โหนกระแสวันนี้เป็นเรื่องราวหวยอลเวงที่ยังไม่จบ ล่าสุด “นายษิทรา เบี้ยบังเกิด” หรือ “ทนายตั้ม” ทนายความ “ร.ต.ท.จรูญ วิมูล” คดีหวย 30 ล้าน ออกมาโพสต์เฟซบุ๊กว่า “เมื่อนายแผนเปิดหน้าชกผมและคุณลุงก็ต้องบอกเลยว่าไม่มีปัญหาครับ เรื่องที่นายแผนจะไปร้องเรียนสภาทนายความหรือไปแจ้งความอะไรนั้นก็เชิญเลยครับ ผมแค่บอกว่านายแผนเคยไปบ้านคุณลุงมาก่อนถ้าไม่เคยไปก็ปฏิเสธมาเลยครับ” ซึ่ง ”หนุ่ม กรรชัย กำเนิดพลอย” ในฐานะผู้ดำเนินรายการ ผลิตในนามบริษัท ดีคืนดีวัน จำกัด ออกอากาศทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 17.20 น. ทาง 28 ได้เปิดใจทนายตั้มถึงเหตุการณ์ที่มันบานปลาย ล่าสุดถูกร้องสภาทนายความในเรื่องของมารยาทในการทำงานอีกด้วย

ตอนนี้เรื่องไปใหญ่โตมาก?
ทนายตั้ม “ผมว่าอันนี้น่าจะเป็นสุดท้ายแล้ว ถ้าผ่านจุดนี้ไปได้ก็น่าจะจบแล้ว ไม่ว่าจะเป็นตัวละครที่มาตั้งแต่ต้น มีพยานต่างๆ ทางครู จนมีดร. คนนึงมา มีผู้หญิงคนนึงมา ก็กระเด็นกระดอนไปหมดแล้ว ทนาย ดช จนเมื่อวานมีใครไม่รู้มานั่งในรายการอีก ผมว่าน่าจะเป็นเซ็ตสุดท้ายแล้ว”

วันนี้นายแผนเดินทางไปสภาทนายความ ไปร้องเรื่องราวมารยาททนายท่านหนึ่ง ชาวบ้านมุ่งมาที่ทนายตั้ม?
ทนายตั้ม “ต้องถามว่าไปร้องผม แล้วผมผิดอะไร จะบอกว่าใส่เสื้อยืด แล้วผิดเหรอ การที่เราใส่เสื้อยืด ก็แค่เราอยากใกล้ชิดชาวบ้าน ชาวบ้านเขาจะได้มาปรึกษาโดยไม่ต้องกลัว ไม่ต้องใสสูทหล่อๆ เท่ๆ เหมือนคนอื่นเขา แล้วผมว่าไอ้ตรงนี้เราทำในสิ่งที่ดี ไม่จำเป็นต้องกังวลอะไรกับแค่เรื่องเสื้อ ตลกมาก ส่วนเรื่องข้อบังคับของสภาทนายความ ผมก็รู้อยู่แล้วครับ ว่าเขาสามารถทำได้ทั้งสามอย่าง แต่ต้องถามว่าแล้วผมทำผิดหรือเปล่าล่ะ ถ้าผมทำผิดก็จัดการไปเลย ผมเคยไปอวดอ้างว่าเก่งกว่าทนายคนอื่นหรือเปล่า ถ้าอย่างนี้ผิดแน่นอน มาอวดอ้างว่าตัวเองเก่งกว่าคนอื่นเขา แล้วดูทุกรายการ ผมไม่เคยพูดเลย จะมีก็แต่เรื่องเสื้อ ซึ่งมันดูเด็ก ไร้สาระ เอาจริงๆ”

ไม่น่าเอามาเป็นประเด็น?
ทนายตั้ม “ถามว่าใส่เสื้อยืดตัวนี้ มันช่วยเหลือประชาชนได้มากกว่าไอ้คนที่ใส่สูทแล้วนั่งเก๊กในตึกนะครับ ทำมาแอ็กโชว์นักข่าว แหม มันน่าโมโหมั้ย ผมอยู่ของผมดีๆ มาจัดฉากนั่งอยู่ด้วยกัน แบบนี้เตี๊ยมกันมาหรือเปล่า ใครนั่งแถลงข่าวด้วยกัน เตี๊ยมกันหรือเปล่า จะให้ผมออกจากทนายความ”

นายแผนอ้างว่าท่านฐิติราชแนะนำเขาให้การอีกอย่าง ซึ่งไม่ตรงกับภาค7?
ทนายตั้ม “แบบนี้เข้าข่ายดูหมิ่นเจ้าพนักงานนะครับ การที่เขาให้การที่หนึ่งแบบหนึ่ง ที่หนึ่งแบบหนึ่ง แล้วเหมือนกับให้สัมภาษณ์สื่อที่มันไม่ตรงเลยสักครั้ง ผมจะบอกว่าเวลาขึ้นศาล พยานพวกนี้ไม่ได้มีสาระสำคัญในคดีเลย ไม่ใช่จุดสาระสำคัญที่จะให้ศาลตัดสินเลยเพราะตัวเขาบอกว่าจำไม่ได้ แล้วมาวันที่เท่าไหร่ไมรู้ ตัดไปได้เลย ไม่ได้มีส่วนสำคัญในคดีเลย แต่ตัวเองทำเหมือนอยากมีส่วนสำคัญ ออกมาก็ต้องการให้กระแสพลิกไปทางฝ่ายเขา แต่ถามว่าเอาคนที่เป็นนักกฎหมายนะครับ ดูก็รู้แล้วว่าถ้าคนนี้ไปเบิกความในศาลไม่มีความน่าเชื่อถือ และไม่ใช่สาระสำคัญในคดีเลย”

ประเด็นที่เขาพูดมา เขาบอกว่าไปบอกเขาดูหมิ่นดูยังไง เขาบอกว่าท่านฐิติราชแนะนำ?
ทนายตั้ม “ต้องไปดูที่เขาให้สัมภาษณ์สื่อว่ามีความผิดหรือเปล่า ผมคิดว่าถ้ามีความผิดเดี๋ยวทางตำรวจต้องดำเนินการอยู่แล้วแหละ ต้องดูด้วยว่าเขาพูดยังไง ถ้าบอกเขาแนะนำก็อาจจะรอด แต่ถ้าไปบอกว่าข่มขู่เขาให้เกิดความกลัวอาจดูหมิ่นเจ้าหน้าที่ได้”

อยากให้ทนายตั้มเล่าให้ฟังหน่อย ลองไล่ให้ฟังหน่อย พยานนายแผนที่มาที่ไปคืออะไรกันแน่?
ทนายตั้ม “นายแผนต้องบอกก่อนเลยว่า ตั้งแต่ตอนอยู่ที่สำนวนอยู่กาญจนบุรี ไม่ได้มีความเกี่ยวข้องอะไรเลย ไม่ได้เข้ามาในสำนวน แต่มาโผล่ตอนที่ทราบจากสื่อมวลชนนี่แหละตอนที่ภาคเจ็ดแถลง ทราบว่ามีพยานใหม่มา และพยานใหม่คนนี้เห็นคุณลุงก้มเก็บ ตอนนั้นภาคเจ็ดแถลงใช้คำนี้ ทางผู้บัญชาการภาคเจ็ด ท่านรองภาคเจ็ดใช้คำนี้เลยว่าพยานคนใหม่เห็นคุณลุงก้มเก็บล็อตเตอรี่ได้และยืนยันว่าเป็นคุณลุง และยืนยันว่าเป็นวันที่ 31 ตอนนั้นสื่อพยายามไปหาว่านายแผนคือใคร มาได้ไง ทางภาคเจ็ดเขาก็แถลงนะครับว่าที่มาเพราะตำรวจไปเสาะหาเอาเองจนเจอนายแผน เลยให้มาเป็นพยาน ตอนหลังนายแผนให้สัมภาษณ์กับสื่อ ตอนั้นไม่เปิดเผยหน้า ให้เอากล้องถ่ายไปที่เท้าแล้วก็พูดว่าภาคเจ็ดไม่ให้การแบบนั้น ผิดกันยังไงก็ไม่รู้ ก็ให้สัมภาษณ์กองปราบอีกแบบหนึ่ง

ตอนหลังมีเปิดหน้าแต่คาดผ้าเพื่อไม่ให้คนจำหน้าได้ ตอนนั้นเราก็ไม่รู้ว่านายแผนคือใคร เราก็ไม่รู้ เมื่อวานคุณลุงให้สัมภาษณ์ตอนเช้า ยังไม่รู้เลยว่านายแผนคือใคร แต่พอตอนบ่าย นายคนนี้ไปกองปราบแล้วเปิดหน้าหมดเลย ให้สัมภาษณ์ คุณลุงเลยจำได้ ว่านายคนนี้เคยมาบ้านคุณลุงเมื่อวันที่ 1 ธ.ค. ที่จำได้เพราะวันนั้นมีผู้จัดการธนาคาร รองผู้จัดการธนาคารและนายแผน ตัวเจ้าหน้าที่อีกคนหนึ่ง สี่คนนี้มาหาคุณลุงเพราะตอนนั้นมีเรื่องการอายัดเงิน ทางคุณลุงไม่รู้จะปรึกษาใคร ผู้จัดการธนาคารเลยบอกว่าให้มาหาทนายตั้ม เขาช่วยได้ เขาเลยมาหาที่บ้านคุณลุงกัน นั่งคุยกัน 1 ชม. ที่บ้านคุณลุง ทีนี้นายแผนมาให้สัมภาษณ์สื่อว่าไม่เคยรู้เรื่องมาก่อน ไม่เคยได้ยินเรื่องหวย 30 ล้าน ไม่เคยเจอคุณลุงมาก่อน ทั้งที่ไปบ้านคุณลุงมา เรื่องนี้ผมรู้สึกว่ามันไม่ตรงกับความเป็นจริง เมื่อวานผมเลยเปิดเรื่องนี้ไป ตอนนี้เขาน่าจะได้ยอมรับแล้วแหละว่าเขาได้ไปบ้านคุณลุงจริง”

เขาบอกว่าทำไมไปพูดอย่างนั้น คนเราจำเป็นด้วยเหรอ ไปบ้านแล้วต้องรู้จักกัน เขาเป็นพนักงานขับรถธนาคารแห่งหนึ่ง วันนั้นเขาไปกับคนที่ทำงานเขา ไปนั่งพูดคุยกับลุงจรูญ?
ทนายตั้ม “ผมคุยกับทางผู้จัดการธนาคารแล้ว เขาบอกว่าระหว่างทางก็มีการคุยกันถึงเรื่องนี้ เรื่องที่คุณลุงถูกอายัดเงิน ตอนลงไปก็ลงทั้งหมด และนั่งอยู่ในบ้านทั้งหมด ก็ถามกันว่าจะทำยังไง ทางผู้จัดการเขาก็หวังดีอยากจะช่วยคุณลุง เขาเลยพยายามแนะนำทนายให้ แล้วจะบอกว่าไม่รู้จำไม่ได้ มันก็ไม่ใช่”

เขาได้รับฟังมาตั้งแต่แรกในรถ?
ทนายตั้ม “มันไม่ใช่แล้ว มันโป๊ะแตกเรื่องนี้”

เคยได้ยินดร.สุกิจ หรืออ.สุกิจมาก่อนมั้ย?
ทนายตั้ม “ไม่เคยได้ยินมาก่อนเลย แต่เพิ่งจะมารับรู้เมื่อวันสองวันนี่เอง”

มีส่วนไปพัวพันหรือพูดถึงเขามั้ย ว่ามีคนอยู่เบื้องหลัง?
ทนายตั้ม “อันนี้คงไม่ใช่ผมแล้วล่ะครับที่จะไปพูดถึงเขา เพราะว่าผมไม่ได้รู้จัก และไม่ได้ใส่ใจคนนี้มาก่อนเลย เขาจะมาให้ความเห็นทางกฎหมายอะไร ผมดูแล้วตลก บางทีไม่ได้อ่าน ไม่ได้สนใจ แต่ผมได้ยินมาเมื่อไม่นาน มีคนมาบอกว่ามีคนอยู่คนหนึ่ง พูดง่ายๆ เหมือนเป็นมาเฟียหน่อย มาขู่ผม ว่าทนายตั้มเนี่ยเหรอ แค่ 5 พันก็ยิงกบาลได้แล้ว บอกว่าจะมาทำร้ายผม มีค่าหัวแค่ 5 พันบาท จะมาเฟียยังไง ก็เอาเถอะ ผมไม่ได้สนใจอยู่แล้ว”

ทนายตั้มเองก็คงเคยได้ยินว่ามีผู้อยู่เบื้องหลังหวย 30 ล้านคดีครูปรีชา?
ทนายตั้ม “มีครับ มันก็มีกุนซือหลายคน แล้วคนที่เสนอตัวอยากเป็นทนาย แต่ฝ่ายโน้นไม่เอา ทนาย ดช. อยากเป็นทนายมากแล้วแต่ทางนั้นก็ไม่จ้างซักที ไปจ้างใครก็ไม่รู้ ถอนตัวไปคนหนึ่ง อีกคนอยู่ที่กาญจน์ คนที่เป็นกุนซือทำเรื่องร้องเรียนไปทั่วก็มีอยู่ ทนายมาเฟีย ผมบอกเลย คนนี้ถูกถอนใบอนุญาตซ้ำแล้วซ้ำเล่า หลายครั้งแล้ว ผมไม่แน่ใจว่าตอนนี้เขายังเป็นทนายหรือเปล่าเพราะเท่าที่รู้มา เขาถูกถอนใบอนุญาตไปหลายครั้ง ไม่ใช่ครั้งเดียว ทนายมาเฟียคนนี้เขาเป็นคนวางแผน ให้ร้ายทางตำรวจกองปราบ มีอยู่ครั้งหนึ่งเขาโทร.ไปขอนายตำรวจชั้นผู้ใหญ่คนหนึ่งในกองปราบว่าอย่าไปออกหมายจับพวกนี้เลย ตอนแรกโดนไปสองคน เขาก็เลยโดนสวนกลับมาว่าแล้วคุณเป็นใคร มีอำนาจอะไรมาสั่งผม ตัวเองมีพาวเวอร์ เป็นมาเฟียมาก โทร.ไปหาผู้ใหญ่ในกองปราบแล้วโดนเขาด่ากลับมา แล้วคนนี้เป็นคนที่วางแผนในเรื่องดาร์กๆ ทั้งหลาย ทำเรื่องไปขอความเป็นธรรมที่โน่นที่นี่ ไปร้องนายกฯ ไปร่างหนังสือมาแล้วก็มาปฏิเสธว่าตัวเองไม่ได้ทำ แล้วเป็นคนที่อยู่เบื้องหลังอยากให้ผมถูกถอนใบอนุญาต ไอ้คนนี้แหละเพราะเขาบอกว่าคนอย่างผมถ้าเป็นทนายต่อไปพวกเขาจะลำบาก พยายามทำยังไงก็ได้ให้ผมไม่ได้เป็นทนาย ไม่ให้รับใช้ประชาชน”

เรื่องหวย 30 ล้าน มันกลายเป็นหนังใหญ่มากเลยนะ?
ทนายตั้ม “ถ้าไม่มีผมซักคนในคดีนี้ คุณลุงจะเหลือใคร เพราะตอนนี้คนที่ออกมาสู้นอกจากผม คนที่ออกหน้ามีแค่ผม กับคุณอัจฉริยะ แค่ 2 คน แต่คุณอัจฉริยะเขาไม่ใช่ทนายความอยู่แล้ว แต่เขาก็ช่วยในเรื่องข้อมูล”

ประเด็นข้องใจ ทางฝั่งนั้นจะได้อะไรจากคดีหวย 30 ล้านบาท?
ทนายตั้ม “ผมคิดว่าต้องมีผลประโยชน์ ถ้าไม่มีผลประโยชน์ เขาคงจะไม่ทำขนาดนี้ พวกกุนซือทั้งหลาย อย่างที่สองเขาอาจจะหมั่นไส้ผม เหมือนเป็นเด็กรุ่นใหม่และขึ้นมาไว ไฟแรง ขึ้นมาก็อยากจะถีบให้ลงไปอยู่ข้างล่างให้ได้”

ประเด็นคุณกุ้ง ดุษฎีใส่ชุดไทยสีเหลือง ทางคุณสุกิจไม่เชื่อว่าจะใส่วันที่ 27 เพราะยังเป็นวันไว้ทุกข์พ่อหลวง อีกอย่างคุณกุ้งเป็นข้าราชการจะใส่ในวันไว้ทุกข์พ่อหลวงได้ยังไง ?
ทนายตั้ม “อันนั้นผมก็ไม่ทราบหรอกนะครับ ว่าคนที่ไปเดินวันนั้นเขาจะใส่ชุดไหนอะไรยังไง จริงๆ ไม่อยากให้ไปสนใจประเด็นนี้ อยากให้สนใจประเด็นที่ว่าทางคนชื่อกุ้งเขาได้ไปตลาดเมื่อวันที่ 31 หรือเปล่าแค่นั้นเองไปแล้วได้เห็นหรือเปล่า ทางกองปราบผมก็เข้าใจว่าเขามีหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ คือสัญญาณโทรศัพท์ ว่าเขาได้ไปวันที่ 27 หรือวันที่ 31 กันแน่ ฉะนั้นเรื่องเสื้อผมว่ามันไม่ใช่สาระสำคัญ เอาตัวเขาดีกว่า ว่าตัวเขาได้ไปมั้ย วันไหน สำคัญกว่า”

เรื่องสัญญาณโทรศัพท์ อ.สุกิจสวนอีกแล้ว ว่าเอาไปวัดกันมั้ยว่าจะไม่มีได้ยังไงในเมื่อบ้านครูปรีชาไม่ได้ไกลตลาด เสาก็เสาต้นเดียวกัน?
ทนายตั้ม “อันนั้นก็ต้องไปถามทางกองปราบว่าเขาเช็กสัญญาณโทรศัพท์ได้ละเอียดแค่ไหน ถ้าเกิดที่เห็นมี ดร.คนหนึ่งขับรถแล้วไปยืนมองเสา ผมว่ามันก็ไม่ใช่แล้ว ดร.มโน ฮับราฮัมลินคอน เขาคนนี้มองเห็นเหรอ มันมีวิธีของเขา เรื่องวิทยาศาสตร์ผมก็ไม่รู้ แต่เขาสามารถบอกจุดได้ว่าอยู่ตรงไหน ประมาณไหน ยังไง ถึงแม้ไม่แม่นยำแบบจีพีเอส แต่ผมเคยทำคดี เขาก็บอกได้ว่าอยู่ตรงเส้นไหน ตำบลอะไร จะมาบอกได้เป็นช่วงๆ ที่ใช้โทรศัพท์เลย แต่ไปมองด้วยตาเปล่า ตลก”

มีการไปร้องสภาทนายความ แล้วเขาจะแจ้งความทนายตั้มด้วย?
ทนายตั้ม “แจ้งสิ แจ้งข้อหาอะไร เมื่อวานผมไปออกรายการ ถ้าเกิดมีคำไหนที่ผมหมิ่นประมาทออกรายการ คุณก็สามารถดำเนินคดีได้เลย ผมก็จะยอมเลย ถ้าผมไปหมิ่นคุณจริงๆ แต่ถ้าผมไม่ได้หมิ่นคุณและคุณมาแจ้งเท็จเนี่ย คุณก็ต้องเตรียมตัวรับผลของคุณด้วย”

คุณแผนบอกว่าทางทนายตั้มพูดพาดพิงถึงเขาว่าเขาไปเอ่ยว่าทางท่านฐิติราชไปข่มขู่ เขาไม่เคยพูดเลย ไปพูด ไปขุดคุ้ยทำให้เขาได้รับความเสียหาย?
ทนายตั้ม “ให้เป็นไปตามกฎหมายแล้วกันนะครับ ถ้าผมไปพูดหมิ่นประมาทเขา เขาก็มีสิทธิ์แจ้งความดำเนินคดี แต่ก็อย่างที่ผมบอก ถ้าผมไม่หมิ่นเขา แล้วผมบอกว่าชื่อแผน แผนไหนล่ะ ชื่อจริงชื่ออะไรล่ะ ผมบอกแค่ชื่อนายแผน ไม่ได้บอกชื่อนามสกุลและไม่มีหน้ามาโชว์ คุณก็ไปแจ้งความเอาล่ะกัน เอาให้ได้ล่ะกัน”

เครียดมั้ย?
ทนายตั้ม “มีเรื่องหนักใจ จริงๆ มีเรื่องก่อนมาออกรายการด้วยนะ ผมไม่อยากมาออกรายการ มีหลายอย่างต้องคิดอยู่ ก็เรื่องนี้แหละ ไปร้องผมต่อสภาทนายความ รู้สึกเครียดเหมือนกันนะว่า ถ้าร้องธรรมดา แต่ทำไมคุณต้องตั้งโต๊ะเหมือนกับคุยกันมาแล้ว อะไรหรือเปล่า เอาผู้เสียหายมานั่งแล้วมาด่าผมปาวๆ แล้วบอกว่าเวลาทำคดีต้องให้ศาลตัดสินก่อนอย่าเพิ่งไปตัดสิน แต่คุณมานั่งด่าผมเรียบร้อยแล้ว คืออุปนายกคนนี้เขาดูแลกำกับเรื่องมารยาทจริง แต่ว่าเขาไม่มีอำนาจและเกี่ยวข้องกับคดีมารยาทเลย คนที่มีอำนาจคือกรรมการมารยาท แต่อุปนายกคนนี้ผมเข้าใจ คงอยากออกสื่อ”

ไม่กลัวเขาบอกว่าพาดพิง?
ทนายตั้ม “ถ้าเสียหายก็ฟ้องมาสิ”

 

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน