ปัดจะขืนใจ-แค่พาไปนอนพัก ที่เปลือยกายเพราะเพิ่งอาบน้ำ นักร้องสาวชี้ตัวขอโทษแต่งโป๊

แท็กซี่หื่นคอตกโดนรวบ! หลังพานักร้องสาวเข้าม่านรูด พยายามขืนใจ เจ้าตัวอ้างหวังดี เห็นผู้เสียหายหลับไม่ได้สติจึงพาเข้าไปพักผ่อน ให้ล้างหน้าล้างตาเท่านั้น แถที่เปลือยกายเพราะเพิ่งอาบน้ำเสร็จ ยันนักร้องสาวให้พาเข้าไปเอง สวนทางกับวงจรปิดในรถ ตร.หิ้วฝากขังพร้อมค้านประกัน ไร้เงาญาติมาเยี่ยม ขนส่งพักใบอนุญาต 1 ปี จ่อเพิกถอนใบขับขี่หากศาลตัดสินว่าผิดจริง

จากกรณี น.ส.อินทุอร ดีบุกคำ หรือน้องแอล อายุ 22 ปี นักร้องประจำวง “คิง ก่อนบ่าย ก๊อบปี้วาไรตี้โชว์” แจ้งความกับตำรวจ สน.พหลโยธิน ว่าถูกโชเฟอร์แท็กซี่ทะเบียน ทห 6270 กทม. พาเข้าไปในม่านรูดแห่งหนึ่ง แล้วพยายามจะข่มขืนกระทำชำเรา เนื่องจาก น.ส.อินทุอรเมาแล้วหลับบนรถ แต่โชคดีตื่นขึ้นมาเสียก่อน ซึ่งแท็กซี่ก็ขอร้องไม่ให้เอาเรื่อง กระทั่งเดินทางเข้าแจ้งความดังกล่าว ต่อมาตำรวจสามารถจับพิกัดรถแท็กซี่คันดังกล่าวได้ พบว่าขับอยู่ย่านรังสิต จ.ปทุมธานี ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น

ความคืบหน้าล่าสุดเมื่อเวลา 02.30 น. วันที่ 24 มี.ค. เจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน สน.พหลโยธิน ได้ติดตามตัวแท็กซี่คนดังกล่าว จนสามารถจับกุมตัวได้ ทราบชื่อคือ นายอดิเรก หรือเอ เลิศลภ อายุ 41 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาที่ 560/2561 ลงวันที่ 24 มี.ค.61 ข้อหากระทำการอนาจารแก่บุคคลอายุกว่าสิบห้าปี โดยใช้กำลังประทุษร้าย โดยบุคคลนั้นอยู่ในภาวะที่ไม่สามารถขัดขืนได้ ลักทรัพย์ในเวลากลางคืน ก่อนควบคุมตัวมาที่ สน.พหลโยธิน

ต่อมาเมื่อเวลา 11.00 น.วันเดียวกัน พล.ต.ต.สมพงษ์ ชิงดวง รอง ผบช.น. พล.ต.ต.เอกชัย บุญวิสุทธ์ ผบก.น.2 พ.ต.อ.อิทธิเชษฐ์ วงศ์หอมหวล ผกก.สน.พหลโยธิน พร้อมตำรวจฝ่ายสืบสวน สน.พหลโยธิน ร่วมกันแถลงจับกุมนายอดิเรก

พ.ต.อ.อิทธิเชษฐ์กล่าวว่า สำหรับการติดตามจับกุมตัวผู้ต้องหานั้น หลังจากเกิดเหตุตำรวจฝ่ายสืบสวน สน.พหลโยธิน ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบหาเบาะแส โดยเฉพาะผู้เสียหายสามารถจดจำหมายเลขทะเบียนรถได้ ตำรวจจึงตรวจสอบพบว่ารถคันดังกล่าวเป็นของบริษัท บวรแท็กซี่ จำกัด จึงนำกำลังไปตรวจสอบ ซึ่งทางบริษัทให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี อีกทั้งทางบริษัทมีมาตรการความปลอดภัยให้กับผู้โดยสาร เช่น กล้องวงจรปิดภายในตัวรถซึ่งสามารถจับภาพขณะเกิดเหตุภายในรถได้ และภาพคนร้ายกำลังนำตัวผู้เสียหายเข้าโรงแรม จึงรวบรวมไว้เป็นหลักฐาน ก่อนขออนุมัติหมายจับ

จากการสอบสวนผู้ต้องหาได้ให้การภาคเสธ โดยอ้างว่าไม่ได้พยายามข่มขืนผู้เสียหายแต่อย่างใด แต่ยอมรับว่าในคืนเกิดเหตุได้รับผู้เสียหายมาจากร้านอาหารย่านถนนราชพฤกษ์เพื่อไปส่งย่านห้วยขวางจริง เมื่อใกล้ถึงที่หมายได้พยายามถามว่าจะให้ส่งที่ไหนแต่ผู้เสียหายหลับไม่ได้สติ ด้วยความหวังดีจึงได้เลี้ยวเข้าโรงแรมเพื่อให้ผู้เสียหายได้เข้าไปพักล้างหน้าล้างตาเท่านั้น ส่วนตนก็เข้าไปอาบน้ำและเป็นจังหวะที่ผู้เสียหายตื่นขึ้นมา เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ยังไม่ปักใจเชื่อใน คำให้การ เนื่องจากผู้เสียหายยืนยันว่าขณะเกิดเหตุยังพอมีสติและคนร้ายยังได้ขโมยเงินกว่า 2,000 บาทหลบหนีไป รวมถึงคนร้ายเป็น ผู้จ่ายค่าห้องพักโรงแรมด้วย

หลังเสร็จสิ้นการแถลงข่าวตำรวจได้นำตัวนายอดิเรกไปฝากขังที่ศาลอาญา รัชดาฯ ซึ่งนายอดิเรกยังได้กล่าวกับสื่อมวลชนว่า ผู้เสียหายเป็นคนบอกให้พาเข้าไปเอง และกรณีที่ถอดเสื้อผ้าอยู่นั้นเจ้าตัวอ้างว่าคนจะอาบน้ำไม่ให้ถอดเสื้อผ้าได้อย่างไร และยังยืนยันว่าไม่ได้ข่มขืนผู้เสียหายแต่อย่างใด ซึ่งค้านกับภาพวงจรปิดในรถแท็กซี่ จะเห็นว่าผู้เสียหายนอนหลับไม่รู้ตัว จึงเป็นไปไม่ได้ที่จะบอกให้โชเฟอร์พาเข้าโรงแรม

ต่อมาน.ส.อินทุอรได้เดินทางมาที่ สน.พหลโยธิน เพื่อชี้ตัวผู้ต้องหา พร้อมกล่าวว่า ตอนที่ชี้ตัวผู้ต้องหาก็ยังไม่ยอมกล่าวขอโทษตนทั้งที่ทำเรื่องนี้ขึ้น อย่างไรก็ตามยอมรับว่าคืนเกิดเหตุตนเมา เพราะได้ไปดื่มกินกับเพื่อน หลังจากร้านปิดได้เรียกแท็กซี่บอกให้คนขับไปส่งที่บ้านพี่สาวย่านห้วยขวาง

“ตอนนั้นหนูเมาจึงเผลอหลับไปบนรถ รู้สึกตัวอีกครั้งพบว่านอนอยู่บนเตียงในโรงแรม หันไปเห็นคนขับรถแท็กซี่เปลือยกาย พยายามถอดเสื้อผ้าหนู หนูตกใจมาก จึงร้องโวยวายขึ้นมา และพยายามหลบหนีออกจากห้อง คนขับบอกว่าเห็นหนูหลับจึงพามานอนที่โรงแรม ไม่ได้ทำอะไร ที่ถอดเสื้อเพื่อจะอาบน้ำเฉยๆ พอตั้งสติได้หนูก็ส่งโลเคชั่นให้พี่ชาย โชเฟอร์แท็กซี่ก็ออกอาการลนลานมาก พูดขึ้นว่า น้องอย่าบอกใครนะ พี่ขอโทษ ส่วนเงินเดี๋ยวพี่คืนให้ แล้วคนร้ายก็รีบออกไปจากห้องทันที” น.ส.อินทุอรกล่าว

