หมอสะท้อน มีมดัง กินไปเถอะ ยังไงก็ตายอยู่ดี ความจริงมีอะไรมากกว่านั้น

หมอสะท้อน มีมดัง กินไปเถอะ ยังไงก็ตายอยู่ดี ความจริงมีอะไรมากกว่านั้น คนที่ทุกข์คือคนในครอบครัว ที่ต้องมาดูแลในตอนเจ็บป่วย

หลังโลกออนไลน์แห่แชร์กับมีมดังของสาวรายหนึ่งที่ให้สัมภาษณ์ว่า “กินไปเถอะค่ะ ยังไงก็ตายอยู่ดี” ต่อเรื่องดังกล่าว เพจ เรื่องเล่าจากโรงพยาบาล สะท้อนมุมมองของหมอจากคำพูดดังกล่าว ความว่า #ฉันมีความสุข

ปกติ ผมเป็นหมอที่ค่อนข้างยืดหยุ่น เข้าใจดีว่าไลฟ์สไตล์ แต่ละคนต่างกัน เข้าใจดีว่าความสุขของคนเราต่างกัน

คนดื่มเหล้า แต่ไม่มีปัญหาเรื่องตับ เรื่องความดัน ผมก็ไม่เคยคิดว่า เป็นเรื่องผิดอะไร คนน้ำหนักตัวเยอะ แต่ไขมันดี ไม่มีเบาหวาน ตับยังดี ผมก็เพียงแค่บอกว่า ระวังหน่อยนะ

หมอสะท้อนมุมมอง ต่อมีมดัง กินไปเถอะยังไงก็ตาย

แต่เมื่อไหร่ เริ่มมีปัญหาเบาหวานมาแล้วนะ ความดันตามมาติดๆ ไขมันพอกตับก็มี แบบนี้ ผมจึงจะบอก แนะนำ ทุกครั้ง

กินไปเถอะ ยังไงก็ตายอยู่ดี อาจเป็นประโยค กึ่งจริง กึ่งเล่น แต่หลายคนอาจคิดอย่างนั้นจริง ๆ มันเป็นความจริงเลยล่ะ ปฏิเสธไม่ได้ ว่าสุดท้ายก็ตายอยู่ดี

ในกรณีแบบนี้ คนตายไม่ค่อยเท่าไหร่ คนที่คิดแบบนี้จริงๆ อาจมีความสุขจนวันสุดท้ายเลย

เคยมีคนไข้ตับแข็ง อ้วกเป็นเลือดช็อก รักษากัน เกือบไม่รอด กลับบ้านไป หนึ่งอาทิตย์ ไปดื่มแล้วอ้วกเป็นเลือด มาอีกครั้งนี้ ช็อก แบบไม่ฟื้นจริงๆ ผมยังคิดว่า เออ จิตสุดท้ายของเขา อาจจะกำลังเคลิ้ม กำลังฟินสุดๆ อยู่ก็ได้นะ

แต่ คนที่จะทุกข์ คือ คนข้างๆ ครับ คนในครอบครัว เห็น แม่ หลายรายแล้ว ต้องมานั่งเฝ้าลูกที่ เมาจนเพ้อ เห็น ภรรยา หลายคนแล้ว ที่ต้องมาป้อนข้าว เช็ดตัว พลิกตัว ให้สามีที่เป็นอัมพาต เพราะเป็นทั้งเบาหวาน ทั้งความดัน ไม่เคยคิดจะคุม เห็นลูกหลาน หลายครอบครัวแล้ว

ไม่รู้เหมือนกันว่า ในบรรดาคนเหล่านี้ เคยหวนคิดสักนิดไหมว่า ตอนที่ ตัวเขามีความสุขนั้น สุขอยู่คนเดียว กินของที่ชอบ ปล่อยตัวอย่างมีความสุข

แต่วันที่เจ็บป่วยนั้น เขาลากเอาคนอื่นมาทุกข์กับเขาด้วย