ดราม่าฉ่ำ! ทัวร์ลงแม่ค้าเกาะปันหยี ขายของฝากให้ ‘พี่จอง-คัลแลน’ ราคาแพงเกินไปมั้ย!? ออกแนวขูดรีดนักท่องเที่ยว โซเชียลวิจารณ์เดือด
เมื่อวันที่ 23 กรกฎาคม 2567 กำลังเป็นประเด็นดราม่าเดือดในโลกโซเชียลขณะนี้ เมื่อ พี่จอง-คัลแลน สองหนุ่มอินฟลูเอนเซอร์สายท่องเที่ยว ขวัญใจคนทุกรุ่นทุกวัย จากช่อง YouTube : Cullen HateBerry ปล่อยคลิปวิดีโอ ‘พาพี่จองเดิน(หลง)เล่นรอบเกาะปันหยี’ ซึ่งเป็นคลิปพาเที่ยว เกาะปันหยี จ.พังงา แหล่งท่องเที่ยวที่มีจุดเด่น คือ ชุมชนชาวประมง และสนามฟุตบอลลอยน้ำที่เป็นเหมือนแลนด์มาร์กของเกาะ
แต่งานนี้มิวาย เกิดดราม่าขึ้นจนได้ เมื่อมีช่วงหนึ่งของคลิป พี่จอง และ คัลแลน ได้ไปทำกิจกรรมต่างๆ บนเกาะปันหยี และได้แวะร้านขายของที่ระลึก ซึ่งมีสินค้าจำพวกเครื่องประดับ อาทิ พวกสร้อยมุก, เปลือกหอยมุก, กำไลเปลือกหอย ฯลฯ
ด้าน ‘แม่ค้า’ ก็ได้พูดเชื้อเชิญให้ทั้งสองดูสินค้า ซึ่งทาง พี่จอง-คัลแลน ก็สนใจซื้อสินค้าไปฝากเพื่อน ๆ
เมื่อเลือกสินค้าจนพอใจแล้ว ทาง พี่จอง-คัลแลน ก็ตัดสินใจซื้อ เปลือกหอยอันหนึ่ง และ กำไลอีกอันหนึ่ง โดยทาง ‘แม่ค้า’ ได้พูดว่า “อันนี้แพง เป็นหอยมุก 500 บาท และกำไล 300 รวมเป็น 800 บาท”
ด้านพี่จองถามกลับไปว่า “ลดราคานิดหน่อยได้ไหมครับ”
แม่ค้าไม่ได้ลดราคาให้ แต่กลับหยิบยื่นกำไลให้อีกอัน และพูดว่า “ป้าแถมกำไลไปอีก 1 อัน เป็น 1000 บาท”
งานนี้ทำเอาชาวเน็ตที่ได้ดูนาทีดังกล่าวแล้วถึงกับไม่พอใจอย่างแรง ออกมาวิพากษ์วิจารณ์สนั่น ถึงกรณี ของฝากว่ามีราคาแพงไปไหม? แถมเมื่อขอลดราคา ก็กลับให้ซื้อสินค้าเพิ่มอีก
ทั้งยังมีชาวเน็ตบางส่วนออกมาแชร์ประสบการณ์ที่ไม่น่าประทับใจ ในการไปเที่ยว ‘เกาะปันหยี’ หนึ่งในโพสต์ที่ถูกแชร์จำนวนมาก คือโพสต์ของสาวคนหนึ่ง ที่แชร์ประสบการณ์ไปเที่ยวเกาะปันหยี และเจอประสบการณ์ไม่ดีทั้ง 2 รอบ
เธอเล่าว่า เจอร้านอาหารราคาแพง เช่น ปลากระพงแห้ง ๆ ตัวเล็ก ๆ ไม่จัดจานใด ๆ ราคา 1,600 บาท น้ำปั่น ใส่แก้วพาสติกธรรมดา ๆ แก้วละ 100 บาท นอกจากอาหารที่แพงแล้ว ยังเจอพฤติกรรมขูดรีดค่าทิปจากพนักงานเรือยอร์ชเป็นจำนวนเงินกว่า 500-800 บาท อีกด้วย
พร้อมย้ำว่าราคาสินค้าบนเกาะแพงแทบทุกอย่าง ก่อนจะทิ้งท้ายสุดดุเดือดว่า ไม่แนะนำให้ใครไปเที่ยวเลยจริง ๆ
ทั้งนี้ชาวเน็ตหลายส่วนเรียกร้องให้บรรดาผู้ที่เกี่ยวข้อง หรือเจ้าหน้าที่ เข้าไปตรวจสอบ การให้บริการหรือการขายของให้นักท่องเที่ยว ในสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ ซึ่งเรื่องราวจะเป็นอย่างไร คงต้องติดตามกันต่อไป
ที่มา : 컬렌 Cullen HateBerry