นอกจากนี้ น.ส.อินทุอรยังได้ยกมือไหว้ แล้วกล่าวว่า ขอให้กรณีนี้เป็นอุทาหรณ์สอนผู้หญิงทุกคน ส่วนตัวก็ยอมรับในส่วนที่เมาไม่มีสติ และแต่งตัวล่อแหลม ตรงนี้ยอมรับผิด ซึ่งจะเมายังไงก็แล้วแต่ต้องมีสติ ขึ้นแท็กซี่ให้ถ่ายทะเบียนรถส่งให้คนที่บ้านรู้ทุกครั้ง ตอนนี้ไม่กล้าไปไหนคนเดียวอีกแล้ว เข็ดมาก

หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ควบคุมตัวนายอดิเรกมาส่งที่ศาลอาญา รัชดาฯ เพื่อยื่นคำร้องฝากขังต่อศาลครั้งแรกเป็นเวลา 12 วัน ตั้งแต่วันที่ 24 มี.ค.-4 เม.ย. เนื่องจากยังต้องสอบปากคำพยานเพิ่มเติม รอผลการตรวจลายพิมพ์นิ้วมือ และอื่นๆ ท้ายคำร้องพนักงานสอบสวนคัดค้านการประกัน เพราะเกรงจะหลบหนี ศาลพิจารณาคำร้องและสอบถาม ผู้ต้องหาแล้วไม่คัดค้าน จึงอนุญาตให้ฝากขังได้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะเดียวกันไม่มีญาตินายอดิเรกมายื่นคำร้องและหลักทรัพย์ขอประกันตัวแต่อย่างใด เจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์จึงนำตัวไปควบคุมไว้ที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ

ด้านนายสุกรี จารุภูมิ ผู้อำนวยการกองตรวจการขนส่งทางบก (ขบ.) กรมการขนส่งทางบก กล่าวว่า กรมได้ใช้อำนาจตามมาตรา 54 แห่งพระราชบัญญัติรถยนต์ พ.ศ.2522 ได้ดำเนินการยึดใบอนุญาตขับรถของนายอดิเรกเป็นระยะเวลา 1 ปี ตามที่กฎหมายกำหนด ในข้อหาทำลายความสงบสุขต่อประชาชนหรือรบกวนผู้โดยสาร ทั้งนี้ ต้องรอให้คำพิพากษาคดีถึงที่สุด หากพบว่านายอดิเรกกระทำความผิดจริงจะถือว่าขาดคุณสมบัติการเป็นผู้ขับขี่ กรมจะดำเนินการเพิกถอนใบขับขี่ต่อไป

รายงานข่าวระบุว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถตามพิกัดทั้งยังสามารถตรวจสอบกล้องที่ติดภายในรถแท็กซี่ดังกล่าวได้อย่างรวดเร็ว เนื่องจากแท็กซี่คันดังกล่าวเป็นแท็กซี่ที่เข้าโครงการแท็กซี่โอเค ของกรมการขนส่งทางบก โดยตั้งแต่วันที่ 9 พ.ย.2560 กรมการขนส่งทางบกกำหนดให้แท็กซี่ที่จดทะเบียนใหม่ทุกคันต้องติดตั้งอุปกรณ์ส่วนควบ เช่น จีพีเอส แทร็กกิ้ง ซึ่งจะแสดงตัวตนของผู้ขับรถ ระบุพิกัดเส้นทางการเดินรถและการใช้ความเร็ว บริเวณที่นั่งผู้โดยสารจะมีปุ่มฉุกเฉินในกรณีที่ผู้โดยสารต้องการความช่วยเหลือ นอกจากนี้ยังติดตั้งกล้องบันทึกภาพในรถที่เชื่อมต่อผ่านศูนย์บริการรถแท็กซี่ของเอกชน และต้องเชื่อมต่อข้อมูลกับศูนย์บริหารจัดการแท็กซี่ ของกรมการขนส่งทางบกด้วย เพื่อส่งข้อมูลการเดินรถแบบเรียลไทม์อีกด้วย

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน