ทนายตั้มแฉอีก บัญชีม้าวิ่งส่วยโยงทำบุญสร้างพระ ลั่นผมไม่ใช่คนดี ยอมรับกลัว ถ้าโดนเก็บก็เป็นเรื่องโชคชะตา เผยพรุ่งนี้เตรียมนำหลักฐานไปยื่นให้บิ๊กเต่าตรวจสอบด้วย

หลังจากทนายตั้ม ษิทรา เบี้ยบังเกิด โพสต์เฟซบุ๊ก “ษิทรา เบี้ยบังเกิด เลขาธิการมูลนิธิทีมงานทนายประชาชนฯ” โพสต์ภาพและระบุว่า “บัญชีม้าวิ่งส่วยโอนเงินเข้าวัด 15 ธ.ค.2565 เหลือจะเชื่อที่มีบิ๊กตำรวจ ไปเข้าพิธีสร้างพระวันที่ 17 ธ.ค.2565 ผมขออนุโมทนาบุญด้วยนะครับ”

สำหรับความคืบหน้า วันที่ 27 มี.ค.67 ทนายตั้ม ษิทรา เปิดเผยว่า ยืนยันบุคคลในองค์กรนี้มีเส้นเงินไปถึงตัวเขาถึง 6 ครั้ง และมีกรรมการท่านหนึ่งที่แต่งตั้งในเดือนมี.ค.มีส่วนในการรับเงิน ซึ่งตนมีผังเส้นทางการเงินชัดเจน สามารถตรวจสอบได้เลยว่าช่วงเวลาไหนเงินถึงใคร

“แต่ต้องให้ความเป็นธรรมกับทางสมาคมแห่งหนึ่ง เพราะคนที่รับเงินในตอนนั้นเป็นอุปนายก และตอนนี้มีการเปลี่ยนคณะผู้บริหารแล้ว เมื่อวันที่ 5 มี.ค.ที่ผ่านมา ทราบว่าบุคคลที่รับเงิน ไม่ได้เข้ามาเป็นคณะผู้บริหารในตอนนี้แล้ว”

ทนายตั้ม กล่าวว่า ความเชื่อมโยงจากภาพที่ตนโพสต์ไปนั้นคือ ตรวจพบเส้นทางการเงินที่เป็นบัญชีม้าอีกเกือบ 200,000 บาทที่โอนเข้าวัด และอีก 2 วันต่อมา มีบิ๊กตำรวจจัดงานทำบุญสร้างพระที่วัดแห่งนั้น ตนก็เข้าใจว่าบัญชีม้าที่วิ่งไปก็เกี่ยวข้องกับท่านและมีการโอนเข้าเครือญาติ ครอบครัวของท่าน

“จะบอกว่าไม่รู้ไม่เห็นได้อย่างไร เพราะบัญชีม้าพวกนี้ได้มาจากส่วยหรือเว็บการพนันอยู่แล้ว จะมีเหตุผลอะไรที่เงินจากบัญชีม้า หรือส่วยพวกนี้ถึงเข้าบัญชีท่าน อยากให้ออกมาพูดให้ชัดเจน
ว่ารู้จักกันหรือไม่ นอกจากนี้บัญชีม้ายังโอนให้ครอบครัวและตำรวจอีกหลายคน”

สำหรับเรื่องของการฟ้องร้อง ตนทำใจไว้อยู่แล้ว ไม่ว่าจะเป็นอิทธิพลมืด อะไรก็เตรียมใจไว้แล้ว ไม่ได้กังวลอะไร ตอนนี้ก็ระวังตัว แต่ยังไม่มีใครที่จะพูดหรือขู่ว่าจะมาทำร้ายอะไรตน ตอนนี้สู้กับคนระดับนี้ก็ต้องกลัวอยู่แล้ว อนาคตถ้าตนจะถูกลอบทำร้าย หรือจะมีอะไรเปลี่ยนแปลงไป เมื่อตนตัดสินใจแล้วตนก็ยอม และต้องบอกก่อนว่าตนก็ไม่ใช่คนดี ถ้าใครจะออกมาใช้อะไร หลังจากนี้ตนก็พร้อม ถ้าจะโดนเก็บ ในอนาคตก็เป็นเรื่องของโชคชะตา

“เรื่องที่มีการออกมาบอกว่าตนดิสเครดิต ผมไม่ได้มีปัญหาอะไรกับท่าน ไม่จำเป็นต้องดึงเครดิต แต่ถือว่าเป็นโอกาสดีของสังคมที่จะได้รับรู้เรื่องนี้”

ทนายตั้ม กล่าวต่อว่า สำนักงานตำรวจแห่งชาติเหมือนเป็นฝีเม็ดใหญ่ อยากให้ท่านนายกฯ เป็นแพทย์ใหญ่มาผ่าตัดออก โดยมีประชาชนทั้งประเทศรอดูอยู่ ซึ่งการผ่าตัดสำนักงานตำรวจแห่งชาติครั้งนี้ ถ้าท่านทำสำเร็จทุกคนจะต้องสรรเสริญท่านแน่นอน เพราะทุกรัฐบาลที่ผ่านมา ไม่มีใครปฏิรูปสำนักงานตำรวจแห่งชาติสำเร็จเลยในเรื่องของส่วย วันนี้เป็นโอกาสดีแล้วท่านจะบอกว่าไม่รับรู้ไม่เห็นอะไรไม่ได้แล้ว เพราะท่านเป็นผู้นำรัฐบาล แต่ถ้านายกไม่สนใจตนก็จะไปหาผู้นำฝ่ายค้าน

ความตั้งใจของตนในตอนนี้คือ อยากให้ตรวจสอบข้อมูลตรงนี้ก่อน ซึ่งตนก็ไม่รู้ว่าจะพึ่งใครได้ พรุ่งนี้ตนจะไปหาพล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผบช.ก. เพื่อยื่นหลักฐานไม่รู้ว่าถึงเวลาแล้วจะทำให้จริงหรือไม่ ตนจะนำหลักฐานเอกสารต่างๆ ไปให้ในวันพรุ่งนี้ ตนอยากให้มีการออกมา เพื่อตรวจสอบว่าได้รับเงินค่าอะไร แล้วรู้จักคนเหล่านี้หรือไม่

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน