10 เม.ย. จากกรณีที่เมื่อวานนี้ (9 เม.ย.) พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีให้สัมภาษณ์ที่สยามสแควร์นั้น มีนิสิตจุฬาฯ 3 คนมาชูป้ายชาวจุฬาฯ รักลุงตู่ (เผด็จการ) โดยขีดกากบาทที่คำว่าลุงตู่ ซึ่งเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของนายกรัฐมนตรีได้มาเข้ามากันนักศึกษากลุ่มดังกล่าวและพยายามยื้อแย่งเพื่อเก็บกระดาษข้อความ สุดท้ายป้ายข้อความดังกล่าวถูกฉีกไป ซึ่งเมื่อ พล.อ.ประยุทธ์เห็นเหตุการณ์ ได้สะกดอารมณ์ พร้อมหันไปพูดกับกลุ่มนิสิต และเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยว่า “ปล่อยเขาไปเถอะ อย่าทำร้ายเขาเลย หากเขาไม่เข้าใจก็ปล่อยไป” พร้อมกล่าวย้ำว่า ปล่อยเขาเถอะ ปล่อยเขาไป ไปเถอะนะ คนเก่ง เยี่ยม เก่งมาก หากประเทศเสียหายก็ออกมาด้วยนะ”ก่อนเดินขึ้นรถกลับทำเนียบรัฐบาลทันที (อ่านข่าวเก่าได้ที่นี่)

เมื่อช่วงสายวันนี้ (10 เม.ย.) ธนวัฒน์ วงค์ไชย นิสิตคณะเศรษฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้ออกมาโพสต์เฟสบุ๊กถึงกรณีที่มีเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงจำนวน 2 คน เข้ามาที่คณะ สอบถามถึงประวัติส่วนตัวของ ความประพฤติ และพยายามจะขอที่อยู่ที่ติดต่อ โดยระบุว่า

จดหมายถึงเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคง

เมื่อเช้านี้ ได้มีเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงจำนวน 2 คน เข้ามาที่คณะที่ผมเรียนอยู่ เข้ามาสอบถามถึงประวัติส่วนตัวของผม ความประพฤติของผมในคณะ และพยายามจะขอที่อยู่ที่ติดต่อได้ของผม การกระทำของเจ้าหน้าที่ในครั้งนี้ คงเป็นผลมาจากเหตุการณ์เมื่อวานนี้ ที่เพื่อนๆ ของผมได้ไปชูป้ายบอกรักเผด็จการที่สยามสแควร์วัน และผมได้ชี้แจงสารที่ถูกเจ้าหน้าที่ฉีกออกไปบน Facebook

ซึ่งการที่เจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงทำเช่นนี้ ถือว่าเป็นการรุกล้ำและละเมิดความเป็นส่วนตัวของผมเป็นอย่างมาก พวกคุณพยายามจะใช้อำนาจของพวกคุณ สร้างความกลัวและคุกคามนิสิตธรรมดาๆ เพียงคนหนึ่งอีกครั้ง

เมื่อวานนี้ ผมเองก็ถูกเจ้าหน้าที่เดินตามเป็นระยะๆ และถูกถ่ายรูปไปหลายครั้ง พอตกดึกไปแวะทานอาหารกับเพื่อนๆ ที่ร้าน McDonald’s สาขาโรงเรียนสตรีวิทยา แล้วเผอิญเจอเจ้าหน้าที่นอกเครื่องแบบ ก็ถูกจับตาและแอบฟังการสนทนาระหว่างผมกับเพื่อนอยู่ตลอดเวลา

ผมอยากจะสื่อสารอย่างตรงไปตรงมา ต่อเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงว่า พวกคุณไม่ต้องกลัวนิสิตตัวเล็กๆ คนหนึ่งในจุฬาฯ หรอกครับ ผมไม่ได้เป็นอาชญากรหรือเป็นภัยอันตรายต่อความมั่นคงของประเทศ ผมเพียงแค่แสดงออกเชิงสัญลักษณ์บนพื้นที่อันคับแคบในประเทศอันกว้างใหญ่ที่กำลังถูกกดขี่โดยเผด็จการทหารแต่เพียงเท่านั้น และหากท่านมีข้อสงสัยต่อจุดยืนหรือการกระทำของผมประการใด ขอให้ใช้ช่องทางการติดต่อแบบเป็นทางการจะดีกว่านะครับ ไม่ใช่ใช้วิธีการ “ใต้ดิน” ในการได้มาซึ่งข้อมูลแบบนี้

หวังว่าพี่ๆ เจ้าหน้าที่จะเข้าใจนะครับ
ผมเห็นใจว่าพวกพี่ต้องทำตามหน้าที่ แต่ผมก็ต้องปกป้องสิทธิและเสรีภาพของผมในฐานะของพลเมืองเช่นกัน

 

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน