สื่อนอกตีข่าว ชายไทยกินตุ๊กแกดิบ เสริมสมรรถภาพทางเพศ ลั่นได้ผลดี-เป็นความเชื่อส่วนตัวตั้งแต่รุ่นปู่ย่า แพทย์ออกมาเตือนอย่าหาทำ แถมชาวเน็ตต่างชาติก็สยอง
การปรับสมดุลสมรรถภาพทางเพศมีหลายวิธี นอกจากกินทานอาหารเสริมที่ถูกหลักอนามัยและได้รับรองความปลอดภัยจากอย.แล้ว บางคนยังเลือกทานอาหาร เช่น กินหอยนางรมหรือช็อกโกแลต เป็นต้น
อย่างไรก็ตาม สำนักข่าวต่างประเทศกำลังตีข่าว ชายไทยเลือกที่จะกิน “ตุ๊กแกดิบ” เพื่อเสริมสมรรถภาพทางเพศ พร้อมให้เหตุผลว่า หลังจากกินตุ๊กแกเข้าไปแล้ว ภายใน 3 ชั่วโมง สมรรถภาพทางเพศของเขาก็ดีขึ้น ซึ่งแนวคิดนี้สืบทอดมาจากปู่ย่าตายาย หลังจากลองด้วยตัวเอง เขาก็รู้สึกว่าของเขาเพิ่มขึ้นอย่างมาก
ตามรายงาน นายสมหมาย ชายอายุ 59 ปีในประเทศไทย เริ่มทานตุ๊กแกเป็นอาหารเพื่อเพิ่มความอ่อนแอและปรับปรุงสมรรถภาพทางเพศ โดยกล่าวว่า ไม่จำเป็นต้องปรุงอาหารแนะให้รับประทานดิบ ๆ จะได้ผลดีที่สุด
เมื่อถามถึงปัญหาด้านสุขอนามัย เขาตอบว่า ตุ๊กแกค่อนข้างได้ผล ซึ่งจริง ๆ แล้ว ตุ๊กแกสะอาดและกินแมลงตัวเล็กเป็นหลัก โดยจะรับซื้อและเลือกตุ๊กแกที่อาศัยอยู่ในชนบทเป็นพิเศษ อย่างไรก็ตาม หลังจากจับตุ๊กแกมาแล้ว จะไม่กินดิบ ๆ สด ๆ โดยตรง พร้อมแนะนำให้ใช้น้ำโซดาในการทำความสะอาดแบคทีเรียบนพื้นผิวก่อน
งานนี้ แพทย์ยังเตือนด้วยว่า การกินสัตว์ป่าจะเพิ่มโอกาสเสี่ยงต่อเชื้อโรคโดยเฉพาะหากรับประทานดิบ ๆ สาเหตุที่พบบ่อยที่สุด คือ อาการท้องร่วงและการติดเชื้อในทางเดินอาหาร
แต่นายสมหมายไม่เห็นด้วย เขาเชื่อว่า นี่เป็น “ความเชื่อ” ส่วนตัวของเขา และเชื่อมั่นในประโยชน์ของการกินตุ๊กแกดิบอย่างแน่วแน่ เขาไม่ได้กินมันเพียงเพื่อให้ได้รับความสนใจ พร้อม ย้ำว่า “ผมจะไม่ใช้พฤติกรรมผิดปกติเพื่อให้ได้มันมา”
ตามรายงานของกรมอนามัย แม้ว่าตุ๊กแกจะมีการบริโภคกันอย่างแพร่หลายในประเทศแถบเอเชีย เพราะมีความเชื่อว่าเนื้อของตุ๊กแกช่วยบำรุงกำลัง และมีสรรพคุณทางยาสามารถใช้รักษาโรคบางชนิดได้
แต่ในปัจจุบันยังไม่มีงานวิจัยที่สามารถยืนยันได้ว่า ตุ๊กแกสามารถรักษาโรคได้จริงหรือไม่ และไม่มีการยืนยัน อย่างแน่ชัดว่า การกินตุ๊กแกจะช่วยทำให้ร่างกายได้รับปริมาณของสารอาหารอื่นครบถ้วนและเพียงพอ
นายแพทย์สุวรรณชัย กล่าวต่อไปว่า การนำตุ๊กแกมากินนั้น อาจก่อให้เกิดความเสี่ยงได้รับอันตรายทั้งจากการโดนตุ๊กแกที่มีฟันแหลมคมกัด หรือเสี่ยงต่อสัตว์มีพิษชนิดอื่น เนื่องจากตุ๊กแกไม่ใช่สัตว์ที่เพาะเลี้ยงเพื่อใช้บริโภค จึงต้องหาจากป่า สวน หรือบริเวณบ้านเรือน อีกทั้งหากไม่มีกระบวนการชำแหละ ล้างทำความสะอาด หรือปรุงให้สุกดีพอ จะเสี่ยงต่อการได้รับเชื้อก่อโรคได้
ขอบคุณที่มาจาก Ettoday
