ญาติเผาศพ “สันติ ดวงสว่าง” นักร้องลูกทุ่งชื่อดัง ที่พิจิตร บ้านเกิด พี่สาวเผยหลังสวด ครบ 5 วัน ที่วัดมูลจินดาราม จ.ปทุมธานี จะย้าย ไปตั้งสวดต่ออีก 4 วันที่วัดท่าค้อ ก่อนพิธีฌาปนกิจ เปิดปูมชีวิต เจ้าพ่อเพลงหวาน มีลูกสาว 1 คน เรียนอยู่ปี 4 มหาวิทยาลัยย่านฝั่งธนบุรี ส่วนภรรยาเลิกรากันไปตั้งแต่ลูกอายุแค่ 3 ขวบ นิสัยเป็นคนร่าเริงสนุกสนาน เป็นที่รักของครอบครัว แต่ดื้อเรื่องการดูแลรักษาตัวเอง ไม่ค่อยกินยา พร้อมขอบคุณแฟนเพลง และทุกๆ คนที่ให้ความรัก ความเมตตา น้องชาย

จากกรณีนักร้องลูกทุ่งชื่อดัง “สันติ ดวงสว่าง” หรือนายจเร ภู่ทอง อายุ 48 ปี เจ้าของฉายาเจ้าพ่อเพลงหวาน สร้างชื่อในเพลงจูบไม่หวาน มีอาการเหนื่อยหอบและช็อกหมดสติจากโรคเบาหวานและโรคไตกำเริบ ถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลช่วงปลายเดือนต.ค.ที่ผ่านมา และนอนรักษาตัวอยู่ที่ห้องไอซียู ร.พ.สมเด็จพระพุทธเลิศหล้า จ.สมุทรสงคราม ก่อนอาการทรุดหนัก เส้นเลือดบริเวณโพรงสมองส่วนกลางแตก เลือดซึมกระจายไปทั่วสมองจนทำให้สมองหยุดทำงานและเสียชีวิตอย่างสงบ เมื่อเวลา 09.55 น. วันที่ 4 พ.ย.ที่ผ่านมา ท่ามกลางความเสียใจของครอบครัว ก่อนเคลื่อนศพไปทำพิธีทางศาสนาที่วัดมูลจินดาราม ต.บึงยี่โถ อ.ธัญบุรี จ.ปทุมธานี โดยมีบุคคลในวงการเพลงลูกทุ่งและแฟนเพลงเดินทางมาร่วมพิธีรดน้ำศพและสวดพระอภิธรรมจำนวนมาก

ความคืบหน้าเมื่อวันที่ 5 พ.ย. ที่ศาลา 3 วัดมูลจินดาราม ต.บึงยี่โถ อ.ธัญบุรี จ.ปทุม ธานี สถานที่สวดพระอภิธรรมศพ สันติ ดวงสว่าง หรือนายจเร ภู่ทอง อายุ 48 ปี มีญาติ พี่น้องนักร้องลูกทุ่งชื่อดัง พร้อมแฟนเพลงทยอยเดินทางกันมากราบศพตลอดทั้งวัน โดยมีนายสมบุญสม พุ่มพฤกษ์ อายุ 55 ปี พี่ชายคนโต นางกำไร พุ่มพฤกษ์ อายุ 47 ปี พี่สะใภ้ และนางอาพร ภู่ทอง อายุ 51 ปี พี่สาวคนที่ 3 คอยให้การต้อนรับ

นางอาพรเปิดเผยว่า ขอบคุณทุกๆ คนที่ให้ความรักและเมตตากับน้องชาย ซึ่งพวกเรา พี่น้องทุกคนยังเศร้าโศกและเสียใจอยู่ แต่อย่างไรก็ตามมนุษย์ทุกคนที่เกิดมาต้อง มีเกิด ตั้งอยู่และก็ดับไป เป็นธรรมชาติของมนุษย์ทุกคนที่หนีไม่พ้น ตนมาตั้งหลักเปิดร้านอาหารอยู่ที่แม่กลองนานแล้ว ซึ่งน้องชายก็มาช่วยกันอยู่ตลอดเป็นร้านครอบครัวของพี่น้องเรา ซึ่งก็ไม่ได้ขัดสนอะไรพอมีพอกิน

“เมื่อ 10 กว่าปีที่แล้ว คุณสันติเคยประสบอุบัติเหตุ เนื่องจากการพักผ่อนไม่เพียงพอและพบว่าเป็นโรคเบาหวาน แต่จะไม่ค่อยได้สนใจดูแลรักษาตัวเองสักเท่าไหร่ เป็นคนที่ดื้อนิดหน่อยไม่ค่อยกินยา จึงทำให้ร่างกายทรุดอย่างรวดเร็ว ครั้งล่าสุดก่อนที่จะเสียชีวิตเมื่อวันที่ 21 ต.ค.ที่ผ่านมา น้องชายกับตนได้ไปทำธุระที่จ.บุรีรัมย์ และเกิดอาการป่วยกำเริบอย่างกะทันหันต้องเข้ารักษาตัวที่ร.พ.หนองกี่ แล้วถูกส่งต่อไปที่ร.พ.บุรีรัมย์ หมอบอกว่ามีอาการของตับวาย ไตวาย และน้ำท่วมปอด รักษาอยู่ถึงวันที่ 31 ต.ค. จากนั้นวันที่ 1 พ.ย. ญาติๆ ได้ขอย้ายไปร.พ.แม่กลอง ซึ่งน้องชายบอกกับตนว่าอยากจะกลับบ้าน คิดถึงบ้าน และคิดถึงแม่ อยากนอน ขอนอนนะ แล้วก็หมดสติไป และกลับมาฟื้นตัวอีกครั้ง คุณหมอท่านก็ดูแลอย่างเต็มที่ แต่สุดท้ายน้องชายก็ต้องจากไปจริงๆ” พี่สาวนักร้องดังเผย

นางอาพรกล่าวต่อว่า น้องชายมีภรรยาและมีบุตรสาว 1 คน แต่ภรรยาเขาได้เลิกร้างกันไปเมื่อบุตรสาวอายุได้ประมาณ 3 ขวบ ซึ่งน้องชายได้ดูแลส่งเสียให้เรียนหนังสือ ขณะนี้หลานสาวเรียนอยู่ชั้นปี 4 ที่มหาวิทยาลัยราชภัฏบ้านสมเด็จเจ้าพระยา พักอยู่ที่หอพัก ส่วนวันเสาร์และวันอาทิตย์จะกลับไปหาที่แม่กลอง น้องชายเป็นคนร่าเริงสนุกสนาน หลานที่บ้านจะติดมากและเป็นที่รักของทุกคนในครอบครัว

พี่สาวสันติกล่าวอีกว่า ข้อเสียของน้องชายที่มีก็คือจะเป็นคนที่ค่อนข้างดื้อเรื่องการรักษาตัวเอง ส่วนใหญ่แล้วน้องชายจะพักอยู่ซอยสวนผัก ย่านฝั่งธนฯ สำหรับการช่วยเหลือนั้นก็มีคนในหลายวงการเข้ามาช่วยเหลือใส่ซองมา ซึ่งไม่ทราบว่าที่ไหนบ้างแต่ก็ขอขอบคุณอีกครั้ง สำหรับการสวดพระอภิธรรมศพจะมีที่วัดมูลจินดา รวม 5 วัน เพื่อให้เพื่อนๆ และผู้ที่นับถือกันได้มาเคารพศพ หลังจากนั้นจะย้ายศพน้องชายกลับไปที่วัดท่าค้อ ต.ท่าเยี่ยม กิ่งอ.สากเหล็ก จ.พิจิตร ซึ่งเป็นบ้านเกิดโดยจะตั้งศพสวดพระอภิธรรมอีก 4 วัน จากนั้นก็จะมีพิธีฌาปนกิจต่อไป

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน