ทนายเดชา ตอบแล้ว รับทำคดีทนายตั้มมั้ย? หลังสายหยุดถอนตัว ลั่นเราจะไม่ทิ้งกัน ไม่เชื่อใช้เอกสารปลอม เผย ทนายตั้ม เตรียมทีมงานว่าความไว้แล้ว มั่นใจเอาตัวรอดได้
เมื่อเวลา 17.00 น. วันที่ 25 พ.ย.67 ที่สำนักงานทนายคลายทุกข์ ทนายเดชา กิตติวิทยานันท์ ได้ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชน ภายหลังจากที่ ทนายสายหยุด เพ็งบุญชู อดีตทนายความของนายษิทรา เบี้ยบังเกิด ได้ประกาศขอถอนตัวจากการเป็นทนายความส่วนตัว และมีหลายคนตั้งข้อสงสัยว่า ทนายเดชาจะรับทำคดีของทนายตั้มหรือไม่นั้น
ทนายเดชา กล่าวว่า ตอนนี้ยังไม่ได้รับเป็นทนายของทนายตั้ม แต่จะมาเล่าให้ฟังว่าเกิดอะไรขึ้นหลังจากทนายสายหยุดถอนตัว สำหรับทนายอาคม มีปัญหาส่วนตัวกับทนายตั้ม บาดหมางกันรุนแรง ไม่สามารถรับว่าความให้กับทนายตั้มได้ ส่วนทนายสายหยุดก็เคยเป็นทีมงานของทนายตั้มในสำนักงานเคยเป็นที่ปรึกษาคอยดูแลลูกน้องของทนายตั้ม และทำคดีหมิ่นประมาทให้กับทนายตั้มมากมาย
ซึ่งทนายสายหยุดและทนายตั้ม ก็มีความสนิทสนมกันในระดับหนึ่ง เพราะวันที่ทนายตั้มโดนจับที่จังหวัดฉะเชิงเทรา ซึ่งกำลังมุ่งหน้าไปจังหวัดสระแก้วนั้น ก็ได้โทรหาทนายสายหยุด เพื่อให้มาอยู่ด้วย ในระหว่างการสอบปากคำ และดูแลเกี่ยวกับเรื่องประกันตัว ซึ่งตนได้พูดคุยกับทนายตั้มตั้งแต่ก่อนจะโดนจับทราบว่า ทนายตั้มได้เตรียมชุดทนายความเอาไว้เรียบร้อยแล้ว ไม่ได้มีเพียงแค่ทนายสายหยุดคนเดียว เชื่อว่าทนายสายหยุดดูแลเพียงแค่การประกันตัวในเบื้องต้นเท่านั้น
เมื่อถามว่าทนายเดชาจะรับทำคดีของทนายตั้มหรือไม่นั้น มันเป็นเรื่องของอนาคต เราไม่สามารถที่จะตอบได้ว่ามันจะเกิดอะไรขึ้น ตอบยากว่าวันข้างหน้าเราจะเป็นทนายให้เขาหรือไม่แต่ว่าตนก็เคยให้คำแนะนำ ทางด้านกฎหมายให้เขามาตลอดในฐานะที่เราเป็นพี่ใหญ่ ยังไม่ถึงขนาดตอบปฏิเสธหรือว่ารับทำคดี ก็ต้องดูสถานการณ์ก่อนว่าทีมทนายของเขาเป็นยังไง มองว่าเรื่องนี้คงไม่ต้องมีการเปิดตัว ยังไม่ถึงขั้นจะต้องไปว่าความ เพราะว่ากว่าจะต้องว่าความก็ใช้เวลาเกือบปี ถ้าหากว่าทนายตั้มอยากจะให้รับทำคดี ผมก็เป็นคนรับเพื่อนอยู่แล้ว อะไรที่ช่วยเพื่อนได้ เราก็ไม่ทิ้ง
ตนมองว่าที่ผ่านมา คดีของทนายตั้ม ยังไม่เคยไปถึงศาลเลย ไม่ว่าจะเป็นคดีที่เกี่ยวข้องกับยาเสพติด หรือคดีอื่นๆ เมื่อถามต่อว่าที่ไม่ตอบรับเต็มปากเป็นเพราะว่า ทนายสายหยุดแนะนำให้ทนายตั้มรับสารภาพหรือไม่ ทนายเดชา กล่าวว่า ตนไม่ทราบว่าทนายสายหยุดไปคุยกับทนายตั้มยังไงแต่ที่ทนายตั้มคุยกับตนก่อนถูกจับและคุยกันอยู่หลายครั้ง ทนายตั้มไม่เคยมีความคิดที่จะรับสารภาพเลย และบอกตลอดว่า “อาจารย์ครับ อันนี้ผมผ่านไปได้ ผมผ่านมาเยอะแล้ว“ ซึ่งแนวคิดของทนายตั้มคือ มั่นใจว่ามีทางออกส่วนจะออกทางไหนนั้น ก็เป็นเรื่องของทนายตั้ม
ทนายตั้มเป็นคนฉลาด แต่ตนไม่ได้บอกว่าเป็นคนดีหรือไม่ดี เป็นคนที่มีเหลี่ยม ใจถึง กล้าแรก กล้าได้กล้าเสีย ไม่อย่างนั้นคงไม่ได้ไปเกี่ยวข้องกับนายตำรวจคนใหญ่มากมาย ดังนั้นถ้าหากว่า ทนายตั้มจะเอาใครมาเป็นที่ปรึกษา ก็ต้องเลือกคนที่มีลักษณะบุคลิกกล้าได้กล้าเสีย ใจถึง พร้อมแลก ดังนั้นที่ทนายสายหยุดบอกว่า หัวชนฝา มองว่าถ้าหากเขาใช้เวลากับมันก็ถึงวันหนึ่งเขาอาจจะมีโอกาสในการเอาตัวรอดได้ช่วงนี้ก็คงจะต้องซื้อเวลาไปก่อน เป็นคนคิดใหญ่ อะไรเล็กๆ ไม่ทำ มองว่าทนายตั้มฉลาด รู้อยู่แล้วว่าเกิดอะไรขึ้นก็ได้วางลำดับขั้นตอนเอาไว้หมดแล้ว ซึ่งเชื่อว่าทนายตั้มก็คิดไว้อยู่แล้วว่าวันนี้จะเกิดขึ้น ตนเชื่อว่าทนายตั้มคงมีทางออก ในคุกก็มีทนายเยอะแยะ
เมื่อมีคนตั้งคำถามว่า ทนายคนต่อไป ที่จะรับทำคดี อยู่ในกลุ่มทนายอเวนเจอร์หรือไม่ ทนายเดชาบอกว่า เพิ่งพูดคุยกันก็ไม่มีใครรับเป็นที่ปรึกษาเพราะว่าทุกคนกลัวทัวร์ลง เนื่องจากสังคมตัดสินว่าเป็นคนผิด ทุกคนก็รู้สึกกลัว เดี๋ยวก็มีคนเปิดตัวเป็นทีมของทนายตั้ม ซึ่งจะต้องเป็นทีมที่มีประสบการณ์ เคยทำคดีที่สำคัญๆ มา ยกตัวอย่างเช่น หากเอกสารไม่ตรง จะแก้ต่างให้ลูกความยังไง ไม่ใช่มาถอนตัวกลางรายการ
ในฐานะทนายความคดีของทนายตั้มนั้นมีช่องทางในการต่อสู้หรือไม่ ทนายเดชาบอกว่าที่ผ่านมาเราเห็นข้อมูลผ่านสื่อ และสื่อที่เป็นสายของผู้เสียหาย แต่เรายังไม่เคยเห็นข้อมูลของตำรวจเลย ตนเชื่อว่ากองปราบมีความเป็นมืออาชีพ เป็นกลางเคียงข้างประชาชน คงไม่ให้ข้อมูลที่เป็นความลับกับนักข่าวกับผู้เสียหายรู้หรอก เพราะว่ามันผิดกฎหมาย และตนก็ไม่ทราบว่าในสำนวนของตำรวจมีพยานหลักฐานมากน้อยแค่ไหน
ส่วนประเด็นที่เอกสารไม่ตรงกันนั้น โดยหลักแล้วต้นฉบับกับคู่ฉบับจะต้องตรงกัน แต่ในส่วนของทนายตั้มหากมันไม่ตรงกันตามที่ได้เปิดเผยออกมา มองว่ามันยังมีการเอาไปใช้และตนก็ไม่เชื่อว่าทนายตั้มจะเอาเอกสารปลอมมาใช้เพราะว่าเป็นถึงทนายความ จะใช้เพื่ออะไรและเท่าที่ทราบก็ยังไม่มีการยื่นพยานเอกสารในสำนวนเลยแสดงว่าจะต้องรอว่าฝ่ายผู้เสียหายปล่อยมุกอะไรมาบ้างและตำรวจดำเนินการเสร็จสิ้นหรือไม่ หลังจากนั้นก็อาจจะไปยื่นในชั้นอัยการหรือชั้นศาลก็ได้
ส่วนประเด็นที่ทนายตั้ม ทำลายพินัยกรรม ก็ต้องดูว่ามีการลงชื่อหรือไม่ ถ้าหากลงชื่อในพินัยกรรมแล้ว และนำพินัยกรรมของลูกความไปทำลายก็มีความผิดติดคุกโทษหนัก ซึ่งเราก็ยังไม่เห็นว่าตำรวจแจ้งข้อหาเลย ก็ยังไม่สามารถตอบได้ว่าเป็นเรื่องจริงหรือไม่ ทั้งนี้ ยืนยันว่าแนวทางการต่อสู้ของทนายตั้ม ยังคงมั่นใจว่า ไม่ใช่การฉ้อโกง หากจะมีปัญหาก็เป็นเรื่องของการผิดสัญญา
อย่างไรก็ตาม ส่วนที่มีกระแสข่าวว่า ทนายตั้ม ยังไม่ให้ใช้โฉนดที่ดินในการประกันตัวภรรยา เพราะเดี๋ยวจะไม่มีหลักทรัพย์ในการประกันตัวนั้น ตนไม่ทราบว่าเรื่องนี้มีข้อเท็จจริงอย่างไร แต่ตั้งคำถามว่ามันจะเป็นไปได้เหรอ ทนายนายตั้มก็มีนาฬิกาหรูมากมาย และตอนนี้ก็ยังไม่ได้ถึงขั้นตอนของการประกันตัว ซึ่งจะต้องประกันตัวก็ต่อเมื่อตำรวจสรุปสำนวนก่อน เมื่อการสอบสวนยังไม่เสร็จสิ้นจะมีการยื่นประกันตัวทำไม เนื่องจากมันยังไม่ถึงเวลา ส่วนที่ทนายอาคมพูดนั้น ก็ไม่รู้ว่ามีข้อเท็จจริงยังไง แต่หากถามตน ทนายตั้มเป็นคนที่รักภรรยา
- อ่านข่าว ทนายสายหยุด เผยเหตุผล แยกทาง ทนายตั้ม ลั่นถ้าจะเอาดำไปเป็นขาว ทำให้ไม่ได้
- อ่านข่าว ทนายอาคมยังอึ้ง คำตอบ ทนายตั้ม เรื่องประกันเมีย ไม่ยอมให้เอาโฉนดบ้านไปวางที่ศาล
- อ่านข่าว ทนายอาคม เตรียมถอนตัวเป็นทนายความให้เมีย ทนายตั้ม แจง 2 สาเหตุ ‘ษิทรา’ ยังรั้นสู้คดี
- อ่านข่าว รองผบช.ก. จ่อออกหมายจับ ผู้ร่วมขบวนการ ทนายตั้ม คดีฉ้อโกง ‘เจ๊อ้อย’ เพิ่ม