เรื่องราวความฟีเวอร์ของละครบุพเพสันนิวาสยังมีให้อ่านกันต่อเนื่อง ล่าสุดสมาชิกเฟซบุ๊คชื่อคุณ Kevin Ketkaew ได้โพสต์ถึงเรื่องราวของคณะราชทูตสยามที่เดินทางไปฝรั่งเศสว่า เมื่อวานเห็นคนแชร์เรื่องราวประวัติศาสตร์จากละครบุพเพสันนิวาสเกี่ยวกับเส้นทางเดินเรือจากไทยไปฝรั่งเศสซึ่งออกจากปากอ่าวไทย ไปขึ้นฝรั่งเศสที่เมือง brest [บ-เฆส] โดยส่วนตัวไม่ได้ดูละครบุพเพสันนิวาส แต่จะบอกว่าตัวเองเคยมีโมเม้นนึงที่ใช้ชีวิตอยู่ที่เมือง brest ในแคว้น bretagne ปลายยอดแหลมๆทางด้านซ้ายบนของฝรั่งเศส ซึ่งมีส่วนเกี่ยวข้องกับเนื้อเรื่องของละคร

ที่เมือง brest เนี่ย จะมีถนนสายหลักสำคัญกลางเมืองอันนึงที่ชื่อว่า rue de siam [ฆู-เดอ-ซี-อัม] หรือแปลเป็นไทยว่า ถนนของสยาม ณ วันที่เห็นก็แอบตกใจเบาๆว่า อ้าวเฮ้ย ทำไมถนนชื่อสยามอ่ะ นี่คือบังเอิญถูกมะ??? ถามอีเพื่อนฝรั่ง ซึ่งเป็นคน brestois [บ-เฆส-ตัว = ชาว brest] แต่โดยกำเนิด นางก็บอกไม่รู้เหมือนกัน ไม่รู้ด้วยซ้ำว่า siam คือไร #อ้าวอีนี่ ก็ siamois ไง แมวอ่ะแมว แมวสายพันธุ์ไทย ที่ต้องบอกอย่างงี้เพราะคนฝรั่งเศสส่วนใหญ่รู้จักคำว่า siamois [ซี-อา-มัว] แต่ไม่รู้จักคำว่า siam ถามว่ารู้จักประเทศไทย Thaïlande [ตา-อิ-ล็อง-ด] มั้ย……..ก็ไม่..!!! ไทยแลนด์ไหน ไม่รู้จักรู้จักแต่ไต้หวัน…!!! อ้าวหรอ งั้นแล้วรู้จักพัทยามั้ย???….เออๆอันนี้รู้จัก ชอบมาก อยากไป #โถ #อิปเปรตตตตตตต

จำได้เลยว่ากลับไปคืนนั้นก็อยากรู้ให้ได้ว่า rue de siam คืออะไร มีที่มาของชื่อยังไง….!!!! ก็เนี่ย ได้คำตอบว่า มันคือชื่อถนนที่ตั้งขึ้นมาแทนชื่อเก่าเพื่อเป็นเกียรติแก่คณะราชทูตของสมเด็จพระนารายณ์แห่งประเทศสยาม ภายใต้การนำของโกษาปาน ในปี 1686

ด้วยความสาระแน ก็เลยเข้าไปหาข้อมูลอ่านเล่น ในประวัติศาสตร์บอกว่า คณะทูตสยามเดินทางด้วยเรือรบ 2 ลำ คือเรือ L’Oiseau [ลัว-โซ] และเรือ La Maligne [ลา-มา-ลิน-ย] ออกเดินทางพร้อมกับ Alexandre de Chaumont [อะ-เล็ก-ซ็อง-เดอ-โช-มง] และคณะบาทหลวงวันที่ 22 เดือน 12 ปี 1685 ถึง brest วันที่ 18 เดือน 6 ปี 1686 คณะทูตสยามประกอบไปด้วย…3 ทูต ; เจ้าพระยาโกษาธิบดี [โกษาปาน], ออกหลวงกัลยาราชไมตรี, ออกขุนศรีวิสารวาจา 6 ขุนนาง 3 ล่าม 2 เลขา20+ ข้าทาสบริวาร

และเครื่องบรรณาการมากมายไม่ว่าจะเป็น ทอง กระดองเต๋า ผ้า พรม เฟอร์นิเจอร์ ปืนใหญ่ #เฮ่โล่ววววว #ปืนใหญ่นะจ๊ะไม่ใช่ไต้จุดไฟ #ขนไปทำบ้าไร และกระเบื้องพอร์ซเลนกว่า 1500 ชิ้น
คณะทูตเข้าพักที่จวนผู้ว่าจนถึงวันที่ 9 เดือน 7 #ซึ่งปัจจุบันสถานที่นี้ยังคงมีอยู่และกลายเป็นที่ว่าการอำเภอ จากนั้นคณะทูตก็เดินทางออกจาก brest ต่อไปอีก 600 กิโลจึงไปถึงพระราชวังแวฆ์ซัยในวันที่ 1 เดือน 9 และอยู่ฝรั่งเศสจนถึงเดือน 3 จึงเดินทางกลับสยาม สรุปใช้เวลาล่องเรือเที่ยวละ 5 เดือน, พักอยู่ที่ brest 3 อาทิตย์, ใช้เวลาเดินทางไปยังพระราชวังแวฆ์ซัย 5 อาทิตย์และอยู่ต่ออีก 7 เดือนจึงเดินทางกลับสยาม

ขากลับก็แอบแวะร้านกิ๊ฟช็อปซื้อของกระจุ๊กกระจิ๊กติดไม้ติดมือเบาๆอันได้แก่ กระจก 4000 กว่าชิ้น, ปืนใหญ่ 160 กระบอก #กระจุ๊กกระจิ๊กมากขุ่นพี่ กล้องโทรทรรศน์, แว่นตา, นาฬิกา, กำมะหยี่, คริสตัล, พรม แล้วก็มีแผนที่ลูกโลกที่เขียนเป็นภาษาไทย ของส่วนใหญ่เป็นของที่ใช้ตกแต่งท้องพระโรงของพระนารายณ์ ทั้งหมดใช้เวลาตั้งแต่ปลายปี 1686 ถึงต้นปี 1688

#รู้มั้ยว่าในช่วงที่คณะทูตไทยไปฝรั่งเศสเกิดอะไรขึ้นในวงการขนม
FYI มันคือช่วงเวลาที่ครัวซองถือกำเนิดขึ้นในโลก โดยที่ตอนนั้นชาวตุรกีกำลังปิดล้อมเมืองเวียนนาประเทศออสเตรีย ดึกดื่นค่ำคืนเตรียมการเข้าตีเมือง บังเอิ้นนนอีคนทำขนมปังชาวเวียนนาซึ่งตื่นก่อนชาวบ้านชาวเมืองเพื่อที่จะมาจุดเตาอบขนมปัง ก็ได้ยินเสียงจ็อกแจ็กจอแจของการเตรียมเข้าตีเมืองจึงแจ้งเตือนออกไป ทำให้ชาวเมืองปลอดภัย ก็เนี่ยะแหละขนมปังที่ทำออกมาตอนนั้นก็ทำให้มันเป็นตำนานโดยให้มันมีรูปทรงเหมือนพระจันทร์เสี้ยวในธงชาติตุรกี [เมืองเวียนนาเขียนเป็นภาษาฝรั่งเศสว่า vienne ชาวเมืองเวียนนาเรียกว่า viennois และนี่คือเหตุผลว่าทำไมครัวซองเราถึงเรียกว่าเป็น viennoiserie] #อึ้งละสิ #ความรู้ชั้นแน่นสุด

กลับมาที่ rue de siam ถนนสายหลักของเมืองที่เต็มไปด้วยร้านช็อปปิ้งและร้านอาหารมากมาย ร้านขนมชื่อดังของเมือง ก็นี่เลย pâtisserie lallemand อยู่ติดถนนสยาม เปิดมาเป็นร้อยปี ชั้นไปซื้อครัวซองประจำ

แล้วก็มีร้านอาหารญี่ปุ่นที่ชื่อ hinoki ซึ่งตอนก่อนอยู่ติดกับถนนสยาม แต่ตอนนี้ย้ายไปสุดถนนละ ร้านอาหารญี่ปุ่นร้านนี้เจ้าของเป็นคนฝรั่งเศสที่ไปเรียนทำซูชิที่ญี่ปุ่นหลายสิบปี นางเคลมตัวเองว่าเป็นซูชิ artisan ประมาณว่าบรรจงปั้นบรรจงจีบกว่าจะออกมาเป็นซูชิในแต่ละคำ

ส่วนหากอยากนั่งดริ๊งซอฟๆพร้อมของกินกรุบกริบ ต้องนี่เลยหัวถนนสยามตรงสะพานข้ามไปอีกฟากของเมือง brest ตรงนั้นบาร์เรียงกันเป็นตับ หน้าร้อนนะ ใส่แว่นกันแดดเก๋ๆ สั่งค็อกเทล์เย็นๆแก้วแล้วนั่งหันหน้าออกรับลมทะเล แซวแอ๊วเอินเด็กเสิร์ฟ……เริ่ด!!!! นั่งไปซักพักหัวเหนียวสุด มือสางผมไม่ไปอ่ะ #เข้าใจมะลมทะเล จำได้วันนั้นที่บาร์ทำให้ชั้นได้รู้ bloody mary เป็นครั้งแรก #อิปเปรตตตตตต #รสชาติเหมือนน้ำละลายตาปลาที่หัวแม่โป้งเท้าไม่มีผิด

นอกจากดริ๊งแล้ว ของกินที่สำคัญก็คือเครป ไป brest ต้องกินเครป เพราะเครปเป็นของ bretagne เลือกไปเถอะซักร้านนึง เน้นร้านที่ว่าทุกเมนูในร้านคือมีแต่เครป ตั้งแต่ของทานเล่น ของคาว ของหวาน จานหลัก ทำจากเครปทั้งหมด กินมันให้ตายไปข้างนึง #นี่ถ้าเอาแป้งเครปเหลวๆเตรียมทอดมาชงให้ดื่มได้ก็คงจะมีเครื่องดื่มเครปอยู่หรอก

เอาเป็นว่าใครมีโอกาสไปฝรั่งเศส ก็ลองไปเที่ยวเมือง brest ดู ถ่ายรูปคู่กับป้ายถนน rue de siam เก๋ๆ นี่จะบอกว่า ปารีสอะไปรอบเดียวก็พอ แวะเที่ยวเมืองอื่นบ้าง ฝรั่งเศสมีเมืองเป็นร้อยเป็นพัน แต่ละเมืองมีประวัติและเรื่องราวที่น่าสนใจ ไม่ได้มีแต่ปารีส ปารีสก็แค่เมืองหลวงเมืองนึง ไม่ต้อง crazy มาก นี่ถ้าเลือกได้ระหว่าง paris กับ brest ก็จะเลือกอยู่ที่เมือง brest เหมือนกัน…!!!!

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน