ระทึก! เพลิงไหม้รถสปอร์ตหรูปอร์เช่ ปลั๊ก -อินไฮบริด มูลค่า10 ล้านก่อนลามติดบ้านนักธุรกิจพันล้าน ทายาทชุดนักเรียนตราสมอ ที่ย่านตลิ่งชัน โชคยังดีดับเพลิงดับได้ทัน เสียหายแค่ห้องนั่งเล่น ขณะที่รถหรูถูกไฟเผาวอดไปเกือบทั้งคัน นักธุรกิจหนุ่มให้การเป็นรถของแม่ ขับมาจอดตั้งแต่ เมื่อคืน จากนั้นก็เสียบปลั๊กชาร์จ โดยลากสายไฟมาจากห้องนั่งเล่น พอตอนเช้าได้ยินเสียงระเบิด ลงมาดูเห็นไฟลุกที่เก็บแบตฯท้ายรถ และลามตามสายไฟเข้าไปที่ตัวบ้าน เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างประสานผู้เชี่ยวชาญมาตรวจสอบหาสาเหตุ

เมื่อเวลา 06.30 น. ร.ต.อ.วนิชกร ศักดิ์แสง รอง สว.(สอบสวน) สน.ตลิ่งชัน รับแจ้งเหตุเพลิงไหม้รถยนต์ แล้วลุกลามไปยังตัวบ้าน เหตุเกิดภายในบ้านเลขที่ 1/48 หมู่บ้านริมธาร ถ.บรมราชชนนี ซ.บรมราชชนนี 55 แขวงและเขตตลิ่งชัน กทม. จึงรายงานผู้บังคับบัญชาทราบ ก่อนรุดไปตรวจสอบ พร้อมด้วยรถดับเพลิง 3 คัน

ที่เกิดเหตุเป็นบ้านเดี่ยว 3 ชั้น ทรงยุโรป มูลค่ากว่า 70 ล้านบาท ปลูกอย่างหรูหราในเนื้อที่ 200 ตร.ว. มีรั้วรอบขอบชิด โดยเพลิงเริ่มลุกไหม้จากบริเวณช่วงท้ายของตัวรถเก๋งหรูยี่ห้อปอร์เช่ รุ่นพานาเมร่า 4 อี-ไฮบริด สีขาว ทะเบียนป้ายแดง ข 8888 กรุงเทพมหานคร ก่อนจะลุกลามเข้าตัวบ้านบริเวณห้องนั่งเล่น ที่มีชุดโฮมเธียเตอร์ชุดใหญ่อย่างรวดเร็ว เจ้าหน้าที่ใช้น้ำฉีดสกัดเพลิงกว่า 30 นาทีเพลิงจึงสงบ โดยเพลิงได้เผาผลาญรถปอร์เช่เสียหายเกือบทั้งคัน และไหม้ห้องนั่งเล่นหมดทั้งห้อง ค่าเสียหายเฉพาะตัวบ้านกว่า 6 ล้านบาท ตรวจสอบเบื้องต้นพบสายชาร์จถูกโยงจากตัว รถเข้าไปเสียบคาอยู่ที่ปลั๊กในห้องนั่งเล่น เจ้าหน้าที่จึงได้แจ้งกองพิสูจน์หลักฐานมาตรวจสอบหาสาเหตุของเพลิงไหม้

จากการสอบสวนนายณัฐวุฒิ กริตยอานนท์ อายุ 33 ปี หรือกอล์ฟ นักธุรกิจพันล้าน ทายาทธุรกิจชุดนักเรียนตราสมอ ให้การว่า รถปอร์เช่คันที่เกิดเหตุเป็นของนางศิริพร กริตยอานนท์ อายุ 61 ปี มารดา ที่ซื้อมาเมื่อเดือนก.ย.ปี “60 ในราคาราว 10 ล้านบาท ก่อนเกิดเหตุแม่ตนขับรถไปทำธุระนอกบ้านและกลับเข้ามาที่บ้านช่วงประมาณ 22.00 น. ของวันที่ 15 มี.ค. เมื่อกลับมาถึงก็เอาชุดปลั๊กเสียบเข้าที่แบตเตอรี่ช่วงท้ายรถ แล้วลากหัวชาร์จเข้ามาเสียบที่ปลั๊กไฟในห้องนั่งเล่น ซึ่งก็เป็นการทำแบบปกติทุกวัน พอถึงเช้าก็จะ ถอดปลั๊กออก แต่ครั้งนี้ช่วงเวลาประมาณ 06.00 น. ในขณะที่ทุกคนในบ้านกำลังนอนอยู่ได้ยินเสียงระเบิดดังขึ้นที่โรงจอดรถ จึงรีบลงมาดูพบว่าเพลิงกำลังลุกไหม้ช่วงท้ายของรถปอร์เช่ซึ่งเป็นที่เก็บแบตเตอรี่ แล้วไฟได้ลุกลามเข้ามาตามสายชาร์จเข้าห้องนั่งเล่นอย่างรวดเร็ว เกินกว่าที่จะดับได้ จึงแจ้งตำรวจและดับเพลิงมาช่วยเหลือดังกล่าว สำหรับรถคันนี้ได้ทำประกันชั้น 1 ไว้กับบริษัท ประกันภัยไทยวิวัฒน์ จำกัด จ่ายเบี้ยประกันปีละกว่าแสนบาท

ด้านร.ต.อ.วนิชกรเปิดเผยว่า จากการสอบสวนคนอยู่ในบ้านให้การตรงกันว่าเพลิงเริ่มลุกไหม้จากตัวรถ และลุกลามตามสายชาร์จแบตเตอรี่เข้าไปที่ตัวบ้านจนเกิดความเสียหาย อย่างไรก็ตามตนได้ประสานเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐานมาร่วมตรวจสอบหาสาเหตุของเพลิงไหม้ครั้งนี้แล้ว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับรถปอร์เช่ รุ่นพานาเมร่า 4 อี-ไฮบริด คันดังกล่าว เป็นรถประเภทปลั๊ก-อินไฮบริด ซึ่งทางเจ้าของรถซื้อมาจากผู้นำเข้ารายย่อย หรือเกรย์มาร์เก็ต ซึ่งจะต้องให้ผู้เชี่ยวชาญตรวจสอบอุปกรณ์วอลล์บ็อกซ์ที่ใช้สำหรับชาร์จแบตเตอรี่ ว่าได้รับการติดตั้งได้มาตรฐานหรือไม่ เนื่องจากอุปกรณ์ดังกล่าวต้องใช้ไฟฟ้า 3 เฟส และต้องมีผู้เชี่ยวชาญเป็นผู้ดำเนินการติดตั้งให้จึงจะปลอดภัย

วันเดียวกัน นายจีรพันธ์ อัศวะธนกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ.ประกันภัยไทยวิวัฒน์ เปิดเผยถึงกรณีดังกล่าวว่า หากเป็นไปตามเงื่อนไขกรมธรรม์ที่ทำไว้ บริษัทก็พร้อมที่จะดำเนินการรับผิดชอบ ซึ่งเป็นไปตามการกำกับดูแลของสำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) ที่กำหนดไว้อยู่แล้ว “ต้องดูการทำกรมธรรม์และเงื่อนไขกำหนดไว้เป็นหลัก ว่าคุ้มครองตัวรถยนต์ และกรณีไฟไหม้หรือไม่ หากคุ้มครองก็พร้อมที่จะดำเนินการ แต่หากไม่ตรงตามเงื่อนไขที่กรมธรรม์กำหนดก็ต้องดำเนินการตามระเบียบและหลักเกณฑ์ที่มีอยู่ เบื้องต้นจากที่ผู้เสียหายแจ้งว่าทำประกันภัยปีละแสนบาท ก็อาจจะเป็นการคุ้มครองตัวรถยนต์ หรือไฟไหม้ ซึ่งบริษัทพร้อมที่จะรับผิดชอบ” นายจีรพันธ์กล่าว

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน