ผวา ชายต่างชาติคลั่ง บุกอาละวาด-พังข้าวของ ร้านทำผมใจกลางสยาม จนท.เข้าล็อกตัว เปิดใจผู้เห็นเหตุการณ์ รู้สึกแอบช็อก เหตุเกิดตอนกลางวันแสกๆ
จากกรณีผู้ใช้ติ๊กต็อกรายหนึ่ง โพสต์คลิปเหตุการณ์ขณะที่ชายต่างชาติแปลกหน้า เข้ามาอาละวาดทำลายข้าวของภายในร้านทำผมแห่งหนึ่งใจกลางเมือง พร้อมระบุคำบรรยายว่า “เตือนภัย ชาวต่างชาติคลั่ง พังของร้านทำผมที่สยาม”
ล่าสุด วันที่ 4 ก.ย. 2567 ผู้เห็นเหตุการณ์ ได้เปิดใจกับ ‘ข่าวสดออนไลน์’ ระบุว่า เมื่อเวลาประมาณ 15.00 – 16.00 น. วันที่ 3 ก.ย. ที่ผ่านมา ตนอยู่ในร้านทำผมแห่งหนึ่งที่สยาม มีชาวต่างชาติแปลกหน้า ลักษณะเป็นชายตัวใหญ่ ผิวดำ ตาแข็ง ไม่สวมใส่เสื้อ ในมือมีโทรศัพท์เครื่องเดียว เดินผ่านหน้าร้านไปแล้วเดินย้อนกลับเข้ามาในร้าน
ทางร้านก็ได้ทักทายเหมือนลูกค้าทั่วไป แต่เขากลับไม่พูดไม่จากับใคร เดินปรี่เข้ามาในร้านโดยไม่สนใจใคร ซึ่งขณะนั้นก็มีลูกค้าท่านอื่นอยู่ในร้านด้วย จากนั้นเขาก็เดินทะลุไปถึงห้องน้ำด้านในร้าน ทำการคุ้ยขยะในห้องน้ำออกจากถังขยะ และเอาถุงดำมาคลุมหัวตัวเอง
ทางเราเริ่มมองว่าเขาไม่น่ามีสติเท่าไหร่ ด้วยลักษณะที่ตาแข็ง ไม่มีปฏิสัมพันธ์กับใคร เดินไปเรื่อยๆ ตนเห็นว่าในมือเขาไม่มีอาวุธ จึงเดินตามเขาไป เว้นระยะห่างประมาณ 2-3 ช่วงตัว และพยายามพูดกับเขาว่า “get out” ให้เขาออกไปข้างนอก แต่เขาก็ไม่ฟัง
ผวา ชายต่างชาติคลั่ง บุกอาละวาด-พังข้าวของ ร้านทำผมใจกลางสยาม จนท.เข้าล็อกตัว
หลังจากนั้นเขาก็เดินออกจากห้องน้ำมายังตรงเคาน์เตอร์ มองนั่นมองนี่ ตนก็ไม่รู้ว่าเขาจะทำอะไรต่อ จึงให้ทีมงานที่ร้านโทรแจ้งเจ้าหน้าที่ให้เข้ามาระงับเหตุ โดยเขาได้ปัดของตรงหิ้งตกแตกเกลื่อนกลาดตามที่เห็นในคลิปวิดีโอ สุดท้ายต้องประสานเจ้าหน้าที่หลายฝ่าย จนสามารถช่วยกันจับตัวชายแปลกหน้าคนดังกล่าวได้ในที่สุด
ความเสียหายของร้านจากเหตุการณ์นี้ คือสูญเสียความมั่นใจของลูกค้าที่อยู่ในร้านตอนนั้น ลูกค้าหลายคนตกใจจนวิ่งออกมาอยู่ด้านหน้าร้าน ส่วนตนซึ่งอยู่ในเหตุการณ์พยายามเดินไปห้ามชายแปลกหน้าคนดังกล่าว ก็มีรอยแผลถลอกนิดหน่อย และข้าวของที่ร้านที่พังร่วงลงมาก็ไม่ได้มากนัก
ทางเจ้าหน้าที่เองก็อยากให้ทางร้านไปแจ้งความดำเนินคดี แต่ทางร้านไม่รู้ว่าจะไปเรียกร้องค่าเสียหายจากไหน และถ้าเป็นคดีความก็ต้องไปติดต่อนู่นนี่ ทำให้เสียเวลาในการดูแลลูกค้าคนอื่นๆ
ตนซึ่งเป็นผู้เห็นเหตุการณ์ก็รู้สึกแอบช็อกนิดนึงกับสิ่งที่เกิดขึ้นตอนกลางวันแสกๆ แต่กลับมีคนลักษณะนี้เข้ามาก่อเหตุได้ ซึ่งไม่สามารถเรียกใครหรือทำอะไรมากกว่าการเฝ้าดู เพราะไม่รู้ว่าเขาจะทำอะไรบ้าง อยู่ในจังหวะที่ต้องคิดเอง ตัดสินใจป้องกันตัวเองเอง เพราะสื่อสารกันไม่รู้เรื่อง
ทั้งนี้ยังขอฝากทิ้งท้ายเป็นอุทาหรณ์ ถ้าเจอคนที่มีอาการหรือลักษณะที่ไม่ปกติเช่นนี้ ให้ดูก่อนว่าเขามีอะไรอยู่กับตัวหรือเปล่า รวมถึงคิดให้ดีก่อนที่จะทำอะไร ป้องกันตัวเองก่อนทรัพย์สินจะดีที่สุด
