แม่ค้าเดือด ด่าลั่นตลาด พระเก๊เดินเรี่ยไร ลั่นจำหน้าได้ เห็นคาตาเอาเงินชาวบ้านทำบุญ ไปแบ่งกัน จวกหน้าเดิมแต่เปลี่ยนชื่อวัด หากินง่ายแค่ใส่ผ้าเหลือง วอนหน่วยงานตรวจสอบ
จากกรณีผู้ใช้ติ๊กต็อก ดุษฎีวรรณ สาโรจน์ โพสต์คลิปขณะที่พระมาเรี่ยไรเงินชาวบ้านในตลาด พร้อมระบุแคปชั่นว่า “หากินง่าย ๆ แค่ใส่ผ้าเหลือง แล้วจะให้ใครศรัทธาได้ไง“ จนมีผู้คนเข้ามาวิพากษ์วิจารณ์เป็นจำนวนมาก ตามที่ปรากฏอยู่ในโลกโซเชียลนั้น
ล่าสุดวันที่ 29 เม.ย.2567 น.ส.ดุษฎีวรรณ เจ้าของคลิป เปิดใจกับ“ข่าวสดออนไลน์”ว่า วันเกิดเหตุตนไปขายของที่ตลาดนัดในอ.คลี จ.นครสวรรค์ ตนเห็นพระเดินเรี่ยไรเงิน ซึ่งปกติจะมีพระมาเดินเรี่ยไรเป็นประจำ ตนเห็นเป็นพระหน้าเดิมๆแต่เปลี่ยนชื่อวัดไปเรื่อย จึงสอบถามว่ามาจากวัดอะไร ก่อนทราบว่าคราวนี้มาจากวัดเขาสะพาน จ.ลพบุรี
ตนถามไปว่า“ทำไมถึงเดินทางมาไกลจัง พระเขาไม่ให้มาเรี่ยไรแบบนี้ไม่ใช่เหรอ” ซึ่งตลาดนัดดังกล่าวค่อนข้างใหญ่ จึงเหมือนเป็นการกดดันให้ชาวบ้านใส่ซองทำบุญ จากนั้นอีกฝ่ายก็โต้เถียงบอกว่ามีการทำหนังสือ ขออนุญาตจากหลวงพ่อแล้ว แต่ตนก็ไม่ทราบว่าหลวงพ่อไหน
แล้วเขาก็ชูหนังสือให้ตนดูแบบรีบๆแล้วเดินไปเรี่ยไรชาวบ้านในจุดอื่นต่อ ซึ่งชาวบ้านที่ไม่ได้ยิน ไม่รู้กฎหมาย ว่าการที่พระมาเดินเรี่ยไรเงินแบบนี้มันผิดวินัยสงฆ์ ก็ยังคงใส่ซองทำบุญกันต่อ นอกจากนี้ยังมากันเป็นทีมหลายคน อย่างไรก็ตามการเรี่ยไรเงินนั้น จะไม่ให้ข้ามเขตข้ามจังหวัดกัน
ถ้าจะข้ามก็ต้องมีการยื่นหนังสือเป็นลายลักษณ์อักษรจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ซึ่งกรณีนี้ถือว่าข้ามมาไกลเป็น 100 กิโลเมตร ตนคิดว่าเป็นพระปลอมแน่นอน เพราะว่าการที่มาเดินเรี่ยไรไกลขนาดนี้ ตรวจสอบไม่ได้ แถมเป็นวัดที่ชาวบ้านไม่รู้จักอีก ตนเคยมีประสบการณ์เคยถูกเรี่ยไรในลักษณะนี้ ทำบุญไป แต่พอช่วงสายๆ ตอนกลับเห็นว่าเขาไปแบ่งเงินกัน
ทั้งนี้ที่ตนนำคลิปมาลงโซเชียลเพื่ออยากเตือนสติชาวพุทธทุกคนว่ากลุ่มมิจฉาชีพแบบนี้จะใช้ความศรัทธาของคนมาหากิน ไม่ต้องลงทุนอะไรมาก ประกอบกับในช่วงเศรษฐกิจแบบนี้แล้วยิ่งหากินง่าย
ไม่อยากให้ศาสนาพุทธซึ่งเป็นศาสนาที่คนในประเทศส่วนใหญ่นับถือต้องเสื่อมถอยลงเพราะกลุ่มคนพวกนี้ที่เข้ามาทำลายพระพุทธศาสนา
อีกทั้งคนสมัยนี้เข้าวัดทำบุญน้อยอยู่แล้ว เนื่องจากปัญหาต่างๆที่ทำให้คนหมดศรัทธาในศาสนา ก็ไม่อยากให้มันเสื่อมถอยไปกว่านี้ นอกจากนี้ตนยังอยากวอนให้หน่วยงานและสถานที่ต่างๆที่เห็นกลุ่มคนเหล่านี้ตรวจสอบ และให้สันนิษฐานเอาไว้ก่อนเลยว่าเป็นมิจฉาชีพ
“อยากจะฝากบอกกลุ่มคนเหล่านี้ว่าให้ไปทำอย่างอื่นเถอะ อาชีพมากมายที่เป็นช่องทางหากินได้อย่างสุจริต ไม่อยากให้ทำแบบนี้ เพราะสิ่งที่คนทำบุญไปแล้วเขานำไปทำบุญจริงๆก็ถือว่าเป็นการสร้างบุญสร้างกุศล แต่ถ้าหากว่าไม่ใช่ ก็จะทำให้ความศรัทธาของชาวบ้านมันลดลงไปเรื่อยๆ” น.ส.ดุษฎีวรรณ กล่าว