คู่กรณี ‘วุ้นเส้น’ เปิดใจ ถูกทำร้ายเมื่อ 2 ปีก่อน ไม่รู้สาเหตุ-ไม่ขอโทษ ท้าฟ้อง จนป่วยซึมเศร้า

เมื่อเวลา 15.00 น. วันที่ 27 มี.ค.67 คุณวรัสชญาน์ วิสิทธิไกรฤิทธิ์ หรือ ปอย ผู้บริหารปอยพรินเซสคลินิก เปิดใจกับ ‘ข่าวสดออนไลน์’ หลังจากที่ถูก เจ๊วุ้นเส้น หนึ่งในกะเทยที่เปิดศึกกับกะเทยฟิลิปปินส์ที่ซอยสุขุมวิท 11 ทำร้ายร่างกายเมื่อ 2 ปีที่ผ่านมา โดยที่ไม่ทราบสาเหตุส่งผลให้กลายเป็นโรคซึมเศร้าจนถึงทุกวันนี้

คุณวรัสชญาน์ กล่าวว่า เหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อช่วงเดือน ธ.ค. เมื่อ 2 ปีที่ผ่านมา วันเกิดเหตุตนไปเป็นคณะกรรมการตัดสินนางงามที่ จ.สระบุรี เนื่องจากว่าปีนั้นตนเป็นสปอนเซอร์ ช่วงจังหวะที่ตนมอบรางวัลให้นางงามเสร็จแล้ว กำลังเดินลงมาจากเวทีเพื่อถ่ายรูปรวมคณะกรรมการ แต่จู่ๆ เจ๊วุ้นเส้นก็กระโดดเข้ามาทำร้ายร่างกาย โดยที่ก่อนหน้านี้ไม่เคยคุยหรือมีเรื่องบาดหมาง หรือว่ารู้จักกันเป็นการส่วนตัวมาก่อน เป็นการเจอกันครั้งแรกและถูกทำร้ายร่างกาย

ซึ่งตนมารู้จักเขาหลังจากที่ถูกทำร้ายร่างกายและไปออกรายการทีวีรายการนึงถึงรู้ว่าเขาชื่อวุ้นเส้น โดยในรายการก็ไม่เคยได้รับคำขอโทษหรือบอกสาเหตุว่ามันเกิดจากอะไรกันแน่ ในรายการตนได้ขอโทษอีกฝ่ายไปเพราะอยากให้เรื่องมันจบ ทั้งที่ตนไม่รู้ด้วยซ้ำว่าตัวเองทำผิดอะไร ตนไม่ได้อยากให้มันเป็นเรื่องราวหรือมีคดีความต่อกัน จึงพยายามไกล่เกลี่ย ในวันที่ไปออกรายการ ธงในใจของเราคือ ถ้าหากอีกฝ่ายสำนึกผิดและขอโทษ ตนจะให้อภัยเขาแต่วันนั้นเลย แต่ปรากฏว่าอีกฝ่ายท้า บอกว่าไม่ขอโทษ ถ้าอยากให้ขอโทษก็ไปฟ้องเอา ทำให้ตอนนี้เรื่องทั้งหมดก็อยู่ในกระบวนการของศาล

“ซึ่งเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมันได้รับบาดเจ็บทั้งร่างกายและจิตใจ คางแตก หัวโน เนื้อตัวบวมช้ำทั้งหมด ซึ่งแผลทางด้านร่างกายเพียงแค่แป๊บเดียวมันก็หาย แต่สภาพจิตใจของเรา ผ่านมา 2 ปีแล้ว ก็ยังรู้สึกระแวงกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เวลาที่เห็นรอยแผลเป็นบนหน้า ก็จะตั้งคำถามในใจมาว่า ตลอดระยะเวลา 2 ปีที่ผ่านมา เรายังไม่เคยได้รับคำตอบเลยว่า เราไปทำอะไรให้เขา ทำไมเขาต้องมาทำร้ายเราจนถึงขนาดนี้ ทำไมต้องมาเจอเหตุการณ์ที่เลวร้ายที่สุดในชีวิตด้วย มันทำให้เรากลายเป็นเป็นโรคซึมเศร้า ต้องปรึกษาหมอตลอด” คุณวรัสชญาน์ กล่าว

ที่ตนกลับมาโพสต์ข้อความนี้อีกครั้ง เพราะอยากจะให้อีกฝ่ายมาเห็น ว่าการกระทำของเขาที่เขาได้ทำต่อคนๆ หนึ่ง มันได้สร้างบาดแผลในใจ อย่างกรณีของตน อีกฝ่ายไม่ได้ดื่มเหล้าจนขาดสติเหมือนกรณีที่ไปต่อว่าคุณลำไย ซึ่งเป็นถึงนักร้องชื่อดัง เขาสามารถเข้ามาพูดคุยกับเราได้ ว่าไม่พอใจหรือไม่ชอบเขาตรงไหน แต่เขาเลือกที่จะไม่ทำ ทั้งนี้ ตอนที่เห็นคลิปตนก็ยังงงอยู่ว่าทำไมอีกฝ่ายถึงได้กล้าไปต่อว่าคุณลำไยได้

อย่างไรก็ตาม ตนไม่ได้โพสต์เพื่อต้องการมาแฉหรือมาสร้างกระแสในสังคม เพียงแต่อยากได้รับคำตอบเท่านั้น ว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อ 2 ปีที่แล้ว ตนทำอะไรผิด ทำไมถึงต้องมาทำร้ายร่างกายกันด้วย สุดท้ายนี้สำหรับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตนอยากจะขอขอบคุณทุกกำลังใจที่ส่งเข้ามา มันส่งผลต่อสภาพจิตใจของเรามาก มันทำให้เรามีอาการดีขึ้น

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน