทศไทย ได้ภาพจากการตั้งกล้องในพื้นที่ทั้งหมด 24 ตัว โดยพบว่าเป็นเสือโคร่ง 3 ตัว เนื่องจากลายของเสือโคร่งแตกต่างกัน ทั้งนี้ก่อนหน้านี้ในพื้นที่ไม่เคยพบเสือโคร่งมาก่อนเนื่องจากไม่มีการสำรวจ
แต่เริ่มมีการตั้งกล้องสำรวจเมื่อปี 2562 เป็นต้นมา ในปี 2563 – 2565 ก็เคยพบมาแล้ว ส่วนปี 2566 พบแต่รอยตีน ส่วนการลาดตระเวนเชิงคุณภาพ (SMART PATROL) ที่ผ่านมาก็พบแต่รอยตีน นอกจากนี้บริเวณพื้นที่เขตฯช่วงล่างรอยต่อกับเขตด้านทิศใต้ เคยพบรอยบนต้นไม้
นายอรรถพล ระบุว่า จากกรณีการพบเสือโคร่งหากินระหว่าง 2 ประเทศดังกล่าวข้างต้น พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) สั่งการให้กรมอุทยานฯ เร่งสำรวจการแพร่กระจายพันธุ์ของเสือโคร่ง
ทั้งนี้จะมอบหมายให้สำนักอนุรักษ์สัตว์ป่าทำการศึกษาว่าเป็นเสือโคร่งที่กระจายตัวหากินระหว่าง 2 ประเทศมาเป็นระยะเวลานานเท่าใด รวมถึงเป็นเสือที่รวมอยู่ในจำนวนเสือของไทยที่ทำการสำรวจมาก่อนหรือไม่ เพื่อเป็นการเก็บข้อมูลที่เป็นปัจจุบันขึ้น
สำหรับสถานการณ์เสือโคร่งในปัจจุบัน โดยจากการประเมินประชากรเสือโคร่งในธรรมชาติ ในปี 2565 พบเสือโคร่ง 148-189 ตัว เพิ่มขึ้นจากสถิติ ปี 2563 ที่สำรวจพบ 130-160 ตัว โดยอาศัยเทคนิคการประเมินเฉพาะทางและการจำแนกลายที่ได้จากกล้องดักถ่ายภาพอัตโนมัติ ซึ่งติดตั้งไว้มากกว่า 1,200 จุด ในพื้นที่อนุรักษ์ 28 แห่ง
จากการศึกษาวิจัยนี้ ยังพบอีกว่า พื้นที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวร-ห้วยขาแข้ง เป็นพื้นที่ที่มีประชากรหนาแน่นที่สุด คือ 103-131 ตัว ในส่วนของพื้นที่จังหวัดนครสวรรค์แห่งนี้ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของผืนป่าตะวันตกตอนเหนือ ได้แก่ อุทยานแห่งชาติแม่วงก์ ขึ้นไปจนอุทยานแห่งชาติคลองลานอุทยานแห่งชาติคลองวังเจ้า เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าอุ้มผาง ในพื้นที่จังหวัดกำแพงเพชร และจังหวัดตาก สามารถบันทึกภาพเสือโคร่งได้ จำนวน 16 – 21 ตัว
ไม่เพียงแต่ภาพของเสือโคร่งเท่านั้น หากแต่ยังบันทึกภาพเหยื่อของเสือโคร่ง เช่น กวางป่า หมูป่า เก้ง วัวแดง เป็นต้น สิ่งนี้เป็นดัชนีวัดความสมบูรณ์ของผืนป่าและความเหมาะสมของการเป็นถิ่นอาศัยของเสือโคร่งได้เป็นอย่างดี
ทั้งนี้รัฐบาลไทยได้ให้ความเห็นชอบในแผนปฏิบัติการแห่งชาติเพื่ออนุรักษ์เสือโคร่ง พ.ศ. 2565 – 2577 โดยตั้งเป้าหมายในการยกระดับมาตรฐานการคุ้มครองถิ่นอาศัยสำคัญของเสือโคร่ง ได้แก่ ผืนป่าตะวันตก และผืนป่าดงพญาเย็น-เขาใหญ่
ตลอดจนเร่งฟื้นฟูประชากรเสือโคร่งและเหยื่อในถิ่นอาศัยเป้าหมาย ได้แก่ ผืนป่าแก่งกระจาน ผืนป่าภูเขียว-น้ำหนาว และผืนป่าคลองแสง-เขาสก ทั้งหมดทั้งมวลนี้เพื่อนำประเทศไทยไปสู่การเป็นผู้นำในการอนุรักษ์เสือโคร่งในระดับภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ให้ได้ ภายในปี พ.ศ. 2577