ผู้สื่อข่าวรายงานว่าขณะนี้ นางอุษณีย์ แสงสิงแก้ว รองกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ รักษาการ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ (ดีดี) การบินไทย จำกัด (มหาชน) ได้มอบนโยบายให้พนักงานการบินไทยส่งเสริมการแต่งตัวด้วยผ้าไทยย้อนยุค เพื่อส่งเสริมวัฒนธรรมอันดีงามของประเทศไทย ตามนโยบายของรัฐบาล ซึ่งล่าสุดได้มีนโยบายให้พนักงานต้อนรับบนเครื่องบินหญิงแต่งชุดไทย

เรืออากาศตรี พงษ์ธร เทพกาญจนา(กัปตันต่าย) รอง.กก.ผอ.ใหญ่สายปฏิบัติการ (DO)กล่าวว่าแนวคิดการแต่งกายแนววัฒนธรรมไทยแบบย้อยนุครูปแบบเป็นสิ่งดีงามแบบนี้ควรที่จะนำมา เผยแพร่ผ่านลูกเรือการบินไทยที่เป็นฑูตวัฒนธรรม เพื่อสื่อสารให้ต่างประเทศได้รับทราบวัฒนธรรมอันดีงามของไทย รวมทั้งเป็นการสนอง นโยบายของนางอุษณีย์ แสงสิงแก้ว รองกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ รักษาการ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ (ดีดี) การบินไทย จำกัด(มหาชน) ที่ต้องการให้มีการส่งเสริมการแต่งตัวด้วยผ้าไทยย้อนยุค เพื่อส่งเสริมวัฒนธรรมอันดีงามของประเทศไทย ตามนโยบายของ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีอีกด้วย ฝ่ายปฏิบัติการบินจึงตัดสินใจที่จะนำสิ่งที่ดีเหล่านี้มาเป็นจุดขาย เพื่อส่งเสริมวัฒนธรรมตามที่รัฐบาลมีนโยบาย โดยได้มอบหมายให้พนักงานหญิงต้อนรับบนเครื่องบินทำการใส่ชุดไทยสมัยรัชกาลที่ 5 จำนวน 1 คนต่อ 1 เที่ยวบิน เพื่อเป็นการส่งเสริมวัฒธรรมไทย โดยจะเริ่มตั้งแต่วันที่ 2-30 ม.ย.2561

นาย เฉลิมพล แก้วชินพร ผอ.ใหญ่ฝ่ายบริการบนเครื่องบิน กล่าวว่า การแต่งชุดไทยย้อนยุคนอกจากเป็นการสนองนโยบายรัฐบาลแล้ว ยังเป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยวไทย โดยเฉพาะในช่วงที่กระแสละครบุพเพสันนิวาสกำลังโด่งดังทำให้คนไทยหันมาใส่ชุดไทยกันมากขึ้น โดยเมื่อช่วงเช้าของวันที่ 2 เม.ย.วันนี้ ได้ลงตรวจความพร้อมของการแต่งไทยที่ท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิ โดยกำหนดให้มีการแต่งชุดไทยเฉพาะในเที่ยวบินเป้าหมาย ได้แก่ เที่ยวบินภายในประเทศทั้งหมด, เที่ยวบินที่ไปลาว,พม่า,เวียดนาม และกัมพูชา, นอกจากนี้ก็เป็นเที่ยวบินที่ไปยังประเทศสิงคโปร์และฮ่องกง ซึ่งรวมแล้วกว่า ประมาณ78 ไฟลท์เที่ยวบินต่อวัน มั้งในส่วนของเที่ยวบินขาไปและขากลับ

“เที่ยวบินแรกที่ทำการบินด้วยพนักงานต้อนรับในชุดไทยรัชกาลที่5 คือ TG413 ที่บินออกจากประเทศไทย ไป สิงคโปร์เมื่อเวลา 11:15 น.ปรากฏว่าในขณะที่เริ่มประกาศเชิญผู้โดยสารขึ้นเครื่อง จะสังเกตได้ว่าผู้โดยสารเหล่านั้นได้ถ่ายคลิปวิดีโอและขอถ่ายรูปกับชุดไทยย้อนยุคที่พนักงานต้อนรับบนเครื่องบินได้สวมใส่เพื่อรอต้อนรับผู้โดยสารที่ถือบัตรขึ้นเครื่อง เป็นการสะท้อนถึงความประทับใจในความงดงามของการแต่งกายชุดไทยและความน่ารักอ่อนช้อยของเหล่าแอร์สจ๊วตหรือพนักงานต้อนรับบนเครื่องบิน ที่กำลังเป็นที่นิยมอย่างมาก”

อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ได้รับการประสานมาจากสำนักงานการบินไทยที่ประเทศไต้หวันต้องการให้การบินไทยเพิ่มการแต่งชุดไทยเส้นทางบิน กทม-ไต้หวันด้วย เนื่องจากต้องการส่งเสริมการเดินทางท่องเที่ยวไทยย้อนยุคในประเทศไต้หวัน รวมทั้ง อาจจะมีการพิจารณาปรับเพิ่มในเส้นทางอื่น เช่น จีน หรือเกาหลี ที่มีการดูละครเรื่องบุพเพสันนิวาสซึ่งจะเกิดประโยชน์ภาพรวมให้กับการท่องเที่ยวในไทย

“ส่วนกรณีที่มีคนกังวลว่าการใส่เครื่องประดับสร้อย เข็มขัด ต่างหู ที่เป็นลักษณะของของมีคมและอาจขัดกับมาตรฐานความปลอดภัยของการต้อนรับบนเครื่องตามเกณฑ์มาตรฐานสากลนั้น ทุกคนไม่ต้องเป็นห่วง เพราะหลังจากพนักงานต้อนรับต้อนรับผู้โดยสารเสร็จ ก่อนที่เครื่องจะขึ้นบิน หรือลงจอด พนักงานแต่งไทยที่สวมเครื่องประดับจะถอด เครื่องประดับ และอุปกรณ์ที่ทำให้การปฏิบัติงานไม่คล่องตัวออกก่อนทุกครั้ง เพื่อให้สามารถพร้อมปฏิบัติงานกรณ๊เกิดเหตุฉุกเฉินบนเครื่องบิน ขอให้ผู้โดยสารมั่นใจในความปลอดภัย”

นายสรกฤษ วรรณลักษณ์ ผู้จัดการกองสื่อสารประชาสัมพันธ์พนักงานต้อนรับบนเครื่องบิน กล่าวว่า กระแสละครบุพเพสันนิวาสนั้นโด่งดังมากในภูมิภาคอินโดจีนเป็นจังหวะที่ดีที่การบินไทยจะส่งเสริมเรื่องการแต่งไทยย้อนยุคเพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวไทย ซึ่งเป็นเรื่องที่ดี โดยชุดที่พนักงานตอ้นรับบนเครื่องแต่งครั้งนี้เป็นชุดไทยสมัยรัชกาลที่ 5 ต่างจาดชุดไทยปกติที่พนักงานใส่คือชุดไทยเรือนต้น โดยชุดสมัยรัชกาลที่นั้นนั้นถือเป็นชุดที่มีความ สวยงาม เรียบร้อย เหมาะที่จะให้พนักงานต้อนรับแต่ง ลักษณะเป็นจงกระเบน และเสื้อแขนยาว โดยการบินไทยจะเลือกพนักงานที่สวยและดูดีให้เป็นผู้แต่งชุดดังกล่าวและมายืนสวัสดีต้อนรับผู้โดยสารบริเวณประตู้ขึ้นและลงเครื่องทุกเที่ยวบิน

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน