ร้านหวานเย็นโดนก่อกวน กลุ่มสูงวัยต่อราคายับ ไม่ยอมจ่ายตามเมนู บอกร้านอื่นยังขายราคานี้ได้เลย พูดดูถูกพนักงานจนร้องไห้ ขู่พังร้าน ทำแบบนี้มาหลายครั้ง
จากกรณีเฟซบุ๊ก “ยู้ฮู ที่สุดของหวานเย็น” ได้โพสต์คลิปเหตุการณ์พร้อมเล่าเรื่องราวของกลุ่มลูกค้าสูงวัยกลุ่มหนึ่ง มาทานอาหารที่ร้านแต่กลับไม่ยอมจ่ายราคาตามป้าย พร้อมพูดจาดูหมิ่นพนักงานในขณะที่เจ้าของร้านไม่อยู่
ล่าสุดเวลา 13.00 น. วันที่ 17 ก.พ.68 คุณเบนซ์ เจ้าของแฟรนไชส์ดังกล่าว เปิดใจกับ ‘ข่าวสดออนไลน์’ ระบุว่า กลุ่มลูกค้ากลุ่มนึง อายุประมาณ 50-60 ปี มาทานอาหารที่ร้านแห่งนี้ แล้วไม่ยอมจ่ายราคาตามเมนู ทั้งยังพูดจารุมพนักงาน จนพนักงานร้องไห้ไม่กล้าต่อล้อต่อเถียง ด้านเจ้าของร้านก็ไม่ได้เข้าร้านไป ซึ่งร้านของตนขายเป็นขนมหวาน หวานเย็นน้ำแข็งไส ที่ใส่ท็อปปิ้งพวกลอดช่อง ซาหริ่ม ราคาเริ่มต้นอยู่ที่ท็อปปิ้ง 1-4 อย่าง 45 บาท
จากในคลิปคือช่วงเวลาประมาณ 15.00 น. วันที่ 5 ก.พ.ที่ผ่านมา กลุ่มลูกค้ากลุ่มนี้มากันถึง 10 คน ซึ่งไม่ใช่เหตุการณ์ครั้งแรก แต่เป็นเหตุการณ์ที่กลุ่มลูกค้ากลุ่มนี้กระทำแบบนี้เป็นครั้งที่ 3 แล้ว และก็ยังมีครั้งที่ 4 อีก วันนี้ก็มีอีก ซึ่งเป็นกลุ่มลูกค้ากลุ่มเดิม บางครั้งมากัน 2 คนบ้าง 4 คนบ้าง 6 คนบ้าง
โดยลูกค้ากลุ่มดังกล่าวอ้างว่า เขาเลือกท็อปปิ้งแค่ 2-3 อย่างเอง ทำไมต้องจ่ายราคา 45 บาท แต่กลุ่มลูกค้านี้ต้องการจะจ่ายในราคา 35 บาทเท่านั้น พร้อมยื่นเงิน 35 บาทจ่ายให้พนักงานเลย อีกทั้งยังอ้างว่าไปกินร้านอื่นก็ราคานี้ แล้วทำไมของร้านนี้ต้องจ่ายราคานี้ด้วย ทั้งๆ ที่ร้านเราก็มีป้ายราคาบอกเมนูชัดเจน นอกจากนี้ยังมีเมนูเฉพาะที่ทางร้านเลือกท็อปปิ้งให้ จะราคาประมาณ 35-45 บาท แต่ลูกค้าก็จะบอกว่า เขาขอเปลี่ยนจากลอดช่องเป็นแปะก๊วย ซึ่งเป็นของที่ราคาแพงกว่า แต่ให้คิดราคาเท่าเดิม เหมือนเป็นการเอาเปรียบร้าน ซึ่งลูกค้าจะสั่งมารับประทานกันเรียบร้อยแล้วค่อยจ่ายตังค์
อีกทั้งมีการพูดจาดูถูกดูหมิ่นพนักงาน ว่าเดี๋ยวจะฟ้องแฟรนไชส์ เดี๋ยวจะฟ้องคนโน้นคนนี้ ล่าสุดขู่ว่า ถ้าไม่ให้เข้าร้านจะพังร้านด้วย ซึ่งพนักงานก็ได้แต่ตอบรับว่า ค่ะ และยอมรับไปเพราะไม่กล้าเถียง ไม่กล้าอะไร
ตอนแรกที่ตนยังไม่เห็นคลิปพฤติกรรมของลูกค้ากลุ่มนี้ ตนแจ้งร้านไปว่า ไม่เป็นไรหรอก ลูกค้าประจำ นิดๆ หน่อยๆ ทางร้านลดราคาให้ได้ แต่พอได้เห็นคลิปดังกล่าว เห็นว่าลูกค้ากลุ่มดังกล่าวใช้คำพูดที่รุนแรงมาก เลยมองว่าถ้าเป็นอย่างนี้ไม่ได้แล้ว รวมถึงกลุ่มนี้มักจะมาที่ร้านตนบ่อย มาเป็นประจำ ไม่ได้มาแค่ครั้งเดียวแล้วไป เหมือนมาในลักษณะก่อกวนด้วย รวมทั้งตอนมาลูกค้าที่อยู่ข้างนอกก็ได้ยิน แล้วไม่กล้าเข้าร้าน ทำให้ร้านตนเสื่อมเสีย
ในมุมของตนจึงมองว่า ร้านตนเป็นร้านเล็กๆ แล้วพวกเขากลับมารังแก มาให้ลดราคา 5 บาท 10 บาท แล้วก็มาบอกว่า ต้นทุนแค่ไม่กี่บาท จ่ายราคานี้ก็ได้ ทั้งนี้ทุกอย่างมีต้นทุนของมันหมด ถ้าเขาเกิดทำอย่างนี้กับร้านอื่นๆ อีก มันก็จะไม่ดี ทำให้ตัวเขาเองภาพลักษณ์ติดลบไปหมด ไปร้านไหนก็จะไม่มีใครอยากต้อนรับแล้วถ้าทำแบบนี้
โดยเบื้องต้นทางร้านยังไม่ได้ไปแจ้งความอะไร เพราะว่ามองว่าเป็นแค่เรื่องเล็กๆ เลยปล่อยผ่านไปก่อน แต่ว่าจากคำขู่ที่กลุ่มลูกค้ากลุ่มนี้บอกว่า ถ้าไม่ให้เขาเข้าร้าน จะมาพัง ตนก็ต้องลองคิดดูก่อนว่าจะทำยังไง
