ผลวิจัยเผย อะไรจะเกิดขึ้นกับร่างกาย หากดื่มแอลกอฮอล์ เพียงวันละแก้ว เป็นประจำ เทียบกับคนไม่ดื่ม
วิจัยต่างประเทศเผยรายงานใหม่ เกี่ยวกับสิ่งที่จะเกิดขึ้นกับร่างกาย หากเราดื่มแอลกอฮอล์วันละแก้ว เป็นประจำ เมื่อเทียบกับผู้ที่ไม่ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์
ผลการศึกษาของพวกเขาเผยให้เห็นว่า การดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เพียง 1 แก้วต่อสัปดาห์จะเพิ่มความเสี่ยงต่อภาวะสุขภาพมากกว่า 20 โรคเมื่อเปรียบเทียบกับคนที่ไม่ดื่ม ได้แก่ โรคมะเร็งถึง 8 ชนิด โรคหลอดเลือดและ ตับแข็ง ตับอ่อนอักเสบ โรคเบาหวาน และโรคลมบ้าหมู
แต่ก็มีความผิดปกติบางประการหากดื่มเพียง 1 แก้วต่อวัน และยังมีความแตกต่างระหว่างผู้ชายและผู้หญิงอีกด้วย
ตามผลการศึกษาสำหรับผู้ชาย การดื่มเพียงแก้วเดียวต่อสัปดาห์สามารถเพิ่มความเสี่ยงเป็นมะเร็ง ลำไส้ใหญ่ ได้ร้อยละ 16 และมะเร็งหลอดอาหารได้ร้อยละ 6 เมื่อเปรียบเทียบกับผู้ที่ไม่ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์

ภาพประกอบ
ในส่วนของผู้หญิง รายงานระบุว่า การดื่มเครื่องดื่ม 1 แก้วต่อสัปดาห์จะเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดมะเร็งช่องคอ มะเร็งหลอดอาหาร มะเร็งกล่องเสียง รวมถึงมะเร็งเต้านมร้อยละ 5 ของผู้ที่ดื่มแอลกอฮอล์
อย่างไรก็ตาม นักวิจัยระบุว่า ทั้งผู้ชายและผู้หญิงมีความเสี่ยงที่จะเสียชีวิตจากการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ 1 ใน 1,000 หากดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์มากกว่า 7 แก้วต่อสัปดาห์ ซึ่งจะเพิ่มขึ้นเป็นความเสี่ยงเพียง 1 ใน 100 หากดื่มมากกว่า 9 แก้วต่อสัปดาห์
ที่น่าสนใจคือ งานวิจัยยังพบว่า ผู้หญิงมีความเสี่ยงเป็นเบาหวานน้อยลงหากดื่มวันละครั้ง และโดยรวมแล้วคนที่ดื่มสัปดาห์ละครั้งมีความเสี่ยงเป็นเบาหวานต่ำกว่า และไม่มีความเสี่ยงเพิ่มขึ้นเกี่ยวกับโรคหัวใจเมื่อเทียบกับคนที่ไม่ดื่มเลย

ภาพประกอบ
โดยแนวทางปัจจุบันของสหรัฐ แนะนำให้ผู้ชายดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ไม่เกิน 2 แก้วต่อวัน ในขณะที่ผู้หญิงไม่ควรดื่มเกิน 1 แก้วต่อวัน
ด้านหัวหน้าองค์การอนามัยโลก (WHO) และนักวิทยาศาสตร์อาวุโสด้านสุขภาพ ผู้ร่วมเขียนรายงานฉบับนี้กล่าวกับสื่อต่างประเทศว่า “ในรายงานของเราพบว่า การดื่มแอลกอฮอล์ทุกระดับไม่มีความเสี่ยงโดยสิ้นเชิง ผลการวิเคราะห์แสดงให้เห็นว่า ยิ่งผู้ดื่มดื่มแอลกอฮอล์น้อยลง ความเสี่ยงต่อการเสียชีวิตก็ยิ่งลดลง”
ในทางกลับกัน เมื่อดื่มแอลกอฮอล์เพิ่มขึ้น ความเสี่ยงต่อการเสียชีวิตก็เพิ่มขึ้นตามไปด้วย ดังนั้น การดื่มแอลกอฮอล์ให้น้อยลงจะส่งผลดีต่อสุขภาพมากกว่